ใครที่เลื่อนฟีดโซเชียลช่วงนี้คงเห็นคลิปหลายคนตักเจลจากกระปุกเข้าปาก พร้อมสีหน้าสงสัยหรือแปลกใจในรสชาติของผลิตภัณฑ์ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งสิ่งนั้นคือ "Sea Moss Gel" หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า Sea Moss Gel คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นกระแสขึ้นมาได้ จนหลายคนอดใจไม่ไหวต้องสั่งมาลอง
บางคนบอกว่า ...กลิ่นหอมจืด ๆ ... รสชาติ หยึย ๆ หรือ เนื้อสัมผัสคล้ายโลชั่นหรือวาสลีน มีความเลียนแบบบางอย่าง ส่วนบางคนก็สงสัยว่า กินไปทำไม บางคนบอก.. มันอึม...มีความทะเล (เสียงสะท้อนเหล่านี้มาจากคนที่ได้ลองและรีวิวผ่านโซเชียล)
รีวิวจากผู้ใช้ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งเรื่องกลิ่น, เนื้อสัมผัส และรสชาติของ Sea Moss Gel ที่บางคนอาจรู้สึกว่าเข้าถึงได้ยาก สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งลองกินอาจต้องใช้ความพยายามกับเนื้อสัมผัสนั้น ในช่วงแรก
- "ตากระตุก" เรื่องโชคลางหรือสัญญาณเตือนจากร่างกาย ?
- ริดสีดวงทวาร คืออะไร เช็กอาการที่บ่งบอก การรักษา และป้องกัน
ต้นตอของเทรนด์นี้เริ่มมาจาก Bella Hadid นางแบบชื่อดังออกมมาแชร์ทิปส์การดูแลสุขภาพ ของเธอ โดยเธอหยิบ ซุปเปอร์ฟู้ดที่เรียกว่า Sea Moss Gel ขึ้นมารับประทาน หลังจากนั้น เหล่าบล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และคนรักเมนูสุขภาพไปลองและรีวิวตามกัน แต่คำถามสำคัญคือ Sea Moss Gel ดีจริงหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ให้ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ Sea Moss ไว้ผ่านเพจ "หมอเจด" มาสรุปให้ฟังกัน
อ่านข่าว : "เด็กอ้วนไม่ใช่เด็กสมบูรณ์" ความเชื่อผิด ๆ ที่ต้องเปลี่ยน
Sea Moss Gel คืออะไร
ก่อนจะพูดถึง "Sea Moss Gel" เรามาทำความรู้จักกับ Sea Moss กันก่อน Sea Moss หรือที่บางคนเรียกว่า "Irish Moss" เป็นสาหร่ายทะเลตระกูล สาหร่ายสีแดง มีลักษณะคล้ายโนริ หรือ วากาเมะที่เราคุ้นเคยในอาหารญี่ปุ่น ต่างกันตรงที่ Sea Moss ถูกนำมาใช้ทำ "คาราจีแนน" ซึ่งเป็น "สารเพิ่มความหนืด" ที่มักพบในไอศกรีมและเจลลี่
แต่ตอนนี้ Sea Moss ถูกนำมาแปรรูปเป็น Sea Moss Gel ลักษณะเป็นเจลใส ๆ มีความหนืด เพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น ปัจจุบันมีจำหน่ายในหลายรูปแบบ เช่น ผง, แคปซูล และเจล สายสุขภาพ จะนำมาผสมในสมูทตี้ หรือกินเป็นช็อต ๆ เพราะมีแร่ธาตุกว่า 90 ชนิด เช่น แมกนีเซียม, ไอโอดีน, เหล็ก และแคลเซียม ซึ่งว่ากันว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย
Sea Moss Gel ถูกยกให้เป็น ซุเปอร์ฟู้ด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย เช่น ช่วยบำรุงผิว เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส ดีต่อระบบย่อยอาหาร มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น และเป็นพรีไบโอติกส์ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง
เสริมภูมิคุ้มกัน เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มนานและลดความอยากอาหาร
