ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติ ที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ในฝั่งประเทศเมียนมา บริเวณบ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก
ล่าสุด วันนี้ (12 ก.พ.2568) ทางการไทยได้มีช่วยเหลือชาวต่างชาติ จำนวน 261 คน โดยทางการไทยนำชาวต่างชาติทั้งหมดข้ามฝั่งแม่น้ำมายังฝั่งไทย จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูมารับตัว
ก่อนจะขึ้นรถบรรทุกของเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 8 คัน มุ่งหน้าต่อไปยังที่ว่าการอำเภอพบพระ จ.ตาก เพื่อคัดกรองและเข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism-NRM) โดยทีมสหวิชาชีพต่อไป
ชาวต่างชาติทั้งหมดที่ข้ามฝั่งมาเป็นผู้เสียหายจากการกระทำขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งพวกเขาถูกหลอกลวงไปทำงานในฝั่งประเทศเมียนมา และได้รับการช่วยจากทหารกะเหรี่ยง DKBA บริเวณพื้นที่ฝั่งเมียนมาตรงข้ามบ้านห้วยน้ำนัก บ้านช่องแคบ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ระบุว่า ตนเองได้รับการประสานมาจากกองกำลัง DKBA ถึงการส่งตัวชาวต่างชาติกลับมายังฝั่งประเทศไทย ซึ่งนับว่า เริ่มเห็นภาพของการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งพื้นที่ในบริเวณนี้ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่มีผู้เสียหาย และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังรอการช่วยเหลือ
นายกัณวีร์ ยังระบุว่า ขณะนี้ไม่สามารถประสานงานและบูรณาการแบบรัฐต่อรัฐได้เพียงอย่างเดียว ต้องเปลี่ยนรูปแบบการพูดคุยและเจรจา
ด้าน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ระบุว่า มาตรการที่ทางรัฐบาลได้มีการตัดไฟ ตัดสัญญาณการสื่อสาร ได้สร้างผลกระทบโดยตรงให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ และอาจส่งผลกระทบกับประชาชนฝั่งไทยบางส่วน และอยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งระยะของการส่งตัวผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์กลับมายังฝั่งประเทศไทย ก็เป็นผลมาจากมาตรการกดดันของทางรัฐไทย และเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่รอการช่วยเหลืออีกเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ คาดว่ามีหลายสัญชาติทั้ง ฟิลิปปินส์ เคนยา แทนซาเนียร์ บราซิล เอธิโอเปีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล รวมจำนวน 261 คน ที่เดินทางมาในวันนี้ และคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 คนที่ยังรอการช่วยเหลืออยู่
ทั้งนี้ ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่จะข้ามมา ได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนคัดกรอง NRM ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพบพระ จ.ตาก พร้อมทีมสหวิชาชีพที่คอยให้การช่วยเหลือและดูแล
"เมียนมา" เตรียมส่งกลับอีก 7,000 คน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาได้รับรายงานว่า จะมีการปล่อยตัวผู้บริสุทธิและผู้ที่ถูกหลอกทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา จำนวน 261 คน และยังมีอีกประมาณ 7,000 คน ที่กำลังรออยู่ โดยย้ำว่ามาตรการของไทยจะประสานประเทศปลายทางให้มารับตัวกลับได้โดยตรงไม่ต้องตกค้างอยู่ที่ จ.ตาก
และได้รับรายงานเพิ่มเติมจากการประสานกับกลุ่มกองกำลังต่าง ๆ กรณีตามล่ากลุ่มหลอกลวงนักแสดงชาวจีนที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ให้ไปทำงานให้แก๊งคอลเซนเตอร์ สามารถจับกุมตัวหัวหน้าแก๊งได้ทั้งหมดแล้ว และจะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ทั้ง แอฟริกา ลาตินอเมริกา ยุโรปและเอเชีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ได้ประสานพูดคุยยืนยันพร้อมรับตัวพลเมืองกลับ โดยผลสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากมาตรการซีลชายแดน และการประสานงานในทางปฏิบัติ ซึ่งทางการจีน ได้ขอบคุณไทยที่ใช้มาตรการนี้แก้ปัญหาอย่างได้ผล และเตรียมที่จะมารับพลเมืองที่ถูกหลอกกลับไป
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ผู้ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมาจากฝั่งเมียนมาจะต้องมีการคัดกรองประเทศ และไม่นำมาพักตัวไว้ที่ไทย แต่จะประสานกับประเทศปลายทางโดยตรงเพื่อให้มารับ หากประเทศใดที่มีจำนวนมากให้นำเครื่องบินมารับทีเดียว และจากผลสำเร็จที่เกิดขึ้นตามมาตรการของไทยที่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ก็จะรีบรายงานนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด
อ่านข่าว : เมียนมาประสานส่งเข้าไทย 53 เหยื่อคอลเซนเตอร์จาก 8 ประเทศ
ยังพบคนไทยถูกหลอก ไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์
"ภูมิธรรม" รับต่างชาติ 61 คนพ้นเมียนมาอ้างถูกลวงคอลเซนเตอร์