ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปูตินฝันใหญ่! รัสเซียครองโลกใหม่ ไม่ยอมหยุดที่ยูเครน

ต่างประเทศ
22 มี.ค. 68
18:21
427
Logo Thai PBS
ปูตินฝันใหญ่! รัสเซียครองโลกใหม่ ไม่ยอมหยุดที่ยูเครน
วลาดิเมียร์ ปูติน อาจไม่ได้มองสันติภาพในยูเครน แต่ตั้งเป้าพลิกโฉมระเบียบโลกให้รัสเซียเป็นผู้นำสูงสุด แม้ต้องขัดแย้งกับยูเครนและชาติตะวันตก ขณะที่ ทรัมป์ หวังสงครามจบเร็วโดยไม่สนใจอะไร ผู้เชี่ยวชาญเตือนนี่อาจเป็นโอกาสให้ปูตินก้าวสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า

สำหรับวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย การที่ประเทศของเขาจะมีที่ยืนในเวทีโลกไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองหรือยุทธศาสตร์ธรรมดา แต่มันเป็น "เรื่องส่วนตัว" ที่ฝังรากลึกในตัวเขาและคนรอบข้าง ปูตินเคยพูดหลายครั้งว่าไม่ต้องการให้ยูเครนมีสถานะเป็นชาติอิสระที่มีอำนาจปกครองตัวเอง และอยากเห็นนาโต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางทหารของชาติตะวันตก หันหัวกลับไปอยู่ในกรอบสมัยสงครามเย็น

แต่สิ่งที่เขาต้องการมากกว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกทั้งหมด เพื่อให้รัสเซียกลายเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุด

ปูตินและกลุ่มคนสนิท ซึ่งส่วนใหญ่เติบโตมาจากเคจีบี หน่วยข่าวกรองสมัยโซเวียต ยังคงจดจำความเจ็บปวดและความอับอายจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 และรู้สึกไม่พอใจที่โลกก้าวไปข้างหน้าโดยทิ้งรัสเซียให้กลายเป็นเพียงผู้เล่นรอง

เมื่อปูตินก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2000 รัสเซียอยู่ในช่วงวุ่นวาย เศรษฐกิจพังทลายจนต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และ ธนาคารโลก ซึ่งถือเป็นความอัปยศอดสูครั้งใหญ่สำหรับชาติที่เคยเป็นมหาอำนาจ

แต่หลังจากนั้น ด้วยราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัสเซียเริ่มฟื้นตัว เศรษฐกิจเติบโต ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น และรัสเซียมีเสียงในเวทีโลกมากขึ้น จนได้รับเชิญเข้าร่วมกลุ่ม G7 ซึ่งกลายเป็น G8 ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม คริสติน เบอร์ซินา ผู้เชี่ยวชาญจาก German Marshal Fund of United States บอกกับ CNN ว่า ปูตินไม่เคยรู้สึกพอ เขาไม่ต้องการให้รัสเซียเป็นแค่สมาชิก 1 ใน 8 กลุ่มชาติพัฒนาแล้ว เพราะในสายตาของเขา รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ต้องมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

เขายอมทิ้งโอกาสใน G8 และยอมให้รัสเซียถูกคว่ำบาตรจากตะวันตก รวมถึงถูกตัดขาดจากเวทีโลก หลังการรุกรานยูเครน เพื่อไล่ตามเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงส่งกว่า

โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ บอกว่าเขาเชื่อว่าปูตินต้องการสันติภาพ แต่ยูเครนและพันธมิตรยุโรปไม่เห็นด้วย เพราะปูตินเคยปฏิเสธข้อเสนอสันติภาพมาแล้วหลายครั้ง ทรัมป์อยากให้สงครามในยูเครนจบโดยเร็ว แม้ว่านั่นอาจหมายถึงยูเครนต้องเสียดินแดนเพิ่มเติมให้รัสเซีย

การที่สหรัฐฯ หันมาเจรจากับรัสเซียครั้งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนนโยบายของทรัมป์ ไม่ใช่เพราะปูตินเปลี่ยนความคิด มาร์ค กาเลโอตี นักวิเคราะห์รัสเซียชื่อดัง บอกว่า ปูตินเป็นคนฉวยโอกาส เขาชอบสถานการณ์ที่วุ่นวายและไม่แน่นอน เพราะจะเปิดโอกาสให้เขาเลือกทางเดินได้ตามใจ และการเจรจากับทรัมป์ตอนนี้คือสถานการณ์ที่เขาแทบไม่เสียอะไรเลย

ในสงครามยูเครน รัสเซียครองดินแดนได้ร้อยละ 20 แต่ต้องแลกด้วยความเสียหายมหาศาลทั้งกำลังคนและทรัพยากร แม้จะยังไม่ชนะเด็ดขาด แต่ถ้าสหรัฐฯ หยุดส่งอาวุธและข่าวกรองให้ยูเครน สถานการณ์อาจพลิกผันได้ กาเลโอตี ชี้ว่า ปูตินคาดหวังว่าสงครามนี้จะจบเร็ว แต่ผ่านมา 3 ปี เขาก็ยังไม่ถึงเป้า ขณะที่ยูเครนเสียหายหนักและเร็วกว่า

ปูตินและทีมงาน ยังย้ำเสมอว่าเป้าหมายระยะยาวของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยน แม้จะพูดถึงสันติภาพ แต่เจ้าหน้าที่รัสเซียยังคงบอกว่าต้องกำจัด "ต้นตอ" ของความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งในมุมมองของเครมลินคือ การมีอยู่ของยูเครนในฐานะชาติอิสระ

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี และการขยายตัวของนาโต้ไปทางตะวันออก ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ปูตินเริ่มสงครามเต็มรูปแบบในเดือน ก.พ. 2022 เพื่อเปลี่ยนรัฐบาลยูเครนให้เป็นฝ่ายสนับสนุนมอสโก และทำให้ยูเครนกลายเป็นรัฐบริวารเหมือนเบลารุส พร้อมกันยูเครนจากการเข้าร่วมนาโต้และสหภาพยุโรป

แม้การใช้กำลังทหารยังไม่สำเร็จ แต่เบอร์ซินาชี้ว่า เขาอาจหันไปใช้กลยุทธ์อื่น เช่น การแทรกแซงการเลือกตั้งในยูเครนหลังสงครามสงบ ซึ่งเป็นเหตุผลที่รัสเซียตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของเซเลนสกี และดีใจที่ทรัมป์พูดในทำนองเดียวกัน โดยเรียกผู้นำยูเครนว่า "เผด็จการที่ไม่จัดการเลือกตั้ง" ทั้งที่ยูเครนใช้กฎอัยการศึกห้ามเลือกตั้งระหว่างสงคราม

ทรัมป์ และ เจดี แวนซ์ ปฏิเสธแนวคิดที่ยูเครนจะเข้านาโต้ในอนาคตอันใกล้ และปูตินก็ขอให้สหรัฐฯ รับปากเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขหยุดยิง แต่เบอร์ซินาชี้ว่า ชาติยุโรปไม่เชื่อคำสัญญาของปูตินว่า ถ้ายูเครนเป็น "กลาง" เขาจะหยุดรบ เพราะความไว้วางใจต่อปูตินแทบไม่มีเหลือแล้ว หลังจากการรุกราน

อันเดรย์ โซลดาตอฟ นักข่าวรัสเซียที่ลี้ภัยในลอนดอน บอกว่า ปูตินและทีมงานมองว่านี่ไม่ใช่แค่สงครามกับยูเครน แต่เป็นการต่อสู้กับตะวันตกทั้งหมด และพวกเขาไม่เชื่อว่าสหรัฐฯ จะยอมทำข้อตกลงถาวร เขาคิดว่าสามารถฉวยประโยชน์ระยะสั้นจากทรัมป์ได้ แต่เป้าหมายใหญ่คือเปลี่ยนโครงสร้างความมั่นคงของยุโรปใหม่ทั้งหมด

โซลดาตอฟเสริมว่า ความระแวงของรัสเซียต่อตะวันตกมีรากลึกตั้งแต่ยุคเคจีบี ซึ่งปูตินและคนใกล้ชิดรู้สึกว่าตัวเองสูญเสียทุกอย่างเมื่อโซเวียตล่มสลาย และเชื่อว่าตะวันตกพยายามทำลายรัสเซียมาโดยตลอด

ปูตินยังเชื่อมโยงเป้าหมายนี้กับประวัติศาสตร์ โดยอ้างว่า ยูเครนไม่ควรเป็นชาติ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ "ประวัติศาสตร์รัสเซีย" โมนิกา ไวต์ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม บอกว่านี่เป็นการตีความที่บิดเบือน เพราะยูเครน รัสเซีย และเบลารุส แค่มีรากเหง้าจาก "รุส" รัฐสมัยยุคกลาง ไม่ได้หมายความว่ายูเครนไม่มีสิทธิ์เป็นชาติสมัยใหม่

เขายังใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ โดยมีผู้นำโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียสนับสนุนสงคราม ไวต์ชี้ว่า ปูตินอยากเชื่อมโยงรัสเซียกับยุครุ่งเรืองในอดีต เหมือนสมัย ซาร์โรมานอฟ ที่พยายามรวบรวมดินแดนออร์โธดอกซ์คืนมา

สุดท้ายแล้ว ปูตินอยากให้รัสเซียกลับมายิ่งใหญ่ในเวทีโลก ด้วยการแยกยุโรปออกจากสหรัฐฯ และจับมือกับชาติที่เป็นปฏิปักษ์กับตะวันตก เช่น จีนหรืออิหร่าน เขามองว่ารัสเซีย ด้วยขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ต้องมีบทบาทนำ ไวต์บอกว่า เขาอาจไม่ต้องยึดดินแดนในยุโรปเพิ่ม แต่ต้องการเป็นผู้นำของกลุ่มอำนาจที่พร้อมท้าทายและสั่นคลอนโลก

ทรัมป์อาจเห็นด้วยกับแนวคิด "ชาติใหญ่ต้องได้ทุกอย่าง" และมองยูเครนเป็นแค่เครื่องมือที่ต้องยอมตามดีลระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย กาเลโอตีทิ้งท้ายว่า สงครามนี้อาจหยุดชั่วคราว แต่ความฝันของปูตินที่จะครองโลกใหม่ยังไม่จบ และเขาจะใช้ทุกโอกาสเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น

ที่มา : CNN

อ่านข่าวอื่น :

"ไทย" เรียกร้องยุติสู้รบในฉนวนกาซา-ปล่อยตัวประกันที่เหลือ

สหรัฐฯ จ่อเพิกถอนสถานะผู้อพยพ 4 ชาติ รวมกว่า 5.3 แสนคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง