เล่นกันนาน ยื้อกันไม่จบ ประชาชนจะไม่ชอบ จะถูกมองว่า เล่นเกมการเมืองนานเกินไป ระหว่างฝ่ายค้านเจ้าของญัตติซักฟอก กับฝ่ายรัฐบาลที่หวังมีแรงกระแทกไปถึงนายกฯ น้อยที่สุด เรื่องตัดชื่อคนนอก คือนายทักษิณ ชินวัตร ฝ่ายค้านส่อเค้าจะยอมแล้ว ยังมาเกี่ยงเรื่องกรอบเวลาอภิปรายอีก
ผลจากการหารือวิป 3 ฝ่ายเมื่อเย็นวันที่ 13 มี.ค. ยังไม่ได้ข้อสรุป ฝ่ายค้านจะขอเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมง แต่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันให้ได้ 20 ชั่วโมง ส่วนอีก 10 ชั่วโมงเป็นของฝ่ายรัฐบาล ทั้งฝากเป็นการบ้านไปตั้งสติก่อน ค่อยมาหารือกันใหม่ 19 มีนาคม เลยจากเดดไลน์เดิมที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนฯ ขีดเส้นให้ฝ่ายค้านส่งญัตติที่แก้ไขแล้วให้สภาฯ ภายใน 17 มีนาคม หาไม่แล้วอาจไม่ทันการประชุมสภาสมัยนี้
ทั้งที่ในการหารือวงแรก ระหว่างนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กับประธานสภาฯ มีข่าวจะจบลงที่ฝ่ายค้านยอมปรับถ้อยคำในญัตติ จากระบุชื่อคนนอกคือนายทักษิณ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ก็เห็นด้วย แต่มาติดที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ดังที่ว่า
แม้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ขานรับทันควัน บอกไม่มีปัญหากับเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมงของฝ่ายค้าน เพราะได้วางแผนเตรียมตัว และเตรียมคำตอบ ไว้แล้ว สะท้อนให้เห็นความมั่นใจและมุ่งมั่นที่จะชี้แจงต่อสภาฯรับมือการถูกซักฟอกครั้งแรก ทั้งเห็นว่าแฟร์ดี แลกกับการแก้ไขญัตติ เปลี่ยนเป็น “ชายคนนั้น”
กลายเป็นว่า ยังไม่ได้เริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ แต่องครักษ์พิทักษ์นายกฯ กลับทำหน้าที่ปกป้องโชว์ผลงานก่อนเวลาเสียแล้ว ทั้งที่การกระทำในลักษณะนี้ อาจจะมีผลทำให้นายกฯ ใจฝ่อก็เป็นได้ แทนที่จะเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ หนุนให้นายกฯ สู้ศึก และตอบคำถามฝ่ายค้านด้วยความมั่นอกมั่นใจ ไม่ใช่มองว่าเป็นไก่อ่อน
ก่อนหน้านี้ เมื่อฝ่ายค้านยื้อเวลาไม่ยอมแก้ไขถ้อยคำในญัตติ กระแสสังคมได้พุ่งเป้าตั้งคำถามไปยังฝ่ายค้าน ด้วยเกรงว่า ศึกอภิปรายจะล้มกลางครัน ทั้งทีมีเวลาแค่ปีละครั้ง และผู้คนรอคอยกันมานาน 18 เดือนแล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน กระทั่งโดนเหน็บว่า ไม่อยากทำหน้าที่ฝ่ายค้านจริง
แต่เมื่อผลการหารือวิป 3 ฝ่ายออกมา กระแสตีกลับเข้าใส่รัฐบาลแทนว่า ใจแคบเกินเหตุ เอาแต่ได้ไม่ยอมเสีย เพราะเวลาอภิปรายเดิม 1 วันที่คนในพรรคออกมาสามัคคีตอกย้ำนั้น น้อยจนเกินไป และในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีปรากฏว่าการซักฟอกรัฐบาลซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านตามหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล การบริหารราชการแผ่นดิน จะมีเพียงแค่วันเดียว
เพราะ 1 วัน สำหรับการอภิปราย จะต้องมีทั้งการหารือหลังเปิดประชุมสภาฯ การเปิดญัตติซักฟอกของผู้นำฝ่ายค้าน ตามด้วยหัวหน้าพรรคหรือตัวแทนพรรคฝ่ายค้านที่ร่วมอภิปราย อาจมีสลับการตอบคำถามของนายกฯ และการใช้สิทธิ์พาดพิงของรัฐมนตรีที่จะลุกขึ้นตอบช่วยนายกฯ รวมทั้งการลุกขึ้นประท้วงก่อหวอด ของบรรดาองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ที่ถือเป็นการเผาเวลา ยิ่งประท้วงมากยิ่งเผาเวลาไปเยอะ ที่เนื้อหาสาระหรือสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่รอฟังคำชี้แจง จะสั้นเกินเหตุ เพราะเวลาจะหมดก่อน
ยังไม่นับเรื่อง สส.งูเห่า ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บอกว่า จะมี สส.งูเห่าจากฝ่ายค้าน 10 ตัว พร้อมยกมือไว้วางใจนายกฯ สวนมติของพรรคฝ่ายค้าน ทั้งที่สส.งูเห่าในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกเปรียบเปรยเป็น “ลิงกินกล้วย” ถูกมองอย่างไม่ให้ราคาค่างวด และไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คนโดยทั่วไปที่อยากจะเห็นการเมืองแบบใหม่
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือเรื่องถ้อยคำในญัตติที่ฝ่ายค้านยินยอมแก้ไข จะใช้คำว่าอะไรแทน คำว่า “พ่อ” หรือคนอื่น หรือคนในครอบครัว หรือแม้แต่ชายคนนั้นอย่างที่นายกฯ ได้ระแคะระคายมา แต่ในความจริงย่อมรู้ว่าคือ นายทักษิณ เพียงแต่ถือเป็นแท็กติค ช่วยรักษามาตรฐานการเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้งางใจรัฐบาลเอาไว้ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยพาดพิงหรือมีชื่อคนนอกในญัตติเลย แต่พอถึงการอภิปรายจริง จึงจะพาดพิงเชื่อมโยงไปถึงคนอื่น ซึ่งมีให้เห็นจนแทบจะเป็นเรื่องปกติแล้ว
เพียงแต่แคมเปญโปรโมทศึกอภิปรายไม่วางใจนั้น เสียงดังและกระตุ้นความสนใจของผู้คนมากพอแล้ว และคนรอดูเยอะแล้ว อย่ายื้อหรือดึงเวลานานจนเกินงามแบบไม่ยอมจบ มีเรื่องให้อ้างต่อได้ ต้องไม่ลืมว่า นานมากไปก็ไม่ดี คนเขาจะบ่น เผลอๆ จะพาลเกลียดเอาอีกต่างหาก
ต้องรู้ว่า อะไรควรและไม่ควร เป็นดีที่สุด
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ยุติค้นหา 2 ผู้สูญหาย เหตุคานเหล็กสะพานพระราม 2 ถล่ม
ลอบวางระเบิดรถทหาร เจ็บ 9 คน เชิงสะพานตะลุโบะ ปัตตานี
นักวิจัยพบ "จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย" ใกล้สูญพันธุ์ ในอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง