วันนี้ (6 มี.ค.2568) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยออกแถลงการณ์ย้ำรัฐบาลให้เตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการที่ไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นภาษี เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลำดับที่ 11

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
และแสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯกับทั่วโลก ซึ่งอาจทำให้มีสินค้าจากต่างประเทศทะลักเข้าสู่ตลาดอาเซียนรวมถึงไทยจะสร้างแรงกดดันต่อการส่งออกของไทยและผู้ประกอบการไทยในทุกระดับต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
ขอให้รัฐบาลเร่งตั้ง “ทีมพิเศษ” (Special Team)ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานและมีภาครัฐและภาคเอกชนที่มีอำนาจสั่งการระดับกระทรวง เพื่อวางแผนรับมือและกำหนดแผนเชิงรุกกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของนโยบายเศรษฐกิจการค้าของสหรัฐฯ กับทั่วโลก
ประธานหอการค้าฯ กล่าวอีกว่า เอกชนมีความกังวลมาก รัฐบาลต้องเร่งตั้งทีมพิเศษ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ และ นโยบายการค้าเชิงรุกของสหรัฐฯรวมถึงมาตรการกีดกันสินค้านำเข้าของสหรัฐจะทำให้หลายประเทศต้องหันมาพึ่งพาตลาดใหม่โดยเฉพาะอาเซียนและไทยมากขึ้น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งรัฐต้องดำเนินมาตรการควบคุมและกวดขันการนำเข้าสินค้าเพราะในกลุ่มสินค้าที่อาจไม่ได้คุณภาพ
หรือสินค้าที่มีราคาถูกจนส่งผลต่อการแข่งขันที่เป็นธรรม (Free and Fair Trade)ที่ภาครัฐควรมีการตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้าอย่างละเอียดก่อนอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดไทย โดยกำหนดให้สินค้าบางประเภทต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อป้องกันการปลอมแปลงหรือหลบเลี่ยงภาษี

ในส่วนของสินค้าที่ทะลักเข้ามาแล้วใช้กฎหมายอย่างจริงจังการกวดขันเรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้าโดยไม่เสียภาษี การตรวจสอบการใช้ราคาต่ำผิดปกติเพื่อทำลายการแข่งขัน รวมถึงการป้องกันการทุ่มตลาด (Dumping) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจภายในประเทศอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ควรพิจารณาการออกกฎหมายหรือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยอาจกำหนดมาตรการปกป้องธุรกิจภายในประเทศจากการทุ่มตลาดของสินค้าต่างชาติ และทบทวนกฎหมายด้านการแข่งขันทางการค้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ คนที่ 1 กล่าวว่า เพื่อป้องกันผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว ไทยเองควรพิจารณาเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหาร และพลังงาน เพื่อลดความกดดันด้านดุลการค้า รวมถึงพิจารณาปฏิรูปโควตาภาษีนำเข้าของไทยกับสหรัฐฯ ให้มีจุดยืนที่เป็นธรรมและเข้มแข็ง (Fair and Strong Position) ในการเจรจากับสหรัฐฯ
สำคัญมาก รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเสียดุลการค้าภาคบริการ (Deficit on Services) เช่น บริการดิจิทัล ค่าบริหารจัดการ ลิขสิทธิ์ ภาคธนาคาร ภาคประกันภัย การศึกษา ค่าแฟรนไชส์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนกว่าตัวเลขการค้าสินค้าเพียงอย่างเดียว

รองประธานกรรมการกล่าวอีกว่า ไทยมีการมีการขาดดุลตรงนี้อย่างมหาศาลและต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมูลค่าทั้งหมดที่ไทย ต้องเสียเงินซื้อมาก เพื่อ นำข้อมูลทั้งหมดไปประกอบการเจรจา ดังนั้นการจัดตั้ง “ทีมพิเศษ” (Special Team)ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจะทำให้มีอำนาจสั่งการกระทรวงสำคัญๆ
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงดิจิทัลฯ และกระทรวงแรงงาน ร่วมกับภาคเอกชน โดยเฉพาะ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์เจรจาเชิงรุกกับสหรัฐฯ การทำงานต้องครอบคลุมทั้งการป้องกันมาตรการภาษีที่อาจเกิดขึ้น

มาตรการภาษีของทรัมป์ (Trump Tariffs) ถือเป็นนโยบายกาลักน้ำ (Zero Sum Game) ที่ประเทศหนึ่งได้ อีกประเทศหนึ่งต้องเสีย ไทยต้องวางกลยุทธ์ให้เป็นฝ่ายได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการค้าโลก ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อ GDP ไทย0.5% ถึง 1.0%รวมทั้งเพื่อลดแรงกดดันทางการค้าจากสหรัฐ
นอกจากนี้ จะช่วยให้ไทยมีจุดยืนที่ดีขึ้นในการเจรจาต่อรอง หากพิจารณามูลค่าการค้าเฉพาะสินค้าหมวดสินค้าเกษตรกรรม และสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร พบว่าไทยเกินดุลสหรัฐฯ เพียง 2,665 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 7.5%

โดยหอการค้าไทยเสนอให้รัฐบาลพิจารณาการนำเข้าสินค้ากลุ่มต่าง ๆ ที่ไทยยังขาดแคลน และการนำเข้าไม่กระทบต่อผู้ค้าและเกษตรกรไทยเช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลือง ที่ผ่านมาไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่เพียงพอสำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
โดยปัจจุบันยังต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน การเปิดโควตานำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ ในช่วงนอกฤดูเก็บเกี่ยว, เนื้อวัวและเศษเนื้อเครื่องในวัว จะช่วยให้ไทยมีทางเลือกด้านซัพพลายที่มากขึ้น และ สินค้าอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอนแช่แข็ง หอยเชลล์ และปลาทูน่าจากเรือชักธงสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปภายในประเทศรวมทั้งสินค้ากลุ่มพลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า การตั้งทีมพิเศษจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและต้องเร่งทำเนื่องจากเศรษฐกิจไทยปียนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะโตต่ำกว่า 3%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
และโตต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ 3.5% ล่าสุดจากการที่มีการขึ้นกำแพงภาษีกับแคนาดา เม็กซิโกและจีนไปแล้วคาดว่าจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อไทยคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 20,000 -25,000 ล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีไทยลดลงไป .1 - .5% และการขึ้นกำแพงภาษีรถยนต์จะกระทบกับไทยคิดเป็นมูลค่า60,000 -65,000 ล้านบาท กระทบจีดีพีลดลง .35-.4% จะทำให้จีดีพีไทยโตเพียง 2.6 -2.8% .ในปีนี้
แต่หากทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจากไทยและทั่วโลก มีการประเมินผลกระทบขั้นต่ำไว้ที่มูลค่า 100,000 - 150,000 ล้านบาท และจีดีพีจะลดลง .5 -.7% และเศรษฐกิจไทยจะโตต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เหลือเพียง โต 2.3% - 2.5% ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่รัฐบาลหวังไว้ว่าเศรษฐกิจไทยจะโต3.5%

สำหรับดุลการค้าไทย-สหรัฐฯ ปี 2566 สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย โดยมีมูลค่าการส่งออก 67,659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยได้เกินดุลการค้าสหรัฐฯ 29,045 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปี 2567
ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าไทยยังคงเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ประมาณ 45,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ขยับจากประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐในลำดับที่ 12 มาเป็นลำดับที่ 11 ซึ่งนี่อาจสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่ไทยอาจถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องความไม่สมดุลทางการค้า
โดยที่นโยบายการค้าของทรัมป์มุ่งลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจนำไปสู่การขึ้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากไทย และเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎระเบียบทางการค้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งหากไทยไม่สามารถปรับตัวได้อย่างทันท่วงที อาจส่งผลให้มูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อ่านข่าว:
ทองคำป่วน “สงครามการค้า” ปะทุ "สหรัฐฯ-จีน" เปิดฉากเก็บภาษีสินค้า
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- สงครามการค้า
- สงครามการค้าโลก
- ขึ้นภาษีนำเข้า
- ทรัมป์ขึ้นภาษี
- ทรัมป์2.0
- ทรัมป์เก็บภาษี
- ทรัมป์2024
- มาตรการภาษีทรัมป์
- เก็บภาษีนำเข้า
- เก็บภาษีเม็กซิโก
- เศรษฐกิจโลก
- เศรษฐกิจไทย
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ
- เศรษฐกิจโลกผันผวน
- Special Team
- หอการค้าไทย
- สภาหอการค้าไทย
- สนั่น อังอุบลกุล
- พจน์ อร่ามวัฒนา
- ธนวรรธน์ พลวิชัย
- รัฐบาลเพื่อไทย
- นโยบายกาลักน้ำ
- ข่าวล่าสุด
- ข่าววันนี้ล่าสุด
- ข่าวเศรษฐกิจวันนี้
- ข่าวเศรษฐกิจ
- ข่าวเศรษฐกิจล่าสุด