วันนี้ (21 ก.พ.2568) ศาลแขวงชลบุรี พิพากษาลงโทษกักขังผู้ก่อเหตุขับขี่รถยนต์แข่งขันในทาง รวม 12 คน เป็นเวลา คนละ 2 เดือน ที่เรือนจำกลางชลบุรี และริบรถของกลางทั้งหมด 13 คัน พร้อมสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทุกคน คดีนี้ ปรากฏในสื่อออนไลน์ ผ่านกล้องติดหน้ารถยนต์ของผู้ใช้ทาง ซึ่งถูกเผยแพร่ต่ออย่างกว้างขวาง เหตุเกิดขึ้นในคืนวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา

กลุ่มรถยนต์ลักษณะคล้ายรถแต่งซิ่ง ขับแข่งกันบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ด้วยความเร็วสูง และประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันจำนวน 13 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ซึ่งปรากฏภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่งเป็นข่าวเผยแพร่โดยทั่วไปเป็นวงกว้าง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของท้องที่เกิดเหตุและความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในลักษณะอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ก่อความเสียหายให้เกิดความหวาดกลัวแก่ประชาชนในวงกว้าง
ต่อมาสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 91+700 (มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร) ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2568 เวลาประมาณ 02.20 น.
พนักงานสอบสวน ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วได้ความว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 12 คน ได้รวมกลุ่มขับรถยนต์เข้าสู่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) ซึ่งเป็นถนนสาธารณะ ทิศทางจากด่านเก็บเงินหนองขาม (กม.100) มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร

กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถมาด้วยความคึกคะนอง และด้วยความเร็วสูงประมาณ 130-180 กม./ชม. ในลักษณะฉวัดเฉวียน แซงซ้ายขวา เปลี่ยนช่องเดินรถตลอดเวลา ขับกระจายกันเต็มพื้นที่ผิวถนนทุกช่องเดินรถ บ้างประกบซ้ายขวาของรถยนต์คันอื่นที่แล่นมาตามปกติ และแซงขึ้นหน้าในระยะและทิศทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอันเป็นการขับรถโดยประมาทและน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และเป็นการขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ย่อมทำให้ผู้ใช้ถนนร่วมกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเกรงกลัวต่อความปลอดภัย เป็นระยะทางต่อเนื่องกันไปกว่า 10 กม.
เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุรถของผู้ก่อเหตุ 1 คัน ได้เฉี่ยวชนกับผู้ใช้ทางอื่นเสียหลักและหมุนไม่เป็นทิศทางขวางช่องเดินรถ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ขับขี่รถแล่นมาด้วยความเร็วสูงไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน เป็นเหตุให้รถทั้งหมด 13 คัน เฉี่ยวชนกันได้รับความเสียหาย และเศษชิ้นส่วนรถยนต์กระเด็นแตกกระจายไปทั่วทิศทางของถนน อันเป็นการขับรถในลักษณะรวมกลุ่มแข่งรถกันในทาง โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ จากเจ้าพนักงาน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

ในชั้นสอบสวนกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 12 คน ให้การรับสารภาพในความผิดฐาน “ร่วมกันแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงาน, ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น, ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน และขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
อ่านข่าว : ตร.จับแข่งรถบนทางสาธารณะ 10 วันอายัด จยย.กว่า 19,000 คัน
"แข่งรถตรัง" ตาย 1 นักแข่งยังโคมา พบสนามบกพร่องหลายจุด
ตร.คุมเข้มห้ามแข่งรถ แจ้งเบาะแสนำจับรับเงิน 3,000 บ.