วันนี้ (11 มี.ค.2568) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกล้องวงจรปิดภายในเรือนจำคลองเปรมฉบับเต็มในช่วงเวลาที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ เสียชีวิต มาให้สาธารณชนรับทราบ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนทั้งหมดได้นำเซิร์ฟเวอร์ไปแล้ว เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตไม่ธรรมชาติ
ส่วนที่บอกว่าประชาชนเรียกร้องก็คงเป็นสื่อมวลชนที่มีความสงสัยก็ให้กรมราชทัณฑ์เปิดให้ดูทุกแง่มุม แต่ส่วนที่พนักงานสอบสวนยึดไปแล้ว ต้องประสานกับพนักงานสอบสวน และได้สั่งให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายไปตรวจสอบข้อมูล ซึ่งในอนุกรรมการตอนนี้ได้ร้องไปที่อัยการด้วย ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมตรงนั้นและเร่งให้ความกระจ่างโดยเร็ว โดยต้องกระจ่างด้วยพยานหลักฐาน

ส่วนกรอบระยะเวลาจะชัดเจนอย่างไร จะต้องดูที่ผลชั้นสูตรพลิกศพของทั้ง 2 โรงพยาบาลที่มี 2 ส่วน คือ 1.เรื่องการตาย 2.สาเหตุการเสียชีวิตว่ามีการทรมานหรือไม่ นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมจะไปดูเรื่องการปกครองการบริหาร รวมถึงจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งโดยกระทรวงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว มีคนนอก ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และนิติวิทยาศาสตร์
ส่วนจะชี้แจ้งอย่างไร เพราะข้อมูลที่ให้นั้นคลาดเคลื่อนทุกวัน พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่เคยคิดปกป้องใคร อยากช่วยตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฎเพราะมีความคิดที่จะปฏิรูปราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรือนจำคลองเปรมที่มีผู้ต้องหามากที่สุด กว่า 6,000 คน
ส่วน ผบ.เรือนจำจะถูกย้ายหรือไม่ เพราะถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องดู เพราะเขาก็เพิ่งมาทราบว่าอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องการซ้อมทรมานฯ ได้ไปรวบรวมข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อวานก็ไปที่ราชทัณฑ์ ก็ได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจ วันนี้จะไปสอบปากคำต่าง ๆ และจะมีการประชุม โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดูแลความเรียบร้อย
ส่วน ผบ.เรือนจำ ได้ชี้แจงอะไรหรือไม่ เรื่องที่ถูกร้องเรียนมา พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขอให้ทางสอบสวนเป็นคนพูดดีกว่า เพราะบางทีต้องฟังความทั้งฝ่ายผู้ร้อง ฝ่ายผู้ชี้แจงด้วย ยืนยันว่าเราจะทำเต็มที่ ส่วนการตรวจสอบของสื่อมวลชนก็สามารถตรวจสอบได้เลย ส่วนกรณีที่วันนี้หัวหน้าพรรคประชาชน จะเดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ได้ชวนตนมา แต่ติดประชุม แต่หากมีเวลาจะเข้าไปดู

