เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2568 4 สมาคมผู้ค้า ผู้ผลิต และเกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบอาหารสัตว์ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนแนวทางการเจรจาต่อรองกับสหรัฐ เพราะไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะอนุญาตนำเข้าข้าวโพดรวมถึงวัตถุดิบอาหารสัตว์จากสหรัฐ
นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย ระบุว่า ไทยมีข้าวโพดและวัตถุดิบเพียงพอต่อการผลิตอาหารสัตว์ ไม่จำเป็นต้องนำเข้า และปัจจุบันข้าวเปลือก ข้าวโพด และมันสำปะหลังไทย ราคาตกต่ำต่อเนื่อง ราวร้อยละ 30-45 หากยิ่งนำเข้ามาเพิ่ม ยิ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤตของเกษตรกร
นอกจากนี้ ยังกังวลว่าประเทศไทยมีนโยบายห้ามปลูกพืชตัดต่อพันธุกรรม แต่สหรัฐปลูกข้าวโพด GMO หากนำเข้ามาจะทำให้ไทยเสียเปรียบทางการแข่งขัน
โดย นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) เป็นผู้แทนรับหนังสือ ระบุว่า จะนำเรื่องนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะทำงาน เพื่อเป็นข้อมูลให้รัฐบาลนำไปพิจารณาแนวทางต่อรองกับสหรัฐฯ ต่อไป ยืนยันว่า รัฐบาลจะพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ กระทบต่อประชาชนและเกษตรกร
ขณะที่ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยอมรับว่า มาตรการตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐฯ ขณะนี้เริ่มมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกแล้ว เพราะผู้นำเข้าชะลอการซื้อ เนื่องจากไม่แน่ใจว่าอัตราภาษีดังกล่าว ยังเป็นไปตามที่ประกาศไว้หรือไม่ ขณะเดียวกันก็ยังต้องเจรจากับผู้ส่งออกว่าภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นนั้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
พร้อมเสนอให้รัฐบาลตั้งทีมไทยแลนด์ เพื่อระดมสมองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อรวบรวบผลกระทบ ปัญหาที่เกิดขึ้น และหามาตรการรองรับ โดยทีมไทยแลนด์จะแยกจากทีมเจรจรา
นอกจากนี้ ยังเสนอให้ขยายตลาดการส่งออกไปตลาดอื่นทดแทนการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เช่น หาตลาดในอาเซียนบวก 3 ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียน กับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ให้มากขึ้น
ขณะเดียวเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูและตัวแทนสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ กว่า 1,000 คน รวมตัวกันเตรียมเดินทางไปยังกระทรวงการคลังในวันที่ 10 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. เพื่อจะยื่นหนังสือถึง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาแก้ปัญหาดุลการค้าสหรัฐฯ เรียกร้องให้พิจารณาผลกระทบจากการนำเข้าเนื้อหมูและเครื่องในหมูจากสหรัฐอเมริกาอย่างรอบด้าน
จากนั้นจะเดินทางไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อแสดงความขอบคุณ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทยเช่นกัน
อ่านข่าวอื่น :