ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แนะตั้งเครือข่ายน้ำกก-น้ำสาย แก้น้ำปนเปื้อนสารพิษ

สิ่งแวดล้อม
11 เม.ย. 68
20:48
68
Logo Thai PBS
แนะตั้งเครือข่ายน้ำกก-น้ำสาย แก้น้ำปนเปื้อนสารพิษ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ภาคประชาชน-วิชาการ จี้เร่งฟื้นแม่น้ำกก หวั่นกระทบวิถีชีวิต แนะตั้งเครือข่ายแก้ลุ่มน้ำกก-สาย สะท้อนปัญหาแม่น้ำปนเปื้อนสารพิษ

วันนี้ (11 เม.ย.2568) ที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดเสวนา “กก” วิกฤติ ชะตากรรมชุมชนท้องถิ่น มีภาควิชาการและภาคประชาชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยน

แม่น้ำกกมีสารปนเปื้อน แม่น้ำกกอาจไม่เหมือนเดิม

ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงแม่น้ำกกสีขุ่นข้นขึ้น นำไปสู่ข้อสงสัยว่า มีอะไรเกิดขึ้นบนต้นแม่น้ำ ซึ่งจากภาพถ่ายทางอากาศบริเวณต้นน้ำที่เคยมีป่าหนาแน่น ปัจจุบันมีการถางป่าและทำลายป่า ทำเหมืองทองคำ บนต้นน้ำแม่กก

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า มีการทำเหมือนทองคำ แต่ไม่มีข้อมูล เพราะต้นน้ำกกอยู่ในรัฐฉานเป็นพื้นที่กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ การจะเข้าไปเก็บข้อมูลถือว่า ทำได้ยาก

การตรวจพบมีสารปนเปื้อน ต่อผู้ใช้น้ำอุปโภค-บริโภค ชาวบ้านได้รับผลกระทบ วันนี้ข้อมูลต่าง ๆ จะเชื่อมโยงประชาสังคม และนักวิชาการ จ.เชียงใหม่-เชียงราย สู่ทางออกแก้ปัญหาและเข้าใจมากขึ้น

แม่น้ำกก เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศข้อมูลฝั่งเมียนมาทำได้ยาก
รัฐบาลกลางเมียนมา ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ในอำนาจของกลุ่มชาติพันธุ์ได้ ฉะนั้นขอเรียกร้องในการหยุดสารพิษจากเหมืองทอง จึงทำได้ยาก

ถ้าไม่เริ่มต้นร่วมมือกันระหว่างภาคประชาชนและรัฐ น่าจะลำบากมากยิ่งขึ้น เตรียมตัวหาทางป้องกัน และยับยั้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้แม่น้ำกก

ด้านพระมหานิคม มหาภิกขมโม วัดท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้อธิบายให้เห็นความสัมพันธ์ของคนต้นแม่น้ำกกในรัฐฉาน กับคนลุ่มน้ำกก ต.ท่าตอน ว่า ในพื้นที่ต้นน้ำกก ในรัฐฉาน มีเมืองอยู่ 3 บริเวณเมืองต้นน้ำกก ก่อนไหลเข้า สู่ แม่อาย จ.เชียงใหม่-เชียงราย

แม่น้ำกก รัฐฉานตอนใต้ มีต้นน้ำจากเมืองกก ไหลมาออกแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีความยาว 285 กม.

การเดินทางไปต้นแม่น้ำกกเดินทางจากรัฐฉาน-อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีชุมชนใหญ่ ๆ 3 ชุมชน คือ “เมืองกก” เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีไม่กี่หมู่บ้าน ความเจริญมีน้อย คมนาคมเข้าไปลำบาก ถ้าเดินทางจากเมืองท่าขี้เหล็ก ต้องผ่านเมืองพยาก-เมืองกก แต่ถ้าไปเส้นทางท่าตอน จะผ่านเมืองสาด-เมืองกก

เส้นทางจาก ต.ท่าตอน ไปเมืองสาด เส้นทางเรือไม่สามารถไปถึง เพราะบริเวณเมืองสาดมีหน้าผาสูงชัน การสัญจรทั่วไปลำบาก

วิถีชีวิตชุมชนตอนนี้ ชาวบ้านเมืองกก ใกล้เป็นเมืองร้าง เพราะเป็นเป้าหมายของการทำเหมืองแร่ ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพออกมา และถูกบังคับขายไร่ขายนา รับจ้างเป็นทหารว้า และอพยพหนีมาไทย หรือเมืองอื่นบ้าง

ปี 2565 เคยมีการประท้วงเหมืองแร่ เมื่อเริ่มมีการประท้วงชาวบ้านที่ประท้วงถูกอุ้มหาย และถูกทำร้ายร่างกาย ทาง ต.ท่าตอน ทราบ ก็มีการประท้วง จึงทำให้เหมืองแร่ที่เมืองกกหยุดลง

“เมืองสาด” เป็นอีกเมือง ที่อยู่ถัดมาจากเมืองกก เป็นเมืองใหญ่ ระดับอำเภอ หลายหมู่บ้านมีวิถีชีวิตขึ้นอยู่การปกครองรัฐบาลเมียนมา และกลุ่มชาติพันธุ์ว้า แบ่งพื้นที่การปกครอง โดยในเมืองเป็นเขตพื้นที่ทหารเมียนมาปกครอง ส่วนพื้นที่รอบนอกเป็นทหารว้า เมื่อระบบการปกครองไม่เป็นประชาธิปไตย ชาวบ้านทำอะไรไม่ได้มาก

ชาวเมืองสาด เป็นชาวพุทธ ร้อยละ 90 การเข้าวัดจึงเปรียบเสมือนกิจกรรมเดียว ที่อาจสร้างความสุข ขณะที่กิจกรรมทางการเมืองทำไม่ได้

เศรษฐกิจของเมืองสาดพื้นที่รอบนอกคือ การทำไร่ ทำนา ส่วนพื้นที่เขตเมืองจะทำอาชีพค้าขายเป็นส่วนใหญ่ หลังรัฐบาลทหารเมียนมาเข้ามาควบคุม พื้นที่รอบนอกเมืองสาด ถูกกดดันหลายอย่างแต่ในเมืองยังค้าขายได้ โดยเศรษฐกิจขึ้นอยู่การเมือง

“เมืองยอน” เป็นเมืองที่ติดกับ ต.ท่าตอน เป็นชุมชนเล็ก ๆ กว่าเมืองสาด มีประมาณ 4-5 หมู่บ้าน เมื่อก่อนปี 2500 เป็นที่ทำกินของชาวบ้านท่าตอนปัจจุบัน หลังจากนั้นมีปัญหาทางการปกครอง เมียนมาให้ทหารหลายกลุ่มมาอาศัย ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีมาอยู่ท่าตอนในปัจจุบัน

ปัจจุบันเมืองยอนใหม่ ถูกเรียกว่า “เปียงคำ” มีทหารว้าควบคุม โดยมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ด้วย เช่น ไทยใหญ่

วัฒนธรรมคนสองฝั่งแม่น้ำกก แต่เมื่อทหารเมียนมา ปกครอง ก็เริ่มให้กลุ่มทุนจีนเข้ามาทำเหมืองทอง และตัดต้นไม้ ปลูกยางพาราแทน “จีนแดง” มาสัมปทานทำเหมืองทอง

นอกจากนั้นยังมี “กลุ่มทุนจีน“ ยังสัมปทานบ่อนคาสิโน มีคอลเซ็นเตอร์ หลังทางการจีนปราบปรามไม่นานก็เกิดน้ำท่วมหนัก

ข้อมูลแลกเปลี่ยนในเวทีปัญหาแม่น้ำกก และการทำเหมืองทอง เริ่มเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปี บริเวณ บ้านเมืองฮุง เขตติดต่อระหว่างเมืองยอน กับเมืองสาด ผลจากการมีเหมือง ภาคประชาชนบริเวณ ต.ท่าตอน ที่มาร่วม ต่างกังวลในผลกระทบโดยเฉพาะสุขภาพ และการใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งพาจากน้ำ โดยเฉพาะการประปา การเกษตรกรรม การท่องเที่ยว ฯลฯ

นาง ต. เปิดเผยถึงความกังวลแม่น้ำกกสีขุ่น และปนสารหนู โดยเล่าย้อนไปในอดีตว่า ตัวเองอยู่กับน้ำตั้งแต่เด็ก น้ำใส วิถีชีวิต หาปลา ก็เห็น ปลาว่ายขึ้นว่ายลง บางครั้งมีกระบอกไม้ไผ่ มีกุ้ง มีปลา มีหอย ตอนนี้แม่น้ำเปลี่ยนทิศ น้ำท่วมปีนี้ ไม่รู้ดิน หรือโคลนไหลมาเยอะแยะ เป็นไม้ซุงไหล เข้ามาในบ้าน

ชาวบ้านคิดว่า น้ำควรจะใส แต่น้ำขุ่นเหมือนสีน้ำชา ตอนแรกไม่คิดอะไร เล่นน้ำกันอยู่ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เริ่มเป็นผื่นคัน ทุกวันนี้ชาวบ้านทำแพ ท่องเที่ยว ก.พ.-เม.ย. เป็นรายได้ชุมชน บางวันไม่ทีคนมาเที่ยวเลย เมื่อไหร่จะได้รับการแก้ไข ตอนนี้ยังไม่รู้เลย

