"ทรัมป์" จวก "เซเลนสกี" ชี้สงครามยังไม่จบง่าย ๆ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ออกโรงวิจารณ์โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ปธน.ยูเครน อีกครั้ง โดยระบุว่า เซเลนสกีควรจะซาบซึ้งในความช่วยเหลือของสหรัฐฯ มากกว่านี้ และยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงของผู้นำยูเครนที่ระบุว่า สงครามจะยืดเยื้อไปอีกนาน

ท่าทีดังกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังโพสต์ข้อความผ่านทางออนไลน์ หลังจากผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์สื่อโดยระบุว่า จุดจบของสงครามยังอยู่ห่างออกไปอีกนานแสนนาน

เป็นคำพูดที่แย่ที่สุด และชายคนนี้ไม่ต้องการสันติภาพ ตราบเท่าที่สหรัฐฯ ยังหนุนหลัง

แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน ยังดูจะตึงเครียดหลังการปะทะคารมและเชิญเซเลนสกีออกจากทำเนียบขาว พร้อมพับข้อตกลงแร่หายากที่คาดว่าจะลงนามกันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (28 ก.พ.) แต่ทรัมป์เปิดเผยว่า เวลานี้ยังไม่ได้หารือเรื่องการระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน และจะต้องดูสถานการณ์กันต่อไป ปัดตกกระแสข่าวที่ว่าเขาจะหยุดช่วยเหลือยูเครนจากการหารือที่ล่มไม่เป็นท่า

อ่านข่าว : เบื้องหลังข้อตกลงทรัมป์ : want Ukraine’s minerals

นอกจากนี้ทรัมป์ยังระบุด้วยว่า ข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุกับยูเครนยังอาจเกิดขึ้นได้ และขอให้รอฟังรายละเอียดเพิ่มเติมหลังการแถลงต่อสภาคองเกรสในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ (4 มี.ค.)

ก่อนหน้านี้ หลังผ่านเหตุการณ์โต้คารมกับ 2 ผู้นำสหรัฐฯ เซเลนสกียังย้ำว่า ยูเครนพร้อมจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ และพร้อมจะกลับไปยังทำเนียบขาวอีกครั้งหากได้รับเชิญ

ผู้นำยูเครน โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า จะยังคงร่วมมือกับพันธมิตร หลังพูดคุยไปแล้วและจะมีความเคลื่อนไหวอื่นตามมาในเร็ว ๆ นี้ โดยสิ่งสำคัญคือการทำให้การทูตของเรามีประสิทธิภาพเพื่อยุติสงครามโดยเร็วที่สุด

ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริง ต้องการการยุติสงครามและการรับประกันความมั่นคง โดยกำลังร่วมมือกับอเมริกาและพันธมิตรชาติยุโรป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในเส้นทางสู่สันติภาพ

ผลสำรวจชี้ชาวยูเครนนิยม "เซเลนสกี" ร้อยละ 49

ความเคลื่อนไหวหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังการปะทะคารมระหว่างเซเลนสกีกับทรัมป์เมื่อ 28 ก.พ. คือการตั้งคำถามถึงอนาคตของเซเลนสกีในฐานะผู้นำยูเครน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวยูเครนต่อตัวผู้นำในภาวะสงครามหรือไม่ ปรากฏว่า บริษัทวิจัยในยูเครน GRADUS RESEARCH สำรวจความเห็นประชาชนและเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา

พบว่า ชาวยูเครนกว่าร้อยละ 49 ที่ตอบแบบสอบถาม ยังพึงพอใจในตัวเซเลนสกี ซึ่งนี่เป็นคะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งอยู่ที่เพียงร้อยละ 23 ก่อนเซเลนสกีปะทะฝีปากกับทรัมป์และแวนซ์

ผลสำรวจยังเน้นย้ำจุดยืนที่ชัดเจนของชาวยูเครนที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งในช่วงกฎอัยการศึก ชาวยูเครนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 58 มองว่าไม่ควรจัดการเลือกตั้งขณะที่สงครามยังดำเนินอยู่ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 52 ในสัปดาห์ก่อนหน้า

ขณะที่รอยร้าวล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครน ทำให้ชาวยูเครนที่ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 46 เชื่อว่า ยูเครนปกป้องประเทศได้โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ขณะที่ร้อยละ 36 เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ผลสำรวจดังกล่าวยังชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของชาวยูเครนที่มีต่อสหรัฐฯ มีเพียงร้อยละ 13 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มองว่าสหรัฐฯ เป็นมิตร ขณะที่ร้อยละ 29 มองว่าเป็นศัตรู

การสำรวจนี้ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันมือถือ Gradus มีผู้ตอบแบบสอบถาม 1,000 คนซึ่งสะท้อนลักษณะทางประชากรศาสตร์ของเมืองที่มีประชากรมากกว่า 50,000 คน กลุ่มตัวอย่างไม่รวมพื้นที่ที่ถูกยึดครองชั่วคราวและเขตสู้รบที่ยังมีการสู้รบอยู่

อ่านข่าว : "เซเลนสกี" ดีลแร่ล่มในทำเนียบขาว-ร่วมวงสุดยอดผู้นำที่ลอนดอน

ทรัมป์เดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าแคนาดา-เม็กซิโก

ขณะที่อีกความเคลื่อนไหวจากผู้นำสหรัฐฯ ล่าสุดประกาศว่า มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกร้อยละ 25 จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ พร้อมย้ำว่า หมดโอกาสแล้วที่ทั้ง 2 ประเทศจะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีครั้งนี้ผ่านการเจรจาหรือการแก้ปัญหาเฟนทานิลทะลักเข้าสหรัฐฯ ได้

ส่วนมาตรการขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ ของชาติอื่นจะมีผล 2 เม.ย.นี้

ท่าทีของทรัมป์ ทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดปรับตัวลดลงอย่างมากในวันจันทร์ที่ 3 มี.ค. โดยดัชนีดาวโจนส์ลบร้อยละ 1.5 ขณะที่ดัชนี S&P ลดลงร้อยละ 1.8 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลงร้อยละ 2.6 

อ่านข่าว : ทิศทาง NATO ยังคงปกป้องหรือกำลังเปลี่ยนแปลง "พันธมิตร"