วันนี้ (22 ก.พ.2568) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ "เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City)" ยังคงอยู่ในฟอร์มสุดบู่อย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดบ้านพ่าย "เบรนท์ฟอร์ด (Brentford)" แบบหมดสภาพ 0-4 ส่งผลให้พลพรรค "จิ้งจอกสยาม"ต้องจมอยู่ท้ายสุดในตารางศึกพรีเมียร์ลีค
นับเป็นการพ่ายแพ้ 10 จาก 11 เกมหลังสุด ทั้งยังทำสถิติยิงไม่ได้ในบ้าน "6 เกมรวดติดต่อกัน" และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ทั้งหมด
แม้ในสนามเลสเตอร์ เปิดเกมมาได้ดีกว่า นาทีที่ 4 "เจมี วาร์ดี้ (Jamie Vardy)" ได้โอกาสสับขาหลอก "เอธาน พินน็อค (Ethan Pinnock)" กองหลังพลพรรคผึ้งน้อยไป 2 สเต็ป จนเสียกระบวนท่าตั้งรับ ก่อนจะสับไก ลูกบอลไปติดเซฟ "มาร์ค เฟล็กเคน (Mark Flekken)" อย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น เหมือนภาพยนตร์คนละม้วน นาทีที่ 17 "เควิน ชาเด (Kevin Schade)" จ่ายบอลเข้ากลางมาให้ "มิคเคล ดามสการ์ด (Mikkel Damsgaard)" โยกหลบกองหลังพลพรรคจิ้งจอกสยาม ก่อนที่จะจ่ายอย่างเหนือชั้นไปให้ "โยอาน วิซซา (Yoane Wissa)" ตวัดด้วยซ้ายผ่านมือ "แมดส์ เฮอร์มานเซน (Mads Hermansen)" ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นเข้าไป ให้ทีมเยือนขึ้นนำ
นาทีที่ 27 ดามสการ์ด เจ้าเก่า เลี้ยงทำเกมขึ้นมา และจ่ายไปทางขวาให้ "ไบรอัน เอ็มเบวโม (Bryan Mbeumo)" ล็อกเข้าซ้าย ตะบันตุงตาข่าย ก่อนที่ 5 นาทีต่อมา ทีมเยือนได้ฟรีคิก เอ็มเบวโม เปิดเข้าไปให้ "คริสเตียน นอร์การ์ด (Christian Nørgaard)" กลางรับกัปตันทีม โขกเน้น ๆ เข้าไป จบครึ่งแรก เบรนท์ฟอร์ด บุกมาขึ้นนำ 0-3
ครึ่งหลัง ทีมเยือนผ่อนเกม ให้เลสเตอร์ได้มีโอกาสมากยิ่งขึ้น แต่ขาดความเฉียบคม ในที่สุด นาทีที่ 89 เอ็มเบวโม กระชากสุดเส้น ใช้ความใหญ่เบียดกับ "วิกเตอร์ คริสเตียนเซน (Victor Kristiansen)" ก่อนจะตะบันสุดแรงเกิด บอลกระดอนมาทาง "บูบาการี ซูมาเร (Boubakary Soumaré)" แต่ดับจับบอลั่น และ "ฟาบิโอ คาร์วาลโญ (Fábio Carvalho)" ศูนย์หน้าสำรองของทีมเยือน ซัดเข้าไปไม่เหลือ จบเกม เลสเตอร์ ชอกช้ำ พ่ายคารังต่อ เบรนท์ฟอร์ด ไป 0-4

ความพ่ายแพ้ในแมทช์นี้ ส่งผลให้ เลสเตอร์ สร้างสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก ที่อาจไม่น่าจดจำสำหรับพวกเขาเท่าไร ด้วยการทำประตูไม่ได้ใน "คิง พาวเวอร์ สเตเดียม (King Power Stadium)" สนามของตนเองมา 6 แมทช์ ติดต่อกัน ไม่เพียงเท่านั้น ผลสกอร์ใน 6 แมทช์นี้ ยังจบลงด้วย "ความพ่ายแพ้" ทั้งหมด
รุด ฟาน นิสเตลรอย (Ruud Van Nistelrooy) กุนซือจิ้งจอกสยาม ให้สัมภาษณ์กับ SkySport ความว่า เข้าใจสถานการณ์ดีว่าทีมกำลังถอยหลังลงคลองอย่างมาก เกมนี้ เรามีความหวังหลังจากเปิดเกมได้อย่างมั่นคงในตอนแรก เรามีโอกาสถึง 3 ครั้งด้วยกัน แต่เราจบสกอร์ไม่ได้กันเลย
ประตูที่พวกเขา (เบรนท์ฟอร์ด) ได้เปี่ยมประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงการเตรียมทีมมาดีและความแข็งแกร่งทางร่างกาย … เราออกสตาร์ทได้ดี แต่เกมนี้ไม่ใช่ของเรา ถือว่าจบกระบวนเท่านี้
แม้จะแพ้ยับเยิน แต่ รุด ฟาน นิสเตลรอย บอกว่า ยังพอใจกับรูปแบบการเล่นของทีมในวันนี้ เพราะเชื่อว่าทีมดีกว่าที่เป็นในสนามอย่างมาก เพียงแต่เบรนท์ฟอร์ดมาดีกว่า แต่ยังแสดงความกังวลว่า การที่ปล่อยให้คู่แข่งอื่น ๆ เก็บแต้มจากเราง่าย ๆ จะสร้างความลำบากในบั้นปลาย หากยังอิลุ่ยฉุยแฉกเช่นนี้

ส่วน โธมาส แฟรงค์ (Thomas Frank) กุนซือเบรนท์ฟอร์ด กล่าวถึงการเก็บ 3 คะแนนสำคัญนี้ ทำให้มีลุ้น "พื้นที่ฟุตบอลสโมสรยุโรป" เพราะตามหลัง บอร์นมัธ (Bournemouth) ทีมอันดับ 5 เพียง 6 คะแนน
เราคาดหวังว่าจะบินสูงเท่าที่จะไปถึงได้ แต่เกมหน้าต้องเก็บ 3 แต้มอีกครั้ง … โอกาสยังเปิดกว้าง หากเด็ก ๆ ของผมยังฟิตเต็มถัง เราทำได้แน่นอน
โปรแกรมพรีเมียร์ลีกแมทช์ถัดไปของเลสเตอร์ จะออกไปเยือน "เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (West Ham United)" วันที่ 28 ก.พ. ส่วนเบรนท์ฟอร์ด วันที่ 27 ก.พ. จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เอฟเวอร์ตัน (Everton)" ทีมฟอร์มร้อนแรงที่สุดในตอนนี้