วันนี้ (10 มี.ค.2568) พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีคำสั่งย้าย นายสิทธิพร พ้นจากหน้าที่หัวหน้างานควบคุมแดน 7 ว่า นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีคำสั่งย้ายจริง โดยให้ไปปฎิบัติหน้าที่ในฝ่ายธุรการ เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างโปร่งใส
เบื้องต้นมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีบุคคลภายนอกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติเวช และกรมการปกครอง เข้าร่วมประมาณ 7-8 คน แนวทางการสอบสวนจะพิจารณาทุกประเด็น ทั้งเรื่องเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างนายธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ กับผู้ต้องขังและผู้คุม รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิต โดยมีกรอบระยะเวลาทำงานประมาณ 30 วัน หากครบ 30 วันจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาขยายเวลาเพิ่มหากการตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ
ส่วนกรณีที่แม่ของอดีต ผกก.โจ้ ทำหนังสือร้องเรียนมาถึงกรมราชทัณฑ์ก่อนหน้านี้ ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ปฏิเสธ เรื่องแต่ได้ส่งหนังสือกลับไปให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน เบื้องต้นมีการตั้งเรื่องไว้เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีผู้ตรวจราชการเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ขณะที่การส่งหนังสือครั้งที่ 2 พบว่าเป็นการส่งเรื่องเข้ามาในช่วงเวลารอยต่อของการโยกย้ายตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำ จึงทำให้การทำงานขาดความต่อเนื่อง
อ่านข่าว : ผบ.เรือนจำคลองเปรม สั่งย้าย "ผู้คุมแดน 7" ปมอดีต ผกก.โจ้ ร้องเรียน
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังชี้แจงกรณีที่ทนายความของผู้เสียชีวิต อ้างว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ยินยอมให้ตำรวจเข้าตรวจสอบภายในเรือนจำ หลังแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า เดิมทีกรมราชทัณฑ์มีกฎกระทรวงยุติธรรมที่ระบุว่า การที่ผู้ต้องขังจะแจ้งความดำเนินคดีใดๆ ก็ตาม ต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้บัญชาการเรือนจำก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ เพื่อเป็นการควบคุมความวุ่นวาย เนื่องจากกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังจำนวนมาก จึงต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป
พร้อมระบุว่า กรณีของนายสิทธิพรที่มีคำสั่งย้ายเบื้องต้น ไม่พบเคยถูกร้องเรียนมาก่อน ส่วนประเด็นของอดีต ผกก.โจ้ พบว่ามีปัญหากับผู้ต้องขังอีกคนหนึ่ง ส่วนนายสิทธิพรจะมีผู้บริหารกรมราชทัณฑ์หนุนหลังหรือให้การสนับสนุนหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน แต่ประเด็นนี้จะอยู่ในการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในวันเกิดเหตุก็มีการเรียกเจ้าตัวมาสอบถาม พบว่าไม่ได้มีพฤติกรรมดุดันและยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางส่วนตัวกับอดีต ผกก.โจ้ แต่ยอมรับว่ามีการกวดขัน อดีต ผกก.โจ้ เป็นพิเศษ เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมทะเลาะกับผู้ต้องขังคนอื่น
อ่านข่าว : “ทวี-กรมราชทัณฑ์” งานเข้า ปมอดีต ผกก.โจ้ดับปริศนา
สำหรับอดีต ผกก.โจ้ ที่ปรากฏข้อมูลว่ามีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องนั้น เชื่อว่าอาจมาจากความเคยชินที่ในอดีตรับราชการตำรวจ เมื่อต้องมาอาศัยรวมอยู่กับกลุ่มผู้ต้องขังที่กระทำความผิด จึงอาจมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน จนนำไปสู่เหตุกระทบกระทั่งกันดังกล่าว และจากกรณีที่ปรากฏข้อมูลว่าพบยาเส้น รวมถึงสื่อลามกอนาจารที่เป็นต้นเหตุนำไปสู่การทะเลาะวิวาท ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยตรวจพบบ้าง ซึ่งหากตรวจพบผู้ครอบครองจะมีความผิดทางอาญา ส่วนผู้คุมก็จะมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งกรณีนี้จะนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน
พ.ต.ท.เชน กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเห็นใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพราะเท่าที่เคยพูดคุยพบว่าทุกสัปดาห์ ๆ ละ 2 ครั้ง จะพบว่าครอบครัวได้เข้าเยี่ยมผู้เสียชีวิตมาตลอดกว่า 3 ปี ซึ่งตนนับเป็นรุ่นพี่ของอดีต ผกก.โจ้ ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก่อนจะโอนมาอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ โดยยืนยันว่าจะไม่ให้อดีต ผกก.โจ้ เสียชีวิตฟรีอย่างแน่นอนและจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
อ่านข่าว
ผลชันสูตรร่าง "อดีต ผกก.โจ้" ให้น้ำหนักผูกคอเอง
"ราชทัณฑ์" แจงเพิ่มปมอดีต "ผกก.โจ้" เปิดผังห้องขัง-ไซส์ผ้าขนหนู