วันนี้ (1 เม.ย.2568) การรื้อซากอาคารสูง 30 ชั้น ที่ถล่มลงมา ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องต่อทั้งคืน แต่จะใช้เครื่องจักรเบา และระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทหาร และได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อีกหลายประเทศ สับเปลี่ยนเข้าไปค้นหาผู้ติดค้าง กระจายกำลังค้นหา ด้านล่าง และบริเวณโดยรอบ ทั้ง 4 โซน แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลย ไปกว่า 80 ชั่วโมงแล้ว

นายปฏิญญา วิบูลย์นันท์ รองหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า แม้จะเลยกำหนดครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังเร่งเดินหน้าค้นหาอย่างเข้มข้น โดยได้ปรับแผนการรื้อซากอาคาร และเพิ่มรถเครนขนาด 600 ตัน จำนวน 2 ตัว เข้ารื้อซากอาคาร โซน C และ D จากด้านบนลงสู่ด้านล่าง และต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยังพบว่าโครงสร้างอาคาร ยังมีการเคลื่อนตัว
การค้นหาได้ขยายเวลาเป็นแนวทางปฏิบัติ จากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ยังให้ความสำคัญต่อปฏิบัติการค้นหาจากทุกภาคส่วน เพราะทุกวินามียังมีความหมายสำหรับผู้รอการช่วยเหลือ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ทำหน้าที่ค้นหาอย่างเข้มข้น

เจ้าหน้าที่ยังคาดการณ์ว่า หากใต้โครงสร้าง ยังมีช่องอุโมงค์ หรือปล่องลิฟต์ อาจมีความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้เท่าๆกัน ว่ามีผู้ติดค้างอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ จะต้องรอผลการตรวจสอบ ขณะที่ด้านนอกมีชุดเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ฉุกเฉิน รอสนับสนุนช่วยเหลือ หากพบสัญญาณชีพจากด้านในได้ทันที
โดยบริเวณรอบนอกจุดค้นหา มีญาติๆ ของผู้สูญหาย และคิดค้างอยู่ภายใน มาติดตามการค้นหาของเจ้าหน้าที่และเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวังตลอดทั้งคืน
ขณะที่ช่วงเช้าประมาณ 08.00 น. จะเริ่มใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้ารื้อซาก ค้นหาผู้ติดค้าง อยู่ด้านใน ส่วนยอดผู้เสียชีวิต ยังอยู่ที่ 13 คน เป็นผู้ชาย 8 คน ผู้หญิง 5 คน
อ่านข่าว :
นานาชาติส่งความช่วยเหลือให้เมียนมา ทีมกู้ภัยทำงานแข่งกับเวลา-อากาศร้อน
ผลตรวจ "เหล็ก" อาคาร สตง.ถล่ม พบ 10% ของตัวอย่างไม่ผ่านมาตรฐาน