"ตับ" อวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ใน "ผู้ใหญ่" ตับจะมีขนาดประมาณ 1 ใน 50 ของน้ำหนักตัว มีรูปร่างคล้ายลิ่ม มีสีแดงน้ำตาลเข้ม เนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก ตำแหน่งที่ตั้งของ "ตับ" อยู่ใต้ชายโครงด้านขวา มีซี่โครงหุ้มอยู่ แล้วตับทำหน้าที่อะไรในร่างกาย หากตับผิดปกติจะสังเกตอย่างไร
"ตับ" มีหน้าที่อะไร ในร่างกาย
ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญและมีบทบาทมากมายในร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น
- สร้างสารต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ
- สร้างน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยไขมัน
- สะสมพลังงานและสารอาหาร
- ผลิตพลังงานให้ร่างกายในการนำสารอาหารมาสลายพลังงาน
- ทำลายสารพิษต่าง ๆ ที่เข้าไป
- ทำลายหรือทำให้ยาต่าง ๆ ออกฤทธิ์ดีขึ้น
- ผลิตสารที่เป็นปัจจัยการแข็งตัวของเลือด
"ตับ" ป่วย รู้ได้อย่างไร
เมื่อเกิดความผิดปกติที่ "ตับ" ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนผ่านอาการต่าง ๆ ซึ่งอาการของโรคตับอาจแตกต่างกันไปตามสาเหตุ และระดับความรุนแรง ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค อธิบายอาการ แบ่งเป็น 2 อย่าง ดังนี้
อาการเฉพาะที่ : จะมีอาการจุกแน่นชายโครงขวา หรือ แค่ท้องอืดตึ้น ๆ หากตับโตมาก ๆ หรือมีอาการก้อนในตับ อาจโตจนคลำตับได้ หรือมีก้อนดันหน้าท้องนูนออกมา บางคนอาจรวมกับมีอาการปวดร้าวไหล่ กรือสะบักด้านขวาได้
อาการจากการทำงานของตับที่ลดลง : จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในกรณีที่ตับทำงานหนักมาก เกิดภาวะเสื่อม จะทำให้ระดับโปรตีนในเลือดต่ำ เกิดเท้าบวม ท้องมาน มีภาวะดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง เลือดหยุดยาก หากเป็นมากอาจเกิดตับวายได้
"ตับ" ไม่ชอบสิ่งนี้
อย่างที่บอก "ตับ" เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในร่างกายมาก ทำลายสารพิษ กักเก็บวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดไว้ใช้ในยามจำเป็น แต่มีหลายปัจจัยที่อาจทำร้ายตับและนำไปสู่โรคตับได้ ตัวอย่างสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตับ
- แอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและเป็นประจำ ไม่ส่งผลดีต่อตับ
- ร่างกายมีไขมันส่วนเกินมากเกินไป อาจเกิดการสะสมที่ตับนำไปสู้โรคไขมันพอกตับได้ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือ เป็นเบาหวาน ควรหันมาใส่ใจสุขภาพตับ เลี่ยงอาหารไขมันสูง
- รับประทานอาหารเสริมหรือยาที่มากเกินความจำเป็น อาจส่งผลต่อการทำงานของตับ
- สารเคมี และสารพิษบางชนิดหากเข้าสู่ร่างกายอาจเป็นสาเหตุของตับอักเสบได้ เช่น สารกำจัดศัตรูพืชพาราคว็อต และสารหนู ที่อาจปนเปื้อนมาในผักผลไม้ รวมถึงน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ
ใส่ใจ "ตับ" ให้แข็งแรง กับเรื่องที่ต้องรู้
หากใครอยากให้สุขภาพตับดี ก็ควรใส่ใจดูแลตับให้แข็งแรงด้วยพฤติกรรมที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มเยอะไป ตับพังแน่ เป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับ เช่น ตับแข็งและไขมันพอกตับ
- กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ผัก ผลไม้ ธัญพืช และไขมันดีช่วยลดภาระตับ หลีกเลี่ยงการรัปทานอาหารค้างคืน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดไขมันสะสมในตับ และช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
- นอนหลับให้พอ โดยเฉพาะการนอนหลับในเวลากลางคืน ช่วยฟื้นฟูตับให้ทำงานได้ดีขึ้น ขณะหลับเลือดจะไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งสารอาหารไปซ่อมแซมและบำรุงตับ
- เลี่ยงอาหารแปรรูปและของทอด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ตับมีไขมันเกินไป
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้ว
- เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงมลพิษจากสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่น ควัน สารพิษ สารเคมี
- หลีกเลี่ยงความเครียด ควรตรวจสุขภาพเป็นประวัน
นพ.เจษฎ์ ไขคำตอบ กินน้ำมะนาว ช่วยล้างตับจริง หรือไม่
เมื่อไม่นานมานี้ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพ ผ่านเฟซบุ๊ก "หมอเจด" เกี่ยวกับเรื่อง "ตับ" พร้อมระบุ เคยได้ยินหรือไม่ว่า "กินน้ำมะนาวตอนเช้า ช่วยล้างพิษตับ" หลายคนทำกันเป็นประจำ แต่มันช่วยได้ขนาดนั้น จริงหรือไม่
นพ.เจษฎ์ ระบุว่า ตับเราล้างพิษได้เอง ไม่ต้องพึ่งน้ำมะนาว ตับเป็นอวัยวะสุดเทพของร่างกายที่ช่วยกำจัดของเสียให้เราตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นสารพิษจากอาหาร แอลกอฮอล์ หรือยา ตับมีระบบเอ็นไซม์ที่คอยเปลี่ยนของเสียให้ขับออกไปทางปัสสาวะและอุจจาระ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าตับจะสะสมพิษจนต้องล้างอะไรเป็นพิเศษ ตับดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว น้ำมะนาวมีวิตามินซี เยอะจริง แต่ไม่ได้มีฤทธิ์พิเศษที่ช่วยตับกำจัดสารพิษโดยตรง หากอยากให้ตับทำงานได้ดี จึงควรดูแลตัวเองโดยรวมมากกว่า เช่น กินอาหารดี ๆ พักผ่อนให้พอ และไม่ทำร้ายตับด้วยแอลกอฮอล์หรือยาที่ไม่จำเป็น
น้ำมะนาวมีวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสามารถ "ล้างพิษ" หรือช่วยให้ตับทำงานดีขึ้นแบบที่หลายคนเชื่อกัน งานวิจัยบางชิ้น บอกว่า สารในมะนาวอาจช่วยลดไขมันพอกตับในหนูทดลอง แต่นั่นยังไม่พอจะสรุปว่าแค่ดื่มน้ำมะนาวแล้วจะช่วยตับมนุษย์ได้จริง หากจะดูแลตับ คงต้องทำมากกว่าดื่มน้ำมะนาวสักแก้วตอนเช้า
ดื่มน้ำมะนาวดีอยู่ แต่ไม่ใช่เพราะมันล้างตับ
นพ.เจษฎ์ ระบุอีกว่า หลายคนบอกว่าดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ ตอนเช้าช่วยให้ร่างกายสดชื่น ขับถ่ายดีขึ้น อันนี้จริง เพราะร่างกายได้รับน้ำมากขึ้น และวิตามินซีในมะนาวก็ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว แต่นี่ไม่ใช่เพราะมันไป "ล้างพิษตับ" แค่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายและทำให้เราดื่มน้ำมากขึ้นเฉย ๆ หากชอบดื่มน้ำมะนาวตอนเช้าแล้วรู้สึกดี ก็จัดไปเลย ไม่มีปัญหาแต่ถ้าหวังว่ามันจะช่วยล้างสารพิษจากตับ คงต้องคิดใหม่ เพราะตับไม่ได้ทำงานแบบนั้น
สุดท้ายแล้ว การดื่มน้ำมะนาวไม่ได้เป็นอันตราย แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ แต่ไม่ได้ช่วยล้างพิษตับโดยตรง การดูแลตับต้องมาจากการใช้ชีวิตที่ดีมากกว่าการพึ่งอะไรสักอย่างแบบวิเศษ
ถ้าชอบน้ำมะนาว ดื่มต่อไปได้เลย แต่ถ้าอยากให้ตับแข็งแรง อย่าลืมดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดี แบบนี้เวิร์กกว่าเยอะ
อ้างอิง : กรมควบคุมโรค, สมิติเวช, นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์
อ่านข่าว : สภาฯ ผ่านร่าง กม.ควบคุมแอลกอฮอล์ ปลดล็อกโฆษณาเหล้า-เบียร์ได้
ราคาทองคำ ยังไปต่อ ลุ้นสัปดาห์นี้ “รูปพรรณ”ขายออกบาทละ 50,000