ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เวียดนาม มังกรผงาด "วาระแห่งชาติ-พลังขับเคลื่อน" ยิ่งใหญ่ในใจ

ต่างประเทศ
10 มี.ค. 68
12:35
63
Logo Thai PBS
เวียดนาม มังกรผงาด "วาระแห่งชาติ-พลังขับเคลื่อน" ยิ่งใหญ่ในใจ

กรุงฮานอย— ทุกวันนี้ เวียดนามมีวาระแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่อยู่ในใจ คือจุดประสงค์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีความชัดเจนว่าภายในปี 2045 เวียดนามจะต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีรายได้สูง ฉะนั้นผลงานพรรคและคุณภาพและผลของการเป็นผู้นำพรรคมีความสำคัญมาก ๆ (ประเด็นนี้ในจีนก็มีลักษณะคล้ายกัน)

ใครที่ได้เดินทางไปเวียดนามช่วงนี้จะสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นและพลังขับเคลื่อนของประเทศ รวมถึงความกระตือรือร้นของประชาชน เวียดนามได้มีทีมผู้นำชุดใหม่ที่มุ่งมั่นปฏิรูปโครงสร้างการบริหารภายในประเทศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคนใหม่ โต ลัม ไม่ธรรมดา เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ดูแลด้านความมั่นคงของเวียดนามมาอย่างยาวนาน ทำให้เข้าใจดีถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของประเทศ ปัจจุบัน ประชาชนเวียดนามมีความมั่นใจอย่างมากว่าภายใต้การนำของเขา

คนเวียดนามเชื่อว่า ผู้นำพรรคคนนี้จะสามารถยกระดับประเทศขึ้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีรายได้สูง (รายได้ประชาชาติต่อหัวเกิน หนึ่งหมื่นสองพันเหรียญหรือ สี่หมื่นกว่าบาท) ภายใน 20 ปีข้างหน้า ซึ่งจะตรงกับวาระครบรอบ 100 ปีของการสถาปนาประเทศ

นโยบายหลักของเลขาธิการพรรคคนนี้คือ การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรรัฐทุกภาคส่วน ลดความซับซ้อนในการบริหาร และปราบปรามคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด ผู้นำเวียดนามพูดแล้วต้องทำ มิฉะนั้น ความน่าเชื่อถือของพรรคจะถูกสั่นคลอนทันที และจะส่งผลกระทบต่อภาวะผู้นำภายในพรรคอย่างรุนแรง

เวียดนามยังโชคดีที่มี ฟาม มินห์ จินห์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากคนรุ่นใหม่ ถึงขนาดที่มีการตั้งฉายาให้เขาว่า "ไวตามินจินห์" (Vitamin Chinh) ซึ่งผู้เขียนรู้สึกแปลกใจที่เห็นคนหนุ่มสาวชื่นชมและให้ความเคารพนายกรัฐมนตรีวัยสูง แต่มีความคิดก้าวหน้าและสามารถเข้าถึงคนรุ่นเจนซีและอัลฟาได้อย่างดี เป็นคนที่มีเข้าใจคนหนุ่มสาวแบบไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อสิบกว่าปีก่อน การตั้งฉายาล้อเลียนผู้นำเวียดนามอาจส่งผลให้ถูกลงโทษ แต่ปัจจุบัน เวียดนามเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ก้าวขึ้นมาเป็น "มังกรทองน้อย" และปีนี้ธนาคารโลกยกนิ้วให้ คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตสูงที่สุดในอาเซียน

ทำให้อยากย้อนยุคกลับไปช่วงที่ผู้เขียนเป็นนักข่าวประจำกรุงฮานอยระหว่างปี 1988-1990 เชื่อไหม ตอนกลางคืน ถนนหนทางมืดสนิท มีเพียงแสงเทียนหรือตะเกียงเจ้าพายุเล็ก ๆ ตามข้างทางที่มีคนขายบุหรี่ให้พอมองเห็นได้ เวียดนามในยุคนั้นยังยากจนมาก

ผู้เขียนจำได้ว่านักข่าวเวียดนามหลายคนในสมัยนั้น ใช้ปากกาลูกลื่นจนหมึกหมดแล้วก็ไม่ทิ้ง แต่จะนำไส้ปากกาไปเติมหมึกใหม่ที่ร้านพิเศษ หรือถ้าด้ามปากกาหัก ก็จะนำกระดาษแข็งมามวนเป็นทรงกระบอก แล้วสอดไส้ปากกาลูกลื่นลงไปเพื่อใช้ต่อเป็นปากาลูกลื่นด้ามใหม่

แม้ว่าเวียดนามจะยังคงเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่รัฐบาลมีแนวคิดที่ทันสมัย มีแผนระยะยาว มียุทธศาสตร์ และเป้าหมายที่ชัดเจน

ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าเวียดนามจะพัฒนาและมีความเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใด สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ยอมรับว่าเวียดนามมีเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ทั้งที่เวียดนามมีข้อตกลงการค้าเสรีกับ 17 ประเทศและกลุ่มเศรษฐกิจ ผู้นำเวียดนามทุกคนต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและไต่เต้าขึ้นมาในระบบ ไม่มีการแต่งตั้งแบบ "เฮลิคอปเตอร์"

ทุกวันนี้ เวลาพูดคุยกับชาวเวียดนาม ไม่ว่าจะรุ่นไหน มักจะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจว่า เวียดนามจะเจริญก้าวหน้าขึ้นไปอีกมากในทศวรรษหน้า ผู้นำพรรคและรัฐบาลเข้าใจดีถึงปัจจัยแวดล้อมที่ประเทศต้องเผชิญในยุคที่โลกปั่นป่วนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด (คนเวียดนามมักจะบอกว่าเคยลำบากมาก่อนรู้คุณค่าของชีวิตและเวลา)

ชาวเวียดนามมักจะบอกกับผู้เขียนว่า "พวกเขาต้องแข่งกับตัวเอง ไม่ใช่แข่งกับประเทศอื่น" เพราะเวียดนามมีประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้กับอาณานิคมและรัฐบาลเผด็จการในภาคใต้มาก่อน

โดยทั่วไป คนเวียดนามให้ความสำคัญกับระเบียบวินัยในสังคม ไม่นอกลู่นอกทาง บางคนอาจมองว่าเวียดนามยังขาดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ประเทศนี้มีทิศทางและเป้าหมายที่แน่นอน คนเวียดนามยินดีตอบสนองวาระแห่งชาติอย่างสุดหัวใจ

มองเทศคิดไทย : กวี จงกิจถาวร สื่อมวลชนอาวุโส

อ่านข่าว:

ยุโรปสู้ สู้ แต่ต้องสู้ตาย รวมพลังรักษาเอกภาพ "ดินแดนยูเครน"

ยูเครนพัง ยุโรปก็จะพัง" อาเซียนเกราะป้องไทยใน "เอเชียอาคเนย์"

"อุยกูร์" คือใคร ? รากเหง้าประวัติศาสตร์พันปีสู่ความขัดแย้งร่วมสมัย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง