วันนี้ (24 มี.ค.2568) เวลา 09.00 น. สภาผู้แทนราษฎร เปิดประชุมนัดพิเศษอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เริ่มเปิดญัติติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบุว่า ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2566 ผ่านมา จนถึงปัจจุบันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และอาจตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลที่มาจากรัฐบาลเลือกตั้งทำไมแนบแน่นจากรัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นนั่งร้านแต่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า ดีลแลกประเทศนอกเหนือจากการพาคุณพ่อกลับบ้าน ยังมีเรื่องอื่นอีก ซึ่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชนต้องจ่ายต้นทุนราคาแพง เช่น กรณีการเมือง รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำให้ประชาธิปไตยถดถอยลง เช่น ดัชนีชี้วัดประชาธิปไตยลดลง

ด้านเศรษฐกิจ เหมือนจะได้รัฐบาลที่เก่งด้านเศรษฐกิจ เช่น พายุหมุนเศรษฐกิจไม่เกิดอะไรขึ้น จากการที่เคยบอกก่อนหน้านี้บอกเศรษฐกิจจะโตขึ้นร้อยละ 5 เหลือเพียงร้อยละ 2 รวมถึงจากการที่บอกว่ารัฐบาลยุคไทยรักไทยทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้นั้นมาจากปัจจัยภายนอก
เรากำลังมีผู้นำนอกระบบ ทำงานนอกทำเนียบ ชี้นำวาระ ให้ข้อมูลและนโยบายนำหน้ารัฐบาลโดยปราศจากการรับผิด รับชอบรับชอบ เพราะไม่มีการถ่วงดุล ตรวจสอบ
ดังนั้น เมื่อรวมผู้นำนอกระบบอย่างคุณทักษิณ และผู้นำในระบบ อย่างคุณแพทองธาร ประเทศไทยเสีย 2 ต่อ เพราะมีคนกำหนดวาระที่ทำงานลอยตัวไม่ต้องรับผิดชอบ และคนที่ถืออำนาจรัฐที่ขาดคุณสมบัติ
ขณะที่การแก้ปัญหาค่าไฟแพงก็พบว่า นายกฯตัวจริงไปตีกอล์ฟกับผู้ประกอบการธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่ประชาชนต้องจ่ายกับดีลแลกประเทศ ซึ่งพร้อมจะเอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุน
รวมถึงปัญหาที่ดิน ปัญหาการให้สัมปทานกับนายทุน ที่ชาวนาขาดแคลนที่ทำกินและกลัวว่าจะถูกยึดคืนพื้นที่ แต่เป็นการดีลกับพรรคร่วมรัฐบาลกับที่ดินหลายร้อยล้านบาท
ขณะที่การปฏิรูปกองทัพประชาชนหมดหวังกับการปฏิรูปกองทัพ เพราะผลงาน 6 เดือน พ.ร.บ.ระเบียบราชการกลาโหม ก็ถอยไม่เป็นท่า พ.ร.บ.ป.ป.ช.ที่การรวจสอบทหารจะต้องมาขึ้นศาลยุติธรรมก็ถูกโหวตคว่ำ นี่คือการหลอมรวมกันไปแล้ว รวมถึงปัญหาการเกณฑ์ทหาร ก็ไม่ได้รับการแก้ไข
นายณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงกระบวนการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายครอบครัวก็ยังไม่ได้ความยุติธรรมในคดีตากใบ แต่นายกฯ ไม่ได้ติดตามตัวจำเลยในคดีดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม แต่นายกฯนอกระบบกลับได้อยู่ที่ชั้น 14

ขณะที่ แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกฯลอยตัว และตอกตะปูปิดฝาโลง บอกว่า จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าเพราะไม่สามารถควบคุมเสียงของฝั่งรัฐบาลไม่ได้ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากแก้เพราะมีเสียง สว.อยู่ในมือ ประเทศจึงต้องอยู่ใต้กติกาที่สืบทอดจาก คสช.และดำรงไว้โดยรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร
ลำพังการแจกเงินสร้าง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คงไม่สามารถสร้างเศรษฐกิจได้ และการสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็จะได้ประโยชน์เพียงบางกลุ่ม
ดีลแลกประเทศในครั้งนี้มีคนไม่ถึง 1 % ที่ได้รับผลประโยชน์ แม้จะต้องทำลายล้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม หรือกระบวนการประชาธิปไตย ยอมให้ประเทศไทยถูกแช่แข็ง เศรษฐกิจล้าหลังทิ้งซากปรักหักพังให้คน 99 % ในประเทศ ปัญหาสำคัญยังไม่ได้รับการแก้ไข
"ประวิตร" ชี้ 4 ประเด็นปัญหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นอภิปราย เป็นคนที่ 2 ต่อจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายเปิดญัตติ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร อภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยขอเวลาไว้ 10 นาที โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่าในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมด้วย สส.พรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าชื่อเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไปอีก
ประเด็นแรกคือการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลว โดยวันนี้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนแสนสาหัสเกิดปัญหาทุกข์ยากทุกหัวระแหง ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไข อย่างที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้านปิดกิจการจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุดผิดที่ผิดทาง ประชาชนเกิดปัญหา หนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ หนี้ครัวเรือนสูงถึง
ราคาข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลังราคาอ้อยปาล์มน้ำมันพืชผลทางการเกษตรตกต่ำตลาดหุ้นดำดิ่งเศรษฐกิจไทยมืดมน รัฐบาลกลับนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการใด ๆ มาแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน
จริงๆแล้วให้กำลังใจนายกฯ แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนให้สำเร็จเพราะเห็นว่านายกฯ เคยบริหารธุรกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้บ้างแต่ปรากฏว่านายกฯ ไม่สามารถแก้ปัญหา เศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซ้ำยังถอยหลังไปอีกจน GDP ของไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน
ที่สำคัญคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจด้วยการตัดงบประมาณนับแสนล้านบาทที่ควรจะอัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่นายกฯ กลับเอาเงินก้อนนี้ไปแจกเงินหมื่น ซึ่งธนาคารโลกและกองทุน IMF ได้ออกมาเตือนแล้วว่าการแจกเงินหมื่นไม่ได้ผล
ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่าง ๆ แทน ถ้านายกฯ ได้ศึกษาข้อมูลด้านเศรษฐกิจอย่างรอบคอบรอบด้านวันนี้คนไทยคงไม่ลำบากทุกข์ใจในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัสเช่นนี้แล้วจะนำพาประเทศให้รอดพ้นปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร
ประเด็นต่อมาห่วงประเทศชาติเป็นอย่างมากและไม่สบายใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงคือเรื่อง MOU 44 ที่วันนี้พาประเทศชาติสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน และทรัพยากรทางทะเลมูลค่ามหาศาลที่น่าเศร้าใจคือลูกเรือของประเทศไทยที่นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะนำกลับมาแต่ผ่านมา 4 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้กลับ
ในฐานะที่ทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดทั้งชีวิตเป็น ผบ.ทบ.เป็นรองนายกฯ ด้านความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ทราบดีว่า งานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ในหลายมิติอย่างมาก จึงเห็นใจนายกรัฐมนตรี ที่ต้องมาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องความมั่นคงของชาติก็สำคัญอย่างยิ่งประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือได้
ประเด็นที่ 3 การบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ โดยเฉพาะร่างกฎหมายประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่เรียกว่า Entertainment Complex ที่รัฐบาลพยายามจะผลักดันแต่มีช่องทำให้เกิดทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง ขอย้ำว่า กาสิโนจะนำชาติไปสู่หายนะ และอันตรายอย่างที่สุด เพราะจะทำให้สังคมอ่อนแอ และเกิดธุรกิจสีเทาติดตามมาอีกมากซึ่งทุกวันนี้ การปล่อยปละละเลยในเรื่องต่าง ๆ ส่งผลให้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงินธุรกิจสีเทาปัญหายาเสพติด อาชญากรรมและพนันออนไลน์อย่างมาก
อีกประเด็นสำคัญคือนายกฯ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ม.160 วงเล็บ 4 และวงเล็บ 5 ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำนิติกรรมอำพรางหลีกเลี่ยงภาษีซึ่งฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงการถือหุ้นบริษัท Alpine Golf and sport club จำกัด ทั้งที่รู้เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ดังนั้นจึงไม่ควรแสวงประโยชน์ในทางที่ผิด

นอกจากนี้ ยังได้ปล่อยปละละเลยให้บุคคลในครอบครัวมากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ การที่บุคคลในครอบครัวของนายกฯ ได้เรียกแกนนำของพรรคการเมืองไปพูดคุยจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และการที่บุคคลในครอบครัวนายกฯ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคจะเป็นการครอบงำหรือไม่ขอให้เป็นไปตามการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป ผลจะเป็นอย่างไรนั้นเชื่อว่าประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง
ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่การกล่าวหาด้วยความอคติ แต่อ้างอิงตามหลักฐานข้อเท็จจริงทุกประการโดย สส.ของพรรคพลังประชารัฐอีก 4 คน จะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป
ขอขอบคุณทุกคนโดยเฉพาะนายกฯ และประชาชนทุกคนที่รับฟังในสิ่งที่พูด เป็นคนที่พูดไม่เก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนที่เป็นหนุ่ม จึงใช้ใจบันดาลแรงบริหารประเทศสำเร็จมาได้หลายอย่าง
ส่วนนายกฯ เป็นคนหนุ่มสาวที่ยังแข็งแรงเชื่อว่าบริหารประเทศด้วยสติปัญญามีความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ ยึดประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าครอบครัวและพวกพ้อง ประชาชนจะชื่นชมและยอมรับเอง โดย พล.อ.ประวิตร ทิ้งท้ายว่าขอจบเพียงเท่านี้ โชคดีครับ
หลังจาก พล.อ.ประวิตร อภิปรายจบ มี สส.ในที่ประชุมปรบมือให้ แต่ประธานสภา ได้บอกว่าไม่ต้องปรบมือ
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ได้ลุกขึ้นชี้แจงโดยระบุว่า ท่านสมาชิกอาวุโสอภิปราย จับเวลาได้ 10 นาที และขอชี้แจงว่าสิ่งที่สมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่ ไม่เป็นความจริง
อ่านข่าว : “เท้ง” มั่นใจฝ่ายค้านมีข้อมูลลับถอดถอน “แพทองธาร”
ชมสด! ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ “แพทองธาร
ดินเนอร์ "หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล" ก่อนเปิดเวทีซักฟอกนายกฯ