"แรงงานสตรี" ทั้งในระบบและแรงงานอิสระมีมากกว่า 30 ล้านคน หรือคิดเป็น 44% ของแรงงานทั้งหมด แต่ปัจจุบันแรงงานสตรียังพบปัญหาทั้งช่องว่างรายได้ระหว่างเพศ การเข้าถึงสวัสดิการที่จำกัดและภาระครอบครัว
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้ผลักดันกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพิ่มสิทธิวันลาเพื่อคลอดบุตรของลูกจ้างหญิง 120 วัน โดยได้รับค่าจ้าง 60 วัน และให้ลูกจ้างชายมีสิทธิลา 15 วัน เพื่อช่วยเหลือคู่สมรสที่คลอดบุตร โดยได้รับค่าจ้าง 100%
รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายประกันสังคม เพิ่มเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตรจาก 90 วันเป็น 98 วัน และในปีนี้ได้จัดตั้งศูนย์ที่ปรึกษาแรงงานหญิงนำร่อง 10 จังหวัดในพื้นที่อุตสาหกรรม เพื่อแนะนำช่วยเหลือแรงงานหญิงที่ประสบปัญหาในการทำงาน

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้พัฒนาทักษะฝีมือแรงงานสตรี โดยเน้นสาขาที่สตรีนิยมทำงาน เช่น สาขาการท่องเที่ยวและการบริการ โรงแรม นวด สปา ร้านอาหาร ทักษะ STEM หรือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ
ส่งเสริมให้นายจ้างจัดสวัสดิการที่เหมาะสมแก่แรงงานสตรี เช่น เงินโบนัส เงินช่วยเหลือ เงินรางวัล การประกันชีวิต ชุดทำงาน ที่พักอาศัย รถรับส่ง รวมถึงการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของคนในครอบครัวของลูกจ้าง ค่าคลอดบุตร ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเล่าเรียนบุตร และการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบการ
จากข้อมูลในปี 2567 สตรีเป็นหัวหน้าครัวเรือนมากถึง 41.1% และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนแรงงานสตรีในภาคอุตสาหกรรมมีประมาณ 18.4 ล้านคน แบ่งเป็นด้านการเกษตร 5.1 ล้านคน, ด้านค้าส่งค้าปลีกและซ่อมรถยนต์ 3.5 ล้านคน, ด้านการผลิต 3 ล้านคน และด้านอื่น ๆ 6.7 ล้านคน
จำนวนสตรีที่ทำงานในภาคราชการ 4.5 แสนคน ส่วนจำนวนสตรีในภาคธุรกิจ 17.9 ล้านคน แบ่งเป็นนายจ้าง 2.5 แสนคน, ลูกจ้าง 8.3 ล้านคน, ทำงานส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง 5.5 ล้านคน และช่วยธุรกิจในครัวเรือน 3.9 ล้านคน
ปลัดกระทรวงแรงงงาน ชี้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มที่กระทรวงแรงงานจะต้องดูแลช่วยเหลือ สนับสนุนให้เป็นกำลังแรงงานที่มีประสิทธิภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
อ่านข่าว
สปสช. ยืนยันมะเร็งรักษาทุกที่ไม่ใช้ใบส่งตัว คลินิกไม่ต้องตามจ่าย
“ออมสิน” ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยภาคธุรกิจ มีผล 5 มี.ค.-31 ส.ค.