ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ระบุพบหลักฐานใหม่ไฟล์เสียง "อดีตผกก.โจ้" คุยกับแฟนก่อนตาย

อาชญากรรม
13 มี.ค. 68
13:44
1,427
Logo Thai PBS
"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ระบุพบหลักฐานใหม่ไฟล์เสียง "อดีตผกก.โจ้" คุยกับแฟนก่อนตาย
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยันย้าย ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยอมรับวันเกิดเหตุมีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ระหว่างอดีตผกก.โจ้กับญาติ เบื้องต้นไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดการสอบสวนผู้คุมสิทธิพร เพราะเกรงว่าข้อมูลจะส่งผลกับผู้เสียชีวิต

วันนี้ (13 มี.ค.2568) นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ คณะทำงานได้เริ่มสืบสวนสอบสวน ตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการแยกการทำงานทั้งหมด 2 ชุด

ชุดแรก คือการตรวจสอบกรณีที่ครอบครัว ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนมายังกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีการยื่นเรื่องมาตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2568 อีกชุดคือการตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ ซึ่งจะมีอีก 3 หน่วยงานภายนอกเข้าร่วม คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ก่อนหน้านี้ได้เปิดให้สื่อมวลชนตรวจสอบในทุกประเด็น ทั้งข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และพาเข้าไปดูพื้นที่สถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความจริงปรากฏ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า สังคมมีการคาดเดาสถานการณ์ไปในหลากหลายรูปแบบ แต่ตัวเองยืนยันว่า ความจริงก็คือความจริง

ส่วนไทม์ไลน์ในวันเกิดเหตุพบว่า ช่วงเช้า อดีต ผกก.โจ้ ได้ออกมาร่วมกิจกรรมของเรือนจำตามปกติ มีการพบทนายความและญาติ ซึ่งในวันดังกล่าว ทราบว่ามีการใช้เวลากับญาตินานพอสมควร จากนั้นจึงกลับเข้าไปอยู่ในห้องขัง

ส่วนในวันดังกล่าวผู้เสียชีวิต จะมีการโวยวายหรือมีท่าทีทะเลาะกับญาติหรือไม่ ขณะนี้เท่าที่ทราบ ตนได้รับรายงานว่า มีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น รวมถึงแฟนสาวของอดีต ผกก.โจ้ ร้องไห้ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งในวันเกิดเหตุ กรมราชทัณฑ์มีบันทึกไฟล์เสียงขณะพูดคุยสนทนา แต่ไม่สามารถนำมาเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน

สำหรับกรณีคำสั่งย้าย นายเผด็จ หริ่งรอด กลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เมื่อวานที่ผ่านมา สาเหตุมาจากต้องการเปิดให้กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นใจให้สังคมได้รับรู้ว่า ไม่ได้มีการปกปิดข้อเท็จจริง ซึ่งส่วนตัวของนายเผด็จเอง ก็เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ส่วน นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม แทน ขณะเดียวกันก็ได้มีการสอบสวนนายสิทธิพร แก้วคำบ้ง ผู้คุม ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริง และอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชน เนื่องจากขณะนี้พบว่า นายสิทธิพรไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะมีผู้พยายามเข้าไปสัมภาษณ์สอบถามครอบครัว ส่วนนี้จึงมองว่า เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

อีกทั้งเกรงว่า หากมีการให้ข้อมูล เกี่ยวกับผลการสอบสวนนายสิทธิพร ก็อาจส่งผลเสียกับอดีต ผกก.โจ้ พร้อมยืนยันว่า มีเอกสารที่จะระบุได้ว่า อดีต ผกก.โจ้ เป็นผู้ขอย้ายแดนคุมขังเอง และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็พร้อมที่จะนำมาเปิดเผย

ส่วนเอกสารที่อดีต ผกก.โจ้ มีการลงลายมือชื่อ ยินยอมให้ยุติการสืบสวนกรณีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งการยินยอมดังกล่าว จะมาจากความสมัครใจหรือถูกบังคับนั้น จะต้องมีการตรวจสอบทุกประเด็น

การคุมขังนักโทษในแดน 7 นั้น มีลักษณะที่เข้มงวด เพื่อควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ต้องขัง ซึ่งกรณีที่มีสื่อมวลชนหรือสังคมตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำของผู้คุมบางอย่าง เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตนมองว่า ไม่ใช่ นักโทษทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบ หากมีนักโทษบางคนต้องการแสดงอิทธิพล หรือฝ่าฝืนระเบียบ ก็ต้องถามกลับว่า ในฐานะผู้คุมต้องทำอย่างไร

อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อว่า กรณีของอดีต ผกก.โจ้ พบว่า มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และส่วนนี้มีข้อมูลยืนยัน แต่ตนไม่อยากพูดพาดพิงผู้เสียชีวิต ส่วนประเด็นที่ครอบครัวระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายนั้นตัวเอง ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบได้

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีผลแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุว่า ผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยของแข็งไม่มีคม ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครงนั้น ก็เป็นคนละช่วงเวลากับการถูกคุมขังในแดนที่มีนายสิทธิพรดูแล และเชื่อว่า ความจริงจะปรากฏเอง

ซึ่งการนำอดีต ผกก.โจ้มา แยกขังที่แดน 5 ก็เพื่อเตรียมที่จะดำเนินการสอบสวน ประเด็นที่ผู้เสียชีวิต มีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และสาเหตุที่เจ้าตัวขอย้ายมาจากความกังวลส่วนตัว พร้อมยืนยันว่า ห้องขังดังกล่าวไม่ใช่ห้องขังวีไอพี

สำหรับประเด็นที่มีการมองว่า เหตุใดกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพเองได้ ตนขอชี้แจงว่า สัญชาตญาณเมื่อเราเห็น ผู้ต้องขังมีลักษณะคล้ายกับกำลังจะทำร้ายตัวเองเสียชีวิตหรือทำร้ายตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว เบื้องต้นผู้คุมจะต้องให้ความช่วยเหลือทันทีจนถึงที่สุด

นายสหการณ์ ระบุถึงกรณีที่มีญาติของผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี มายื่นหนังสือร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบผู้คุม หลังพบพฤติการณ์ ทำร้ายร่างกายผู้ต้องขัง ว่า ในเรือนจำถือเป็นพื้นที่ควบคุม เพราะฉะนั้นตามกฎหมายราชทัณฑ์จะจัดระดับการดูแลตามพฤติกรรมของผู้ต้องขัง

ซึ่งเรือนจำกลางเขาบินถือเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุด ที่คุมขัง ผู้ต้องขังคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มีความผิดสร้างความเสียหายร้ายแรง รวมถึงมีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำให้ผู้คุมต้องมีระเบียบที่เข้มงวดกวดขัน สิ่งไหนที่มีการฝ่าฝืนระเบียบเจ้าหน้าที่ต้องมีการระงับทันที ซึ่งกรณีนี้ทราบว่าเกิดจากเหตุทะเลาะวิวาท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไประงับเหตุ และตรวจสอบว่า ใครคือคนก่อเหตุ ส่วนที่มีการร้องเรียนว่า ผู้คุมทำร้ายร่างกายขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ

อ่านข่าว : "วรวีร์" ยันทิ้งสิทธิประโยชน์ 4 พันล้านให้ ส.บอล มีหลักฐานเด็ดมอบ "มาดามแป้ง"

ศึกซักฟอก ฝ่ายค้านแลกหมัด! ถอนชื่อทักษิณ-ขอวันนอร์เป็นกลาง

"รังสิมันต์ " หวังสื่อทำงานอิสระ ตรวจสอบชีวิตชาวอุยกูร์ในซินเจียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง