ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

20 ปีความขัดแย้ง "ณัฐพงษ์" ซัดนายกฯ ยอมเสียชาติเพื่อ "ทักษิณ"

การเมือง
26 มี.ค. 68
01:29
590
Logo Thai PBS
20 ปีความขัดแย้ง "ณัฐพงษ์" ซัดนายกฯ ยอมเสียชาติเพื่อ "ทักษิณ"
อ่านให้ฟัง
09:26อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ณัฐพงษ์ ผู้นำฝ่ายค้าน ซัด นายกฯ แพทองธาร อภิปรายไม่ไว้วางใจเดือด 2 วัน ชี้ "ดีลแลกประเทศ" 20 ปี ไทยสูญเสียทุกอย่างให้ทักษิณไป-กลับ จงใจหนีภาษี อิงกลุ่มทุน ลั่นเจตจำนงแก้รัฐธรรมนูญสวนทางคำพูด ลุ้นโหวต 26 มี.ค.

วันนี้ (26 มี.ค.2568) การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสิ้นสุดลง หลังจากการถกเถียงดุเดือดนาน 2 วันเต็ม โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นสรุปญัตติด้วยการโจมตี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างเผ็ดร้อน

โดยหยิบประเด็น "ดีลแลกประเทศ" ขึ้นมาเป็นแกนหลักในการกล่าวหา ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองตลอด 20 ปีที่ผ่านมาได้นำไปสู่สถานการณ์ที่ประเทศไทยต้องสูญเสียทุกอย่างถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพื่อขับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากประเทศ และครั้งที่ 2 ในปัจจุบันเพื่อนำทักษิณกลับมา ซึ่งนายณัฐพงษ์ชี้ว่าเป็น "ข้อเท็จจริง" ไม่ใช่เพียงการกล่าวหา

นายณัฐพงษ์ตั้งคำถามถึงเจตจำนงทางการเมืองของนายกฯ อย่างหนักหน่วง โดยระบุว่า แม้นายกฯ จะเคยประกาศว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่การกระทำในทางปฏิบัติกลับสวนทางกับคำพูด และยังกล่าวหาว่า นายกฯ จงใจดำเนิน "ธุรกรรมอำพราง" เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี อิงแอบกับกลุ่มทุน และเอาใจอำนาจเก่า

พร้อมทั้งวิจารณ์ว่า นายกฯ พยายามวางตัวเป็น "เหยื่อทางการเมือง" โดยเล่าประวัติชีวิตส่วนตัวตั้งแต่การรัฐประหาร 2549 และความขัดแย้งที่ตามมา

ท่านพยายามทำให้ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ทุกคนในประเทศนี้ต่างเป็นเหยื่อจากความขัดแย้ง 20 ปี ไม่ใช่ท่านคนเดียวในฐานะลูกสาวของทักษิณ

นายณัฐพงษ์ยังยกตัวอย่างถึงความรู้สึกของลูกสาวคนเสื้อแดงที่สูญเสียครอบครัวจากการต่อสู้เพื่อทักษิณในอดีต เพื่อเปรียบเทียบกับจุดยืนของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ครอบครัวคนเสื้อแดงที่เสียไป ลูกสาวของเขารู้สึกอย่างไร ? หลายคนโกรธ เศร้า และหมดหวังกับการเมืองแบบนี้ ถ้าเรายังวนเวียนกับเรื่อง 20 ปีที่แล้ว ความขัดแย้งก็จะไม่จบ เขากล่าว

20 ปีที่แล้ว ไทยเสียทุกอย่างเพื่อให้ทักษิณออกไป วันนี้กำลังเสียทุกอย่างเพื่อให้ทักษิณกลับมา นี่คือดีลแลกประเทศที่พูดถึง

นายณัฐพงษ์ ยังวิจารณ์ว่า นายกฯ พยายามโยนความผิดให้ฝ่ายค้านว่าสร้างวาทกรรมใส่ร้าย และไม่ใช่การเมืองสร้างสรรค์ นี่คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อกล่าวหาท่าน ท่านต้องชี้แจง แต่ท่านกลับโยนข้อกล่าวหามาที่เรา ทั้งที่เราทำหน้าที่ มันสมเหตุสมผลหรือ ? นายณัฐพงษ์ยังกล่าว พร้อมตั้งคำถามถึงภาวะผู้นำของ นายกฯ ที่มักกดคนอื่นเพื่อปกป้องตัวเอง และยังยกประเด็นปัญหาเก่าที่ นายกฯ ไม่เคยแก้ไข เช่น สัมปทานทางด่วน ค่าไฟฟ้าแพง และเหมืองทองอัครา ท่านบอกว่าเป็นเรื่องเก่า แต่ถ้ามันผิด ทำไมท่านที่มีอำนาจแล้วไม่แก้ ? 

ประเด็น "ดีล" ถูกขยายความอย่างละเอียด โดยนายณัฐพงษ์ถามว่าดีลที่ นายกฯ อ้างว่าเป็นเรื่องปกติในการเมืองนั้นโปร่งใสและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ ท่านต้องอธิบายว่าเหตุใดต้องโกหกประชาชนจากคำสัญญาที่เคยให้ไว้ ลองเล่าเหตุผลจริง ๆ ให้เราเข้าใจโลกการเมืองของท่านหน่อย แต่ชี้ว่า นายกฯ ไม่เคยให้คำตอบที่ชัดเจน เพราะพูดไม่ได้ พูดไปไม่มีใครเข้าใจ เพราะดีลนี้ไม่ใช่เพื่อคนส่วนใหญ่ แต่เพื่อผลประโยชน์ของคนไม่กี่กลุ่ม

ในประเด็นภาษี นายณัฐพงษ์หยิบยกคำถามของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2568 ที่ถามถึงการจ่ายภาษี โดยตั้งข้อสงสัยว่า หากไม่มีคำถามนี้ นายกฯ มีแผนจะจ่ายภาษีเมื่อใด หรือตั้งใจเลี่ยงไปเรื่อย ๆ เพราะไม่มีกำหนดชำระและดอกเบี้ย

ถ้าทุกคนในประเทศถือหุ้นแบบนายกฯ และใช้วิธีเดียวกันหลีกเลี่ยงภาษีมรดก ประเทศไทยจะเก็บภาษีได้กี่บาท ? นี่คือธุรกรรมอำพรางเพื่อหนีภาษีชัด ๆ พร้อมตั้งคำถามถึงสามัญสำนึกของวิญญูชนว่าพฤติกรรมนี้ถูกต้องหรือไม่

สำหรับกรณีปลาหมอคางดำ นายกฯ ตอบว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีมาตรการแก้ไขและตั้งงบ 98 ล้านบาท แต่ฝ่ายค้านโดย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ชี้ว่าไม่ได้ถามเรื่องงบ แต่ถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะบังคับใช้กฎหมายให้บริษัทที่ก่อปัญหารับผิดชอบเมื่อใด ทำไมต้องใช้ภาษีประชาชนแก้ปัญหาที่บริษัทสร้าง ?

ส่วนปัญหาฝุ่น PM 2.5 นายกฯ ใช้ตัวเลขจุดความร้อนที่ลดลงมาตอบ แต่ฝ่ายค้านแย้งว่าพื้นที่เผาไหม้เพิ่มขึ้นตามข้อมูลที่เปิดเผย นี่คือการเลือกตัวเลขสวย ๆ มาหลอกประชาชน ถ้าตัวชี้วัดไม่ถูกต้อง การแก้ปัญหาก็ไม่เกิด

และในเรื่องค่าไฟแพง นายกฯ ระบุว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยซื้อไฟฟ้าเพิ่ม แต่ฝ่ายค้านตั้งคำถามว่าจะสืบสานแผนผิด ๆ ต่อไปหรือไม่ และหยิบภาพนายทักษิณตีกอล์ฟกับกลุ่มทุนพลังงานมาถามถึงความสัมพันธ์ ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า ? ทำไมถามไม่ได้ ? เขากล่าว พร้อมเรียกร้องให้ นายกฯ ลุกขึ้นตอบว่าจะปรับปรุงหรือไม่

ระหว่างการสรุป สส.พรรคร่วมรัฐบาล เช่น นางสาวจิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ จากพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่านายณัฐพงษ์ตั้งคำถามใหม่ทั้งที่การอภิปรายจบแล้ว และรัฐบาลไม่มีโอกาสตอบ

ขณะที่ สส.ฝ่ายค้านโต้แย้ง และ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน

กระทั่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ วินิจฉัยว่าเป็นการสรุปข้อกล่าวหาเดิม แต่ขอให้งดตั้งคำถามใหม่

นายณัฐพงษ์ยืนยันว่า นายกฯ สามารถใช้สิทธิ์พาดพิงตอบได้ แต่ปรากฏว่า นายกฯ ไม่อยู่ในห้องประชุมขณะนั้น ทำให้เกิดเสียงโห่จากสมาชิก ซึ่งประธานต้องห้ามปราม

เขายังกล่าวถึงที่ดิน Thames Valley ว่าโฉนดอาจไม่ถูกต้อง และการประกอบธุรกิจโรงแรมตั้งแต่ 2557-2562 อาจขัดกฎหมาย รวมถึงกรณีทักษิณรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาล ทักษิณป่วยอะไรแน่ ? อยู่ในพยานรู้เห็นของท่านตลอด ประชาชนอยากรู้ พร้อมถามถึง พ.ร.ก.ร่วมรับผิดชอบของสถาบันการเงินในกรณีคอลเซนเตอร์ว่าจะออกเมื่อใด

ท้ายสุด นายณัฐพงษ์เรียกร้อง 3 ข้อจากรัฐบาล คือ 1.หยุดเอาใจกลุ่มทุนและอำนาจเก่า 2.เลิกบิดเบือนกฎหมาย เปลี่ยนดำเป็นขาว และ 3.หยุดหลอกสังคม

ผมกล่าวหาท่านว่า นายกฯ จงใจทำธุรกรรมอำพรางหนีภาษี อิงกลุ่มทุน ละเว้นหน้าที่ ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีความตั้งใจแก้ปัญหา เลือกตัวเลขสวยๆ มาหลอกประชาชน ด้วยเหตุนี้ ผมไม่ไว้วางใจท่านอีกต่อไป

เขากล่าวปิดท้าย

การประชุมปิดลงเวลา 22.25 น. โดย นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ตามข้อบังคับ การอภิปรายและลงมติต้องแยกวัน จึงนัดลงมติในวันที่ 26 มี.ค.2568 เวลา 10.00 น. เพื่อตัดสินชะตานายกรัฐมนตรี

อ่านข่าวอื่น :

"แพทองธาร" อัด "ดีลปีศาจ" ย้อนพรรคส้มเคยดีล พท.ตั้งรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง