ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทองคำ" ผันผวน เทรดวอร์สหรัฐฯ – จีน หวั่นนโยบายภาษี "ทรัมป์"

เศรษฐกิจ
10 มี.ค. 68
12:38
109
Logo Thai PBS
"ทองคำ" ผันผวน เทรดวอร์สหรัฐฯ – จีน หวั่นนโยบายภาษี "ทรัมป์"
ตลาดทองผันผวน ขึ้นแรง-ลงแรง เหตุนักลงทุนไม่มั่นใจนโยบายภาษี กังวลสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ หลัง "ทรัมป์" ไม่ลงนามขยายเวลาเก็บภาษี คาดเฟดตรึงดอกเบี้ยระยะสั้น 25%-4.50% จ่อประชุมกำหนดนโยบายการเงิน 18-19 มี.ค.นี้

วันนี้ ( 10 มี.ค. 2568) เว็บไซต์ “ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ ตลาดทองคำยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนของสงครามการค้าสหรัฐฯ ตลาดยังคงกังวลสหรัฐฯ เสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะมีผลกับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)

ขณะเดียวกันทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การผ่อนปรนมาตรการภาษีนำเข้าสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดยมีการระบุว่า เขาจะไม่ลงนามขยายเวลาการเก็บภาษีอีกในเดือนหน้า ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% มีผลบังคับใช้วันที่ 4 มี.ค. 2568 เพิ่มจากเดิมที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อ 4 ก.พ. 2568

ทางสหรัฐฯ ระบุว่าทางการจีนยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้าเฟนทานิลที่ไหลเข้าสู่สหรัฐฯ ได้เพียงพอ ในระยะเวลา 1 เดือน สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นแล้วทั้งหมด 20%

ขณะที่จีนออกมาตรการภาษีโต้ตอบสหรัฐฯ กลับในทันที ซึ่งครอบคลุมสินค้าจำพวกอาหาร และสินค้าเกษตร เช่น เนื้อไก่ ผ้าฝ้าย รวมถึงถั่วเหลืองที่เคยถูกใช้เป็นเครื่องมือของจีน ความรุนแรงดูเริ่มหนักขึ้น หลังจากสถานทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาโพสต์ข้อความจากกระทรวงการต่างประเทศจีนผ่านช่องทาง X โดยประกาศเตือนว่า จีนมีความพร้อมที่จะ ทำสงครามรูปแบบใดก็ได้

ล่าสุดธนาคารกลางประชาชนจีน (PBOC) ได้เดินหน้าตุนทองเพิ่ม เพื่อขยายทุนสำรองระหว่างประเทศด้วยการซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันและในเดือนก.พ. จีนมีการสะสมทองคำมากสุดเป็นประวัติการณ์ สะสมทองคำเพิ่มขึ้น 0.16 ล้าน ทรอยออนซ์ (Troy Ounce) หรือประมาณ 5 ตัน

แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางประชาชนจีนพยายามกระจายสินทรัพย์ของทุนรองให้มีความหลากหลาย เช่นเดียวกับธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกที่มีแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน ขณะที่มีการคาดเดาว่าสหรัฐอาจทบทวนมูลค่าทองคำสำรอง (Gold Revaluation) ของตัวเองอีกด้วย ทำให้ทองคำตกอยู่ในความสนใจของตลาดในฐานะทุนสำรอง

นอกจากนี้ตลาดยังคาดเฟดปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งล่าสุด CME FedWatch Tool ได้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเริ่มในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และ ตุลาคม 2568 สู่ระดับ 3.50 – 3.75%

นาย ราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ออกมาแถลงการณ์ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ว่ายังมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างมาก เฟดมีกำหนดประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งถัดไปในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในช่วงปัจจุบันที่ 4.25%-4.50%

สำหรับภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา สัปดาห์ก่อนราคาทองคำฟื้นตัวแรง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลก โดยสหรัฐเริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน และความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง

รวมถึงตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ในเดือนก.พ.ซึ่งอาจทำให้เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 10.04 ตันในสัปดาห์ก่อน

วิเคราะห์ราคาทองราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่การปรับตัวลงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 2,890 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวอาจเห็นการปรับตัวลงอย่างชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้ายังยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้ ระยะสั้นอาจมีการ Sideways ออกข้าง

แนะนำให้ Wait & See รอดูบริเวณแนวรับ 2,890 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวให้เปิดสถานะขายที่ 2,890 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,900 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ อาจเข้าซื้อขายเก็งกำไรช่วงสั้นๆ

ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5%แนวรับ : 46,360 และ 46,250 บาทแนวต้าน : 46,750 และ 46,850 บาทราคาทองคำแท่งเคลื่อนไหว Sideways ออกข้าง แต่เริ่มปรับตัวลงอย่างช้า ๆ ตามสัญญาณทางเทคนิคที่มีสัญญาณการชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ใช้จังหวะการเข้าซื้อ แนะนำ Wait & See ไปก่อน

สำหรับราคาทองคำเปิดตลาด ลบ 50 บาท ปรับขึ้น 50 บาท ครั้งที่ 2 ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 46,550 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 46,450 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 47,350 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 45,616.44 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,914 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 33.76 บาทต่อดอลลาร์

ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 6,619บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 12,438 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 24,075 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 47,350 บาท ภาพรวมราคาทองปี 2568 บวก 4,150 บาท เดือนม.ค. ทองคำบวก 2,050 เดือนก.พ. บวก 1,850 และเดือน มี.ค. บวก 250

 อ่านข่าว:

หอการค้าไทยจี้รบ.ตั้งทีมพิเศษ รับมือทรัมป์2.0 หวั่นกระทบ ศก.ไทยทรุดรุนแรง

มาตรการภาษีสหรัฐฯ เขย่าส่งออกไทย กกร.ห่วงศก.ไทยเผชิญเสี่ยงสูง

3 ปีสงครามรัสเซีย-ยูเครน "ความหวัง-สันติภาพ" ดันเศรษฐกิจไทย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง