วันนี้ (18 มี.ค.2568) เมื่อวันที่ 16-17 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ พร้อมด้วยกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดบ้านธิ เข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจควบคุมไฟป่า
โดยขณะเดินทางเข้าทำการควบคุมไฟป่า บริเวณรอยต่อ ต.มะเขือแจ้ กับ ต.บ้านธิ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ พบลูกหมูป่า 2 ตัว วิ่งหนีจากไฟป่าเจ้าหน้าที่เป็นห่วงว่าว่าจะถูกไฟป่าคลอกตาย จึงเข้าช่วยเหลือ
จากนั้นนำตัวมาตรวจสอบอาการบาดเจ็บ เบื้องต้นพบว่าลูกหมูทั้ง 2 ตัวปลอดภัยดี ไม่มีบาดแผล จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำปล่อยในพื้นที่ปลอดภัยคืนสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสัตว์ป่าพลัดหลง หรือหนีภัยจากไฟป่า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าว แดงเถือก! 1,474 จุดความร้อนไทย เหนือฝุ่นเกิน 2 เท่า

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ช่วยลูกหมูป่า 2 ตัวหนีไฟป่า
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ช่วยลูกหมูป่า 2 ตัวหนีไฟป่า
ชาวบ้านแม่ทะ ช่วยดับไฟก่อนลาม
ส่วนชุมชนบ้านแม่ทะ หมู่ 1 นำโดยนายบุญยะเดช ธิธรรมมา ผญบ.ได้รับแจ้งจากปลัดฝ่ายป้องกัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง พบเห็นกลุ่มควันขึ้น จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบ พบเห็นไฟไหม้บริเวณป่าหลังโรงโม่หิน จึงได้ประสานงานกับหน่วยเหยี่ยวไฟลำปางเข้าทำการดับไฟ
แต่เนื่องจากมีเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมากประกอบกลับมีหนามเยอะไม่สามารถเข้าไปทำการดับไฟโดยตรงได้ จึงได้ทำการทำแนวกันไฟป้องกัน และเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้ลุกลามขยายเป็นวงกว้าง

ชาวบ้านแม่ทะ จ.ลำปาง ช่วยกันดับไฟป่า
ชาวบ้านแม่ทะ จ.ลำปาง ช่วยกันดับไฟป่า
จุดความร้อนพุ่ง 6,713 จุด-ฝุ่นระดับสีส้ม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) พบจุดความร้อนในประเทศ 6,713 จุด โดย 5 จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ ตาก 1,004 จุด เชียงใหม่ 656 จุด ลำปาง 643 จุด น่าน 453 จุด และ พะเยา 448 จุด
ขณะที่จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านมีการสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศเมียนมา พบจุดความร้อน 5,845 จุด ทำให้จากนี้จนถึงวันที่ 23 มี.ค.นี้ จะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองเป็นพิเศษโดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่มีแนวเขตติดกับชายแดน
ทั้งนี้สอดคล้องกับข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ที่รายงานสภาพอากาศโดยรวมทั่วประเทศ อยู่ในเกณฑ์ปกติถึงดี ยกเว้นภาคเหนือทั้ง 17 จังหวัด ที่คุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน อยู่ในระดับสีส้ม เฉลี่ยที่ 25.6-143 มคก.ต่อลบ.ม.
ที่ประชุมกำชับให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองที่จะเพิ่มขึ้น ไปจนถึงวันที่ 23 มี.ค.นี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน

จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านมีการสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมียนมา พบจุดความร้อน 5,845 จุด(ภาพจิสด้า)
จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านมีการสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมียนมา พบจุดความร้อน 5,845 จุด(ภาพจิสด้า)
สั่งเฝ้าระวังพิเศษ 17 จังหวัดเหนือหลังมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น
ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานการตรวจควบคุมโรงงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายและลดต้นตอการเกิดฝุ่นควัน ตั้งแต่เดือนพ.ย.2567 ถึงปัจจุบัน มีการตรวจโรงงาน 759 แห่ง ปฏิบัติถูกต้องตามข้อกฎหมายจำนวน 752 แห่ง ไม่ถูกต้อง 7 แห่ง ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกคำสั่งให้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องก่อนกลับมาดำเนินกิจการ
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจสอบยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษและควันดำระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม 2568 ตรวจสอบยานพาหนะ 15,440 ครั้ง จับกุมดำเนินคดี 1,152 ครั้ง ตักเตือน 8,862 ครั้ง ขณะที่การลักลอบเผาป่า พืชไร่ และพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร มีการออกตรวจ 862 ครั้ง จับกุมดำเนินคดี 10 คน
อ่านข่าว