วันนี้ (24 มี.ค.2568) เวลาประมาณ 20.00 น. นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ลุกขึ้นอภิปรายกรณีรัฐบาลผลักดันชาวอุยกูร์ 40 คน กลับประเทศจีน ซึ่งไม่ทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายการต่างประเทศ ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งเกิดผลกระทบใหญ่ต่อประโยชน์ชาติ ความความเชื่อมั่นการลงทุน การถูกกดดันเรื่องกำแพงภาษีกับต่างชาติ
อ้างถึงกรณีที่รัฐบาลผลักดันชาวอุยกูร์ 40 คน กลับประเทศจีน เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จึงเสนอภาพยนตร์ Thailywood เรื่องโลกหลายใบแต่ให้นายคนเดียว ตอน 73 วันแห่งการโกหก เล่นละครทำลายภาพลักษณ์และผลประโยชน์ชาติในเวทีโลก โดยเปิดตัวละคร ว่ามีนายกรัฐมนตรี , รมว.ยุติธรรม- รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม , รมว.ต่างประเทศ เกี่ยวข้องหยิบยกนโยบาย การต่างประเทศของรัฐบาล
พร้อมย้ำกับนโยบายต่างประเทศที่รัฐบาลชุดนี้ได้นำแถลงต่อรัฐสภา มี 2 เรื่องคือการรักษษจุดยืนของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก การสร้าง soft power ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้ระบุว่าจะคำนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมาตรฐานสากล คำนึงถึงเรื่องความมั่นคงในเวทีโลก
แต่สิ่งที่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการ คือ ฟรีวีซา นำเข้าจีนเทา ส่งออกผู้ลี้ภัย แล้วเมื่อไหร่จะเป็นกลาง จะเป็นกลางกี่โมง
เรื่องการต่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่รัฐบาลทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเขียนด้วยมือแต่ลบด้วยเท้าเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของประเทศไทย

กัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม
กัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม
สำหรับมาตรฐานสากลที่ยึดมั่นว่าการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยมีอยู่ 3 เรื่อง คือการเดินทางกลับโดยสมัครใจ การอยู่ยังประเทศที่ลี้ภัย และตั้งถิ่นฐานใหม่ประเทศที่ 3 แต่รัฐบาลตัดสินใจให้กับผู้ลี้ภัยชายอุยกูร์เดินทางกลับประเทศแต่จะสมัครใจหรือไม่อย่างไร
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2568 มีเส้นบางๆ ที่รัฐบาลทำอยู่ การเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ หรือการผลักดันบังคับกลับประเทศต้นทาง โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกมาบอกว่าเป็นการสมัครใจ
ทั้งนี้ผู้ลี้ภัยอุยกูร์เป็นสัญชาติตุรกีแต่มีสถานเอกอัครราชทูตจีน เข้ามาเกี่ยวข้อง
7 ม.ค.2568 จีนส่งหนังสือขอตัวกลับพร้อมกับเปิดแชตการพูดคุย ว่ามีการถ่ายรูปชาวอุยกูร์ในห้องกักขังทันที
10 ม.ค.2568 มีการถ่ายรูปอีกครั้ง และมีการนำหนังสือมาให้ชาวอุยกูร์เซ็นต์หนังสือ แต่ชาวอุยกูร์ไม่ยอมเซ็น และเริ่มอดอาหารประท้วง รวมถึงจดหมาย SOS ที่ส่งไปขอความช่วยเหลือ
12 ม.ค.2568 ทางผู้ต้องกักส่งคลิปเสียงมาว่า ทาง สตม. แจ้งว่าไม่ส่งกลับทุกอย่างเป็นแค่ข่าวลือ และคลิปเสียงว่าไม่อยากกลับจีน อย่าส่งกลับเลยและในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติมีมติให้ส่งชาวอุยกูร์กลับเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 แต่นายภูมิธรรม ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว
28 ม.ค.2568 ชาวอุยกูร์อดอาหารประท้วง 19 วัน เพื่อไม่อยากกลับประเทศจีน แต่ สมช. แจ้งว่าหยุดอาหาร เพราะได้รับความกรุณาจาก กสม.และจุฬาราชมนตรีเพื่อสร้างความเข้าใจใหม่และทำให้เขากลับมาทานอาหารอีกครั้ง ในขณะที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ แจ้งว่า ในเรื่องการอดอาหาร ตอนหลังมีการเปลี่ยนใจเมื่อได้รับทราบคำมั่นของทางการจีนที่ ตม.ให้อ่าน
29 ม.ค.2568 กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เรียกหน่วยราชการมาให้ข้อมูลเรื่องการส่งกลับชาวอุยกูร์ แต่ทางสมช.แจ้งในที่ประชุมว่าไม่มีมาตรการส่งกลับ
30 ม.ค.2568 นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการผลักดันกลับ
ต้น ก.พ.2568 สตม.อนุญาตในสถานทูตจีนเข้าพบ เพื่อทำหนังสือสมัครใจกลับประเทศ และ CI หรือ เอกสารรับรองบุคคล
20 ก.พ.2568 มีการตรวจสุขภาพชาวอุัยกูร์ให้ห้องกัก
26 ก.พ.2568 เที่ยวบิน CSN5245 มาถึงสนามบินดอนเมือง
27 ก.พ.2568 เวลา 02.14 น.มีขบวนรถขนผู้ต้องกักคิดฟิล์มดำหลายคันพร้อมรถนำขบวนเคลื่อนออกจากสถานกักตัวของ สตม.ด้วยความรีบเร่งก่อนขึ้นทางด่วนออกไป และเครื่องบิน CSN5245ออกจากดอนเมืองไป kashger ซินเจียง ประเทศจีน
แม้วันที่ผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนแล้ว แต่นายกรัฐมนตรียังบอกไม่รู้รายละเอียด
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศที่หายไปในเวลาต่อมา

กัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม
กัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม
"ภาพยนตร์เรื่องนี้ 73 วันแห่งการโกหกหลอกลวง ปู้ยี่ปู้ยำนโยบายการต่างประเทศของประเทศไทย ซึ่งท่านแถลงให้กับคนไทยทราบ สิ่งที่แถลงให้เวทีระหว่างประเทศทราบ ว่าจะไม่เลือกข้าง รู้หรือไม่ว่า เลือกข้างไปหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นสิ่งที่เลือกข้างผิด ท่านไม่ได้เลือกข้างสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากผลกระทบต่างๆ ในเวทีระหว่างประเทศ ท่านโดนอะไรบ้าง ตั้งแต่ผลักดันชาวอุยกูร์กับประเทศจีน การประฌามในเวทีระหว่างประเทศ ความพยายามมีสัมพันธ์ในข้อตกลง FTA วันที่พยายามผลักดันข้อตกลงไทยกับอียู ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั่งอยู่อภิปรายชัดเจน การตระบัดสัตย์ในประเทศเลวร้ายแล้วหากไปตระบัดสัตย์ในเวทีระหว่างประเทศเลวร้ายยิ่งกว่า ข้อตกลงระหว่างไทยกับ EU มีกระดูกสันหลังห้ามขัดหลักการสิทธิมนุษยชน" นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ เรียกร้องให้รัฐบาลโชว์หลักฐานการสมัครใจกลับประเทศจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการผลักดัน 40 ชาวอุยกูร์ กลับประเทศเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์ เป็นการพาประเทศไปสู่จุด หน้าผาเวทีระหว่างประเทศ ที่พร้อมถูกลมพัดตกเหว ได้ตลอดเวลา จนทั่วโลกได้ประณาม โดยชี้ว่านโยบายการต่างประเทศเป็นการเขียนด้วยมือจะลบด้วยเท้าของรัฐบาลเอง ไม่ได้ดำเนินนโยบายตามที่แถลงไว้ ไม่ได้รักษาคำพูดจุดยืนในการไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง โดยเห็นว่าการกระทำเป็นการเตรียมการอย่างเลือดเย็นที่เปรียบเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ โลกเห็น แต่ไทยไม่เห็น
อ่านข่าว :
"แพทองธาร" โต้ปมตั๋วสัญญา PN ยืนยันไม่ได้ทำนอกกฎหมาย
ปม “นิติกรรมอำพราง”-เลี่ยงภาษี ดอกแรกที่นายกฯ โดน “จุกอก”
"อนุทิน" ยันอัลไพน์-เขากระโดงไม่มีแลกผลประโยชน์ ลั่นสู้ๆ แพทองธาร