แจงดรามาแจกผ้าอนามัย LGBTQ+
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงข้อสงสัยเรื่องของผ้าขนหนูที่ผู้กำกับโจ้ใช้แตกต่างจากผู้ต้องหาอื่นใช้ ว่า ผ้าที่ใช้ก่อเหตุเป็นผ้าที่กรมราชทัณฑ์แจก เป็นของหลวงไม่ใช่ของผู้ต้องขัง ได้ 1 ผืน กิน นอน อยู่ หลวงซื้อให้ ส่วนแดน 5 ยืนยันว่า เราซื้อขนาดเดียว ชาย 1 ขนาด หญิง 1 ขนาด เป็นระเบียบ เป็นเงินหลวงที่ทุกเรือนจำเหมือนกัน
พร้อมชี้แจงว่าขนาดของผ้าขนหนูคือ 30-40 นิ้ว ไม่ใช่เซนติเมตร อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ รวมแล้ว 100 กว่าเซนติเมตร ส่วนที่มีคนเคยติดคุกออกมาให้ความเห็นว่า ผ้าขนหนูคนละขนาด อาจต้องไปดูสมัยนั้น แต่นี่คือสมัยปัจจุบัน
ส่วนดราม่าเรื่องการให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น LGBTQ+ ทำไมต้องใช้ผ้าอนามัย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า เมื่อวานคลาดเคลื่อน เพราะในเรือนจำมี LGBTQ+ ประมาณ 88 คน ในจำนวนนี้แปลงเพศแล้ว 18 คน ในห้องข้างๆ ซึ่งตนยืนอยู่กับปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ยินเสียงไม่ชัด ซึ่งตนมีเจตนาจะพูดว่า มีพยานใกล้ชิดที่เกิดเหตุ แต่ภาพที่มองไปเป็นเป็นผู้หญิง เลยเข้าใจไปแบบนั้น ซึ่งตนได้คุยเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไม่ตกใจหรือ ที่เห็นผู้หญิงอยู่ในเรือนจำชาย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตอนนั้นตนมุ่งแต่พาญาติไปดูชันสูตรพลิกศพ พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องกระจ่าง เพราะเรือนจำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร คนที่เขาเรือนจำเราต้องดูแล ต้องเป็นสถานที่ฟื้นฟูไม่ได้มาทรงมานใคร กฎของเรือนจำก็มีใคนผิดว่าไปตามผิด
รอชัดย้าย ผบ.เรือนจำหรือไม่
เมื่อถามว่าต้องเข้มงวดเรื่องระเบียบในห้องขัง มากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากต้นเหตุนี้ เกิดจากการยาเส้นเข้าเรือนจำ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังเป็นคำกล่าวอ้าง ต้องรอให้กรรมการตรวจสอบรายละเอียดก่อน ซึ่งยืนยันว่าทางกรมราชทัณฑ์ จะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา
หากสังคม อยากให้มีการสอบสวน โดยเฉพาะกฎหมายได้ให้อำนาจพนักงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยต้องทำอย่างตรงไปตรงมาและทำให้เร็ว ทั้งเรื่องการเสียชีวิต และสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต หากเสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตาย ก็ต้องหาว่าอะไรคือสาเหตุจูงใจ ให้เขาฆ่าตัวตาย รวมถึงต้องดูว่ามีการปฏิบัติผิดระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์รับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการราชทัณฑ์ ที่มี จำนวน 19 คน ซึ่ง มีผู้ทรงคุณวุฒิ จากหลายหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศาลยุติธรรม และตำรวจ โดยให้ใช้กรณีของเรือนจำคลองเปรมเป็นต้นแบบว่ายังมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าในตอนแรกทางเรือนจำคลองเปรมไม่อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบตามที่อดีตผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยากให้รับฟัง คณะกรรมการมากกว่า ราชทัณฑ์มีระเบียบของเขา คนจะเข้าไปด้านในหากไม่มีหมายจำคุกก็เข้าไม่ได้ ผู้ที่จะเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังก็ต้องขออนุญาตจาก ผบ.เรือนจำ การเข้าไปสอบสวนก็จะมีระเบียบอยู่ ซึ่ง กฎหมายของราชทัณฑ์กำหนดให้ต้องให้ความร่วมมือให้เกิดการสอบสวนโดยเร็ว ส่วนข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างนั้น ยังต้องมีการสอบสวน เมื่อสอบสวนเสร็จแล้วจะมีการพิจารณา ผบ.เรือนจำ จะใช้ระเบียบของเรือนจำ แต่ตามหลักการแล้วคนที่เป็นผู้เสียหายรัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครอง
เพื่อถามว่าจะทำอย่างไรกับคำกล่าวที่ว่า ผู้คุมเรือนจำ ใหญ่กว่ากฎหมาย ใหญ่กว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และใหญ่กว่า รมว.ยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย เราจะต้องใช้หลักกฎหมายหลักนิติธรรม ตอนนี้พยายามจะทำทุกเรื่องรวมถึงเรื่องในเรือนจำ ใครบกพร่องจะต้องถูกดำเนินการ แต่จะต้องไม่เอาความรู้สึกไปตัดสินจะต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการ
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงมีคำสั่งย้ายผู้คุมแดน 7 และนักโทษ ส. ล่าช้านั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ช้าเร็วเป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ส่วนก่อนสั่งย้ายได้มีการพูดคัยกับผู้คุมแดน 7 หรือไม่ นั้นต้องสอบถามจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์

"ทวี" ลั่น กระทรวงยุติธรรมยุคนี้ ตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่าการปฏิรูปราชทัณฑ์จะสามารถดำเนินการได้เมื่อไรและจะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้เริ่มนับหนึ่งไปแล้ว ทั้งเรื่องผู้ต้องหาระหว่างอย่าง อย่างกรณีอดีตผู้กำกับโจ้ก็เป็นผู้ต้องหาระหว่าง ที่เป็นผู้ต้องหาเด็ดขาด ซึ่งผู้ต้องหาระหว่างจะมีทั้งผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวนที่ยังฝากขังอยู่ กับผู้ต้องหาระหว่างที่ศาลตัดสินไปแล้วจะต้องมีหลักปฏิบัติต่างกัน
เมื่อถามว่าขณะนี้หลายเรื่อง ประเดประดังมาที่กระทรวงยุติธรรมทั้ง แก๊งคอลเซนเตอร์ อุยกูร์ และยังมีเรื่องของอดีตผู้กำกับโจ้อีก พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อุยกูร์ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงยุติธรรม ส่วนกรณีแก๊งคอลเซนเตอร์ เป็นเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหา ซึ่งหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมภายใต้การนำของตนจะขจัดการมีอิทธิพล แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง รวมถึงการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา
อ่านข่าว : เกิดเหตุซุ่มยิงฐานปฏิบัติการ อ.บันนังสตา จ. ยะลา - เจ็บ 1 นาย