แม้ประโยชน์มาก แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจนพอจะบอกว่า Sea Moss Gel ดีขนาดนั้นจริงหรือไม่
แม้จะดูมีประโยชน์ แต่ Sea Moss Gel ก็มีข้อควรระวัง เช่น "ไอโอดีนสูง" หากกินมากเกินไปอาจทำให้ "ไทรอยด์" ทำงานผิดปกติ, "เสี่ยงต่อโลหะหนัก" หากแหล่งเพาะปลูกไม่ปลอดภัย อาจมีสารปนเปื้อน, "ปริมาณแร่ธาตุไม่แน่นอน" ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา ทำให้เราไม่สามารถรู้แน่ชัดว่ากินแล้วได้ประโยชน์มากแค่ไหน
อ่านข่าว : "รางจืด" สมุนไพรฤทธิ์เย็น ใช้อย่างไรให้ได้ประโยชน์ - ข้อควรระวัง
Sea Moss Gel เหมาะกับใคร
การรับประทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ ย่อมมีทั้งคนที่สามารถกินได้ แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ ดังนั้น สิ่งที่ดีสำหรับคนหนึ่ง อาจไม่เหมาะกับอีกคนก็ได้ ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจบริโภค Sea Moss Gel ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะกับร่างกายของเรา โดย นพ.เจษฎ์ ได้อธิบายไว้ดังนี้
Sea Moss Gel เหมาะกับ
- ผู้ที่ขาดแร่ธาตุ เช่น ไอโอดีน, แมกนีเซียม หรือเหล็ก
- สายสุขภาพ ผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันและดูแลสุขภาพลำไส้
- ผู้ที่ต้องการไฟเบอร์ เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักและระบบขับถ่าย
ใครไม่ควรกิน Sea Moss Gel
- ผู้ที่มีปัญหาไทรอยด์ เพราะ Sea Moss มีไอโอดีนสูง กินมากไปอาจกระทบต่อไทรอยด์ฮอร์โมนได้
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพราะยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับความปลอดภัย
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเล แม้จะเป็นพืชทะเล แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
- ผู้ที่กังวลเรื่องโลหะหนัก เพราะสาหร่ายทะเลมีโอกาสปนเปื้อนสารโลหะหนักได้ หากแหล่งผลิตไม่ปลอดภัย
Sea Moss Gel คุ้มค่าหรือเปล่า
หลายคนซื้อตามกระแสเพราะคิดว่าดีต่อสุขภาพ นพ.เจษฎ์ ยังมีข้อสังเกตอยู่ เช่น
- ราคาสูง แพงกว่าซูเปอร์ฟู้ดชนิดอื่น
- รสชาติไม่อร่อย หลายคนบ่นว่ามีกลิ่นคาวของทะเลและเนื้อสัมผัสคล้ายเจลว่านหางจระเข้
- หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่แน่นพอ ยังไม่มีการศึกษาแบบชัดเจนว่ามันช่วยลดน้ำหนักหรือทำให้ผิวดีขึ้นได้จริง
อ่านข่าว : "คอร์ติซอล" ตัวการอ้วน เมื่อความเครียดทำ "พุงพุ่ง" แบบไม่รู้ตัว
สรุปแล้วกิน Sea Moss Gel ได้ไหม
นพ.เจษฎ์ คำตอบคือ กินได้ แต่ต้องเลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และไม่ควรบริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไทรอยด์ หรือ หญิงตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
อย่างไรก็ตาม สุขภาพที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกินแค่ซุเปอร์ฟู้ดตามกระแส แต่ต้องมาจากการรับประทานอาหารที่หลากหลาย ปรับไลฟ์สไตล์ให้สมดุล และที่สำคัญ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอย่างแท้จริง
อ่านข่าว : ไทยหลุดประเทศเสี่ยงสูง "อากาศสุดขั้ว" จาก 9 เป็น 30
"ทักษิณ" คุย "อันวาร์" เปรียบ "เมียนมา" คือ "ช้างในห้อง" ของอาเซียน