นาย ป.ชาว ต.ท่าตอน กล่าวว่า ชาวบ้านอยู่ใกล้น้ำกินไม่ได้ นอนไม่ค่อยหลับ หลังสุ่มตรวจแม่น้ำกกมีสารพิษปนเปื้อน

ตอนแรกใช้น้ำประปาหมู่บ้าน นำที่สูบไปผลิตเป็นน้ำจากแม่น้ำกก จึงตั้งคำถามไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ว่า จะมีวิธีแก้ไขการปนเปื้อนระดับวงกว้างอย่างไร หรือน้ำบาดาลมีสารพิษหรือไม่ หรือเข้าสู่พืชผลทางการเกษตรหรือไม่ ทุกวันนี้ชาวบ้านกังวลไปหมด

ขณะที่ชาวบ้านที่มาจาก เมืองสาด รัฐฉานหลายคนบอกว่าต้นน้ำกกยังน้ำกกใส แต่มีเหมืองอยู่บริเวณเมืองยอน โดยมีกลุ่มทุนจีนเป็นคนออกทุน กลุ่มชาติพันธุ์ว้า เป็นคนควบคุม ส่วนลูกจ้างเป็นคนพื้นที่ บนแม่น้ำกกตอนบน มีการทำเหมืองแร่ แต่ท้ายน้ำมีสารพิษปนเปื้อน หน่วยงานต่าง ๆ จะแก้ไขอย่างไร

ด้านพระมหานิคม กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงแต่สารพิษที่ปนเปื้อนแม่น้ำกก อีกสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ ปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม สาเหตุจากเปิดหน้าดินเหมืองแร่

พระมหานิคม กล่าวถึง ประสบการณ์แม่น้ำกกหลากท่วมปี 2513 มีน้ำมากพอสมควรซึ่งเท่าปี 2567 น้ำท่วมมิดหลังคาบ้าน

จะแตกต่างกันอดีต น้ำจะค่อยๆ ลด ไม่เหลือโคลน น้ำขึ้นค่อยๆ ขึ้นทีละคืบ แต่น้ำท่วมมาปีนี้ มาทีเดียวน้ำไม่มาแรง ก็กังวลน่ากลัว และน้ำไม่ใช่น้ำโคลนแบบนี้

ด้าน อ.มาลี สิทธิเกรียงไกร อาจารย์ประจำศูนย์ศึกษาชาติพันธุ์และการพัฒนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ปัญหาการปนเปื้อนโลหะ เป็นการปนเปื้อนข้ามพรมแดน เหมืองแร่หลายแห่ งอาจไม่มีการควบคุมจากการแต่งแร่ เป็นที่มาของแม่น้ำกกปนเปื้อนสารหนูและตะกั่ว เกินค่ามาตรฐาน

สิ่งที่ต้องเร่งทำคือ หาคนรับสารพิษ พืชผัก ว่ามีการปนเปื้อนอย่างไรบ้าง น้ำไหลไปไหน มีสารอะไรบ้างตกค้างที่ไหน ซึ่งจะต้องหยุดกิจกรรมเหมืองแร่ เป็นเรื่องการเมือง ผลประโยชน์ ที่ทับซ้อนมาก จะต้องมาคุยกันว่าจะร่วมกันแก้ปัญหาและช่วยเหลือชาวบ้านและสังคมลุ่มน้ำกกอย่างไรให้เข้าใจสิทธิของตัวเอง สิทธิของแม่น้ำและชุมชน

ด้าน ดร.ชยันต์ ได้กล่าวเสนอให้มหาวิทยาลัย เร่งคุยกับชาวบ้านทำความเข้าใจ และต้องเริ่มเก็บข้อมูล ที่สำคัญต้องหารือกันระหว่างจังหวัดเชียงราย-เชียงใหม่ ในภาคราชการ ภาคประชาคม หอการค้า และสมาคมการเกษตรต่าง ๆ ต้องรีบแก้ปัญหานี้เรียกร้องไปรัฐบาล กับทางการเมียนมา เพราะกระทบคนจำนวนมาก ทำในเชิงยุทธศาสตร์ ตั้งเครือข่ายลุ่มน้ำกก-สาย สะท้อนปัญหาแก้แม่น้ำปนเปื้อนสารพิษ

รายงาน : โกวิทย์ บุญธรรม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ

อ่านข่าว : “บิ๊ก สตง.” โผล่แจ้งปมตึกถล่ม ผิดหวังซ้ำสอง “โลกสวย” อื้อ

เปิดภาพ "นักธุรกิจจีน" ร่วมงานลงนามก่อสร้างอาคาร สตง.

"ค่าครองชีพสูง" กระทบคนเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง