ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สายตาโลกจับจ้อง รัฐบาลไทยพาสื่อบินลัดฟ้าเยี่ยม 40 อุยกูร์

ต่างประเทศ
17 มี.ค. 68
12:38
298
Logo Thai PBS
สายตาโลกจับจ้อง รัฐบาลไทยพาสื่อบินลัดฟ้าเยี่ยม 40 อุยกูร์
อ่านให้ฟัง
05:24อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
18 มี.ค. รัฐบาลพร้อมเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง จะนำคณะสื่อมวลชนบินไปจีน เยี่ยมชมความเป็นอยู่ของ 40 ชาวอุยกูร์ โดยจะออกเดินทางก่อนเที่ยงคืนวันที่ 18 ถึงจีนวันที่ 19 แต่ห้วงเวลาที่จะได้พบปะกับชาวอุยกูร์จริง ๆ ก็คือวันที่ 20 แล้วก็เดินทางกลับคืนนั้นเลย

วันนี้ (17 มี.ค.2568) การนำคณะเยี่ยมชมครั้งนี้ รัฐบาลให้ข้อมูลว่าจะเป็นการติดตามครั้งแรกหลังส่งกลับ และหลังจากนี้จะมีการติดตามอีกเป็นระยะ เพื่อจะไขข้อข้องใจ และสร้างความมั่นใจให้กับนานาชาติ ว่าการส่งกลับครั้งนี้ คนที่ถูกส่งกลับได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี ไม่มีการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ตามที่ทางการจีนได้ให้คำมั่นไว้ว่าเป็นการพาคนกลับบ้าน

แต่ผลกระทบที่เกิดกับไทย ทั้งการลงมติของรัฐสภายุโรป ให้เอาการเจรจา FTA มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อให้ไทยปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง ทั้งกรณีชาวอุยกูร์ และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามมาด้วยดาบหนักของทางสหรัฐฯ ที่จะจำกัดวีซาให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องกับการส่งกลับชาวอุยกูร์

เรื่องนี้ผลที่จะเกิดขึ้นนอกจากการสูญเสียภาพลักษณ์ในสายตาชาวโลกแล้ว ที่หนักและจะกระทบกับบ้านเรา คือเรื่องเศรษฐกิจด้วย

ไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับ EU เพราะก่อนหน้านี้ การเจรจาหยุดชะงักไปจากเหตุรัฐประหารเมื่อ 10 ปีก่อน กระทั่งฟื้นการเจรจาได้ หลังมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 4 เม.ย. นี้ จะเป็นการเจรจารอบที่ 5 ซึ่งแน่นอนว่า EU จะต้องหยิบยกเรื่องอุยกูร์ และการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 มาเป็นเงื่อนไขในการเดินหน้าเจรจา FTA เพื่อบีบไทย

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด นอกจากเรื่องการเจรจา FTA แล้ว อาจมีเรื่องการพิจารณาการลงทุนในบ้านเรา และความเป็นไปได้ที่บางประเทศ หรืออาจจะทั้งกลุ่ม EU ที่จะพิจารณาระงับวีซาตามแบบสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบกับความสัมพันธ์ หรืออาจจะโดนเรื่องขึ้นภาษีนำเข้า เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก

แต่สำหรับกรณีสหรัฐฯ ที่ระงับวีซาเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการส่งกลับชาวอุยกูร์ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ ก็กำลังจะประกาศเรื่องการขึ้นภาษีกับประเทศที่ได้ดุลการค้า ที่เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ในวันที่ 2 เม.ย. จะยิ่งทำให้การเจรจายากขึ้นไหม นายอัทธ์มองว่า ส่งผลแน่นอน

ที่ผ่านมา จะเห็นว่า สหรัฐฯ ใช้วิธีการขึ้นภาษีเพื่อบีบให้เจรจา กรณีของไทยก็คงจะไม่ต่างกัน แต่เมื่อมีเหตุเรื่องอุยกูร์ที่เป็นประเด็นอ่อนไหวของสหรัฐฯ อยู่แล้ว ตั้งแต่รัฐบาลไบเดนก็คว่ำบาตรฝ้ายและแผงโซลาเซลล์จากซินเจียง เพื่อตอบโต้จีนในปัญหาสิทธิมนุษยชนในซินเจียงมาอยู่แล้ว ดังนั้นการเจรจากับสหรัฐฯ แม้ว่าจะไม่ถึงกับถูกบีบให้เลือกข้าง แต่ไทยสุ่มเสี่ยงที่จะเสียเปรียบในการพูดคุยอย่างมาก ดังนั้นข้อแนะนำอย่างหนึ่งที่ทำได้ คือ ต้องชี้แจงให้ชัดเจน

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2568 กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่คำชี้แจงต่อการประกาศนโยบายข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซาของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลไทยรับทราบนโยบายดังกล่าวแล้ว พร้อมชี้แจงว่า ไทยได้รับคำยืนยันจากรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการให้ความปลอดภัยชาวอุยกูร์ และจะติดตามความเป็นอยู่ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อไป

พร้อมยืนยันว่าได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมที่ได้ยึดมั่นมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงการดูแลผู้หนีภัยจากเหตุการณ์ในประเทศต่าง ๆ และจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเหล่านี้ต่อไป พร้อมทั้งระบุว่าไทยให้ความสำคัญกับความเป็นพันธมิตรทางสนธิสัญญากับสหรัฐฯ ที่มีความใกล้ชิดกันมายาวนานด้วย

นอกจากคำชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศ ยังต้องติดตามว่า การพาคณะไปเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับ จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไหม หรือจะถูกมองว่าเป็นการจัดฉาก หรือเป็นตราประทับรับรองให้รัฐบาลจีน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และยังมีเรื่องที่ต้องระวังหลังจากนี้ ว่าโลกมุสลิมจะมีมาตรการอะไรกับไทยอีกหรือไม่

อ่านข่าวอื่น :

ไม่ใช่แค่เหตุจากก่อสร้าง แต่ "ถ.พระราม 2" อุบัติเหตุจราจรกว่า 2,500 ครั้ง

ราคา "ทองคำ" บวก 100 บาท ตลาดกังวลสงครามการค้ารุนแรง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง