เมื่อถามผ่านสื่อว่า จะอภิปรายนายทักษิณเป็นนั่งร้านให้รัฐบาล ได้ถามผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ แล้วหรือยัง
ไม่เพียงสะท้อนนัยความสัมพันธ์ ระหว่างนายทักษิณ กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลังมีข่าวว่า นายธนาธรเดินทางไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ช่วงที่นายทักษิณจัดงานวันคล้ายวันเกิดที่นั่น
แล้วปรากฏมีแกนนำจากหลายพรรคการเมืองเดินทางไปร่วมงานด้วย ก่อนที่นายทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทย ในเดือนสิงหาคม 2566
ไม่เพียงหวังตอกย้ำความสัมพันธ์และปลุกกระแส “ดีลลับ” ที่เคยลือกระหน่ำจากการพบกันเท่านั้น แต่ยังมีนัยสะท้อนว่า นายทักษิณ เปี่ยมล้นบารมีไม่เกรงใจใครแบบตัวจริงเสียงจริง ไม่ต้องอ้อมค้อม
เหมือนกับที่เคยแฉ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แห่งบ้านป่ารอยต่อ เรื่องขอเป็นประธาน ป.ป.ช.หลังเกษียณอายุราชการ
ถือความได้เปรียบจากการเจรจาแบบลับๆ ของใครต่อใคร ที่เคยเข้าพบนายทักษิณในช่วงที่เรืองอำนาจในยุคแรก หลังจากพรรคไทยรักไทย ได้เป็นรัฐบาล ตั้งแต่เลือกตั้งปี 2544 เป็นต้นมา สำหรับการเป็น “หมัดเด็ด” เพื่อเอาคืน ในช่วงที่อาจตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
เพราะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ แม้จะรู้ว่า เสียงมีไม่พอที่จะล้มรัฐบาลได้ แต่เป้าหมายของฝ่ายค้าน พุ่งเป้าหวังดิสเครดิตนายกฯ ที่เป็นมือใหม่หัดขับ เรื่องภาวะผู้นำ ประสิทธิภาพประสิทธิผลในการบริหารราชการแผ่นดิน ความซื่อสัตย์สุจริต
ยังพ่วงประเด็นการปล่อยให้นายทักษิณ ผู้เป็นบิดา เข้ามาชี้นำการบริหาร ทำนองกล่าวหาเป็นนายกฯ นอมินี เท่ากับ หวังอภิปรายไม่ไว้วางใจนายทักษิณ หรือหวังสะท้อนการแทรกแซงครอบงำของนายทักษิณต่อรัฐบาล น.ส.แพทองธาร อย่างไม่ต้องสงสัย
ทุบกล่องดวงใจยังไม่พอ ยังจะมาทุบตัวนายทักษิณด้วย จึงเป็นเหตุให้นายทักษิณ ต้องออกโรงตอบโต้กลับ ตั้งแต่เป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ควรต้องคิดหรือทำในเรื่องที่สร้างสรรค์ น่าเชื่อถือ อย่าทำตัวน่ารำคาญ การจะอภิปรายนายทักษิณ ซึ่งไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะได้ประโยชน์อะไร
และดักทางเรื่องหวังผลทางการเมือง ในการเลือกตั้งในอีก 2 ปี ข้างหน้า แต่เตือนอย่าเพิ่งรีบร้อน
รวมทั้ง “หมัดเด็ด” ไล่ให้กลับไปถามผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ มีนัยสะท้อนกลับดังว่า และอาจรวมไปถึง พรรคประชาชน ก็มีคนนอกที่อยู่เบื้องหลังเหมือนที่ฝ่ายค้านพยายามกล่าวหารัฐบาลน.ส.แพทองธาร ว่า มีนายทักษิณเป็นนั่งร้านอยู่ข้างหลัง
ถือเป็นการโชว์เขี้ยว โชว์ความเก๋าเกมทางการเมืองให้เห็นชัดเจน เพราะทราบว่า คำถามนี้ จะกลายเป็นคำถามที่ผู้คนตั้งคำถามกลับไปยังพรรคประชาชน ในประเด็นเดียวกับที่นายทักษิณถาม
และปฏิเสธไม่ได้ว่า จะสร้างความอึดอัดใจให้กับพรรคประชาชนได้ เพราะถึงขณะนี้ ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากนายธนาธร ที่เคยยอมรับว่า ไปพบกับนายทักษิณที่ฮ่องกงจริง แต่ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง คุยกันเรื่องลูกหลาน
จึงมีเพียง “หัวหน้าเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่ซัดกลับให้นายทักษิณ กลับไปดูการกระทำของตัวเอง และเคยอ้างหลายครั้งว่า มีส่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งต้องให้ตรวจสอบได้ แต่ดูแล้วน้ำหนักยังไม่มากพอ หากเทียบกับนายธนาธร
โดยต้องไม่ลืมว่า กูรูทางการเมืองส่วนหนึ่ง ได้ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ต้น เพราะนักการเมืองตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” มีทั้งในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน และมีความใกล้ชิดกันอีกต่างหาก
จึงเป็นประเด็นร้อนที่ผู้คนทั่วไปสนใจ และกลายเป็นเรื่องปมร้อนสำหรับการพักตั้งหลักของพรรคประชาชน และต้องหาวิธีเคลียร์ตัวเอง จากเรื่อง “สัญญาลับ” ที่ฮ่องกง ให้กระจ่างเสียก่อน
เพียงคำถามสั้นๆ แต่ส่งผลมากมาย โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือของพรรคประชาชน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ทักษิณ" เดินสายพบมวลชน ยืนยันไม่ได้ปลุกกระแสคนเสื้อแดง
ไม่ใช่แค่เหตุจากก่อสร้าง แต่ "ถ.พระราม 2" อุบัติเหตุจราจรกว่า 2,500 ครั้ง