ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวเมียนมา ขนาด 8.2 เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.2568) ส่งผลกระทบให้อาคารพังถล่มในหลายเมืองทั่วเมียนมา
วันนี้ (29 มี.ค.2568) เจ้าหน้าที่กาชาด และประชาชนต่างทยอยนำผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเนปยีดอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต้องจัดพื้นที่รับตัวผู้ป่วยชั่วคราว บริเวณด้านนอกอาคาร หลังอาคารแผนกฉุกเฉินพังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว
เมื่อวานนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคนทยอยเดินทางมารับการรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ต้องช่วยเหลือประชาชนกันบนถนนนอกอาคาร โรงพยาบาลแห่งนี้ถือเป็นที่แรก ๆ ที่ พล.อ.อาวุโสมิน ออง ไลง์ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ลงพื้นที่ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบความเสียหายตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมืองหลวง

ส่วนในวันนี้ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง เดินทางไปยังมัณฑะเลย์เพื่อตรวจสอบความเสียหาย โดยภูมิภาคนี้เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด ก่อนหน้านี้ทางการรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตในมัณฑะเลย์เกือบ 700 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 1,002 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 2,376 คน
นักธรณีวิทยาในสหรัฐฯ ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา ในรอบมากกว่า 100 ปี โดยพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณู 334 ลูก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ หรือ aftershocks ต่อเนื่องนาน 2-3 เดือน เนื่องจากแผ่นเปลือกโลกอินเดียยังคงชนกับแผ่นยูเรเชียใต้เมียนมา
ความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความเสียหายที่กินบริเวณกว้าง ส่งผลให้รัฐบาลทหารเมียนมาต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 6 พื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ตั้งแต่ซะไกง์ มัณฑะเลย์ รัฐฉาน มาเกว พะโค รวมทั้งเนปยีดอ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเมียนมา ต้องใช้มือเปล่าและเครื่องมือขนาดเล็ก เพื่อช่วยเหลือแม่และเด็กที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารในเมืองหลวง ซึ่งพังถล่มลงมาบางส่วนจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้
การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากหลายพื้นที่ขาดแคลนอุปกรณ์และไม่มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่หลายเมืองใหญ่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ระบบสื่อสารและอินเทอร์เน็ตใช้การไม่ได้ หลังระบบโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ด้านซู โมน เท เจ้าหน้าที่องค์การ Plan International Myanmar ในนครย่างกุ้ง ระบุว่า ได้จัดทีมช่วยเหลือลงพื้นที่ในมัณฑะเลย์ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ พร้อมทั้งระดมทรัพยากรขึ้นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่พบอุปสรรคหลายอย่าง
นอกจากนี้ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ โดยทางการจีนถือเป็นชาติแรก ๆ ที่ส่งทีมช่วยเหลือหลายชุด พร้อมอุปกรณ์ทั้งโดรน เครื่องตรวจหาสัญญาณชีพ ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว และดาวเทียมแบบพกพา ลงพื้นที่ทำภารกิจกู้ภัยในเมียนมา
ด้านกองทัพอากาศอินเดีย ทยอยลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ เต็นท์ ผ้าห่ม อาหาร และสิ่งของที่จำเป็นอื่น ๆ น้ำหนักรวม 15 ตัน เพื่อนำไปมอบให้กับเมียนมา หรือแม้แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศตัดงบประมาณช่วยเหลือต่างชาติก่อนหน้านี้ ก็ออกมาระบุว่า ได้พูดคุยกับเมียนมาแล้ว และสหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือเมียนมาที่กำลังเผชิญเหตุแผ่นดินไหวครั้งเลวร้าย
รวมทั้งมีรัสเซีย อาเซียน สหภาพยุโรป และอีกหลายประเทศ ที่ทยอยออกมาประกาศสนับสนุนความช่วยเหลือ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเมียนมาและกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนจำนวนหนึ่ง ออกมาแสดงความกังวลว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะใช้ความช่วยเหลือเหล่านี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ โดยเฉพาะการแจกจ่ายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ควบคุมของฝ่ายต่อต้าน หรือในพื้นที่สู้รบ
กลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาออกมาระบุว่า กองทัพเมียนมายังคงเปิดการโจมตีทางอากาศในซะไกง์และพะโค ทั้งที่พื้นที่เหล่านี้กำลังประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรง
อ่านข่าว : 29 ชม.เหตุอาคารถล่ม เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เร่งช่วยคนติดใต้ซาก