ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดชีวิต "ลูกบ่าวไข่นุ้ย" จากเกเรสู่ช้างป่าขี้อ้อนในคอกบริบาลแห่งแรก

สิ่งแวดล้อม
13 มี.ค. 68
11:44
113
Logo Thai PBS
เปิดชีวิต "ลูกบ่าวไข่นุ้ย" จากเกเรสู่ช้างป่าขี้อ้อนในคอกบริบาลแห่งแรก

"มา ๆ มานี่ลูกมา" ช้างป่า "พลายไข่นุ้ย" หรือพลายเจ้างา เดินตามเสียงเรียกของ "ภาสกร นินทรกิจ" นักวิชาการสัตวบาล สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา 

นานกว่า 10 เดือนแล้ว ที่ "ไข่นุ้ย" อายุ 13 ปี ความสูง 2 เมตร น้ำหนัก 2.5 ตัน ใช้ชีวิตในพื้นที่ 4 ไร่ ของศูนย์ปรับพฤติกรรมช้างป่า สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา ด้วยรูปแบบคอกขนาดใหญ่กึ่งป่าธรรมชาติ มีพืชอาหาร ป่าไผ่ และต้นไม้ใหญ่ ล้อมรอบด้วยเพนียดปูนกั้นช้าง

นับแต่วันแรกที่เขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าไปดู "พลายไข่นุ้ย" เพราะชาวบ้านร้องเรียนว่าช้างป่าตัวนี้สร้างความเดือดร้อน กระทบการทำมาหากินของชาวสวนยางพาราและสวนทุเรียนในพื้นที่

ในวันนั้น "ไข่นุ้ย" มีแต่ความหวาดระแวง กลัวคน และพุ่งชาร์จบ้างตามสัญชาตญาณช้างป่า แต่ไม่เคยทำร้ายคน ด้วยเคยผ่านประสบการณ์ถูกผลักดันหลากหลายวิธี ทั้งการไล่ จุดประทัด

จากสายตาหวาดระแวงที่มองเห็นตาขาวเยอะกว่าตาดำ ทุกวันนี้สายตาคู่นั้นเปลี่ยนไปจากเดิม แทบมองไม่เห็นตาขาวของ "ไข่นุ้ย" เพราะการดูแลเอาใจใส่ ทลายความกลัวและหวาดระแวงจนหมดสิ้น

"ภาสกร" พูดได้เต็มปากว่า "ไข่นุ้ย" กลายเป็นช้างป่า "นิสัยดี-ขี้อ้อน" ไม่มีอาการดุร้ายใส่ชาวบ้านและแฟนคลับจากหลายจังหวัด ที่นำผลไม้มาให้ ซึ่งทุก ๆ ครั้งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่

กิจวัตรประจำวัน ภาสกรแทบไม่ห่างจากไข่นุ้ย เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 07.00 น. จะเดินมาดูมูลช้างเพื่อเช็กสุขภาพว่าปกติดีหรือไม่ จากนั้นจะให้หญ้าและผลไม้ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง และมื้อสุดท้ายของวันในช่วงเวลา 21.00 น. ก่อนที่ไข่นุ้ยจะเดินหาที่นอน รวมแล้วกินอาหารวันละ 230-240 กิโลกรัม ซึ่งไข่นุ้ยชื่นชอบผลไม้สุก รสหวาน ทั้งกล้วย มะม่วง แตงโม ฟักทอง หรือหญ้า

ช้างป่ามีความรู้สึก "ภาสกร" สื่อสารกับไข่นุ้ยด้วยคำสุภาพ ไม่ใช่คำหยาบคาย เรียกว่า "ลูก" แทบทุกครั้ง แต่ถ้าดุใส่ไข่นุ้ยก็จะงอน เรียกแล้วเมิน หันตูดใส่ ต้องง้อด้วยผลไม้จนสุดท้ายไข่นุ้ยก็ยอมเดินตาม ถือเป็นช้างที่ฉลาด ฟังคำสั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เรียกก็เดินมาหา หรือสั่งให้ถอยหลังก็ทำได้

เวลาผมหายไป 3-4 ชั่วโมง เมื่อกลับมาแล้วไข่นุ้ยได้ยินเสียงรถ เขาก็จะร้องเสียงดัง แสดงความดีใจ เรียกให้ไปหาทันที

"ลูกบ่าว" กลายคำเรียกแทนความผูกพันที่ "ภาสกร" มีให้ไข่นุ้ย เปรียบเหมือนคนในครอบครัวที่เขาต้องคอยสื่อสารกันก่อนเมื่อต้องห่างกันในช่วงเวลาหนึ่ง เช่นเมื่อครั้งลากลับบ้านก็ต้องบอกกันก่อน ซึ่งไข่นุ้ยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ดื้อกับพี่ที่ฝากดูแล

ย้อนไทม์ไลน์จับย้าย "พลายไข่นุ้ย"

เป็นเวลาปีกว่าแล้วที่ "ภาสกร" ได้ดูแลพลายไข่นุ้ย ย้อนไปตั้งแต่ช่วงเวลาที่ช้างป่าหนุ่มจากอุทยานฯ ใต้ร่มเย็น จ.สุราษฎร์ธานี มีพฤติกรรมเกเรและออกจากป่าไปทำลายพืชผลอาสินทางการเกษตร สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จนเรื่องถึงศาลปกครอง ชาวบ้านและท้องถิ่นเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ เข้าไปจับช้างออกจากพื้นที่

พบกันครั้งแรก ไข่นุ้ยออกจากป่าอนุรักษ์มาหากินห่างจากบ้านชาวบ้านเพียง 6 เมตร ชาวบ้านจึงโทรศัพท์แจ้งให้ควาญอ๊อดมาช่วยจับ โดยหารือกับสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) และผู้ใหญ่บ้าน ได้ข้อตกลงว่าจะเคลื่อนย้ายช้างไปอยู่หลังบ้านควาญอ๊อดเป็นการชั่วคราว ใช้ช้างบ้าน 2 เชือก ทำหน้าที่จูง 1 ตัว อีกตัวเดินขนาบข้างไข่นุ้ยให้รู้สึกไม่อันตราย ค่อย ๆ เดินเป็นระยะทาง 13 กิโลเมตร จนถึงจุดหมาย

เจ้าหน้าที่ใช้ช้างบ้านล่อก่อนยิงยาซึมพลายไข่นุ้ยเพื่อเคลื่อนย้าย

เจ้าหน้าที่ใช้ช้างบ้านล่อก่อนยิงยาซึมพลายไข่นุ้ยเพื่อเคลื่อนย้าย

เจ้าหน้าที่ใช้ช้างบ้านล่อก่อนยิงยาซึมพลายไข่นุ้ยเพื่อเคลื่อนย้าย

ต่อมาได้ตกลงกันว่าจะเคลื่อนย้ายไข่นุ้ย ไปปล่อยที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ช้างป่าตัวนี้ก็เดินออกจากป่าอีกครั้ง เข้ามาในถนนของหมู่บ้าน รวมทั้งสวนทุเรียน และใช้งวงดันจนต้นล้ม

สู่การร้องขอให้จับเป็นครั้งที่ 2 เคลื่อนย้ายไปปล่อยในป่าอนุรักษ์ลึก 10 กิโลเมตร แต่ไม่นานไข่นุ้ยก็เดินออกมายังชุมชนเช่นเคย พร้อมเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตร และกระท่อมของชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น นำมาสู่การรวมตัวฟ้องศาลปกครอง กระทั่งมีคำสั่งให้กรมอุทยานฯ เคลื่อนย้ายพลายไข่นุ้ยภายใน 20 วัน

การเคลื่อนย้ายครั้งที่ 3 กรมอุทยานฯ ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า สัตวแพทย์ เข้ามาดูแลการเคลื่อนย้าย ใช้ 2 ช้างบ้าน "พลายเข็มทอง" และ "ปีเตอร์" ล่อไข่นุ้ยออกจากป่า ก่อนยิงยาสลบในช่วงเวลาเที่ยงคืน ขณะที่ไข่นุ้ยข้ามถนนมาหาช้างบ้านทั้ง 2 ตัว และเคลื่อนย้ายสู่แหล่งต้นน้ำคลองกลาย อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2566 ซึ่งไข่นุ้ยได้รับการดูแลอยู่ที่นี่นาน 9 เดือน ระหว่างรอการสร้างคอกอนุบาลช้างป่าแล้วเสร็จ กระทั่งวันที่ 2 พ.ค.2567 ไข่นุ้ยถูกเคลื่อนย้ายมาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา

ควาญช้างและพี่เลี้ยงพาพลายไข้นุ้ยมาส่งที่คอกบริบาล

ควาญช้างและพี่เลี้ยงพาพลายไข้นุ้ยมาส่งที่คอกบริบาล

ควาญช้างและพี่เลี้ยงพาพลายไข้นุ้ยมาส่งที่คอกบริบาล

ขณะที่ ดร.ศุภกิจ วินิตพรสวรรค์ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบเคสการจับช้างป่า “พลายแท็งค์” ที่ถูกเคลื่อนย้ายไปควบคุมไว้ที่บริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากะทูน เป็นการชั่วคราว โดยมีควาญช้างและช้างคู่เทียบช่วยกำกับ พบว่าการตรึงช้างป่าเป็นเวลานาน อาจทำให้มีปัญหาบ้างในด้านพฤติกรรมและสุขภาพ

แตกต่างจากพลายไข้นุ้ย ซึ่งไม่ได้ถูกตรึง มีการเคลื่อนที่หาอาหารและแหล่งน้ำในพื้นที่กว้าง ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ จึงเชื่อว่าหากสามารถเคลื่อนย้ายพลายแท็งค์ไปยังจุดที่มีพื้นที่มากขึ้น ก็น่าจะดีกว่าปัจจุบัน

ดร.ศุภกิจ กล่าวว่า ไข่นุ้ยเป็นช้างวัยรุ่น ซึ่งทางกรมอุทยานฯ และศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จะหารือและประเมินแนวทางที่เหมาะสมในอนาคต ว่าสุดท้ายแล้วจะปล่อยคืนป่าได้หรือไม่ หรือเคลื่อนย้ายไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ เช่น สถาบันคชบาลแห่งชาติ เพื่อเป็นการอนุรักษ์อีกแง่มุมหนึ่ง

“ตอนนี้ไข่นุ้ยไม่มีปัญหาสุขภาพ และสามารถอยู่ในศูนย์ปรับพฤติกรรมได้ยาว ๆ แต่เขาคือช้างป่า คำถามคือจะกำหนดอนาคตอย่างไร ยืนยันปลายทางจะเป็นการอนุรักษ์ช้างแน่นอน อยู่ที่ว่าเป็นการอนุรักษ์ในพื้นที่ธรรมชาติ หรือนอกพื้นที่ป่า”

อ่านข่าว : ปฏิบัติการย้าย "พลายไข่นุ้ย" ตัวตึงกรุงชิง-รอบ้านใหม่อีก 1 เดือน 

ตัวแรก ย้าย "พลายไข่นุ้ย" ตัวตึงกรุงชิง เข้าศูนย์บริบาลช้างป่า 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง