“ทองคำ” โอกาสนักลงทุน บนวิกฤต “ทรัมป์ป่วน” เศรษฐกิจโลก

"ทองคำ" ทำ All-time High แบบพุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ต้องรอดูว่าราคาทองคำจะ "หยุด" หรือ "ทะยาน" อยู่ในอัตราซื้อ-ขาย ที่จุดไหน ความผันผวนของราคาซื้อ-ขาย ส่งผลให้นักลงทุนมือเก๋าและมือสมัครเล่นตื่นตัวและหันไปลงทุนในตลาดทองคำกันอย่างคึกคัก สวนทางกลับราคาหุ้นที่ดิ่งลงอย่างหนัก มีสาเหตุและปัจจัยใด ที่ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่ทุกคนต่างวิ่งเข้าหา

“ไทยพีบีเอสออนไลน์” สัมภาษณ์ นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ถึงแนวโน้มราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสร้าง All-time High ใหม่ ว่า ปัจจัยหลักๆที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนนักลงทุนเกิดความกังวลว่าจะบานปลายทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำกักตุนไว้ ประกอบกับ”จีน” ไฟเขียวให้บริษัทประกันภัยลงทุน “ทองคำ” ได้มากถึง 1% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จึงดันราคาทองพุ่งทำนิวไฮใหม่

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง

อย่างไรก็ตาม มองว่า ราคาทองคำจะยังไม่แตะราคาบาทละ 50,000 ในเร็วๆนี้แน่นอน ซึ่งนักลงทุนรอดูสถานการณ์ หาก Gold spot ปรับลงมาที่ 2,820-2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาซื้ออีกครั้ง และอาจจะได้เห็น Gold spot 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากทองคำมีการปรับฐานลงมา นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็บต่อได้

สมาคมค้าทองคำ ชี้ทองคำยังขึ้นไม่ถึง "บาทละ 5 หมื่น" 

ขณะที่นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แม้ว่าราคาทองคำจะมีการปรับขึ้นลงหลายครั้ง แต่มองว่าราคาทองคำในประเทศน่าจะยังไม่ถึงบาทละ 50,000 บาทในเร็วๆ นี้ ซึ่งหลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลต่อราคาทองคำโลกมีความผันผวนตลอดทั้งไตรมาสแรกของปี 2568

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ

คาดการณ์ว่าตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป อาจจะได้เห็นราคาทองคำแตะที่ 3,000 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์ และราคาในประเทศอยู่ที่ 45,000 บาทต่อบาททองคำเป็นต้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทในช่วงๆ นั้นด้วย

เปิด 4 ปัจจัยหนุนทองพุ่ง ทะลุเป้า 3,000 us/ออนซ์

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 11 ก.พ. 2568 ได้ขึ้นไปทำราคาสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 2,942.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศก็ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 47,450 บาทต่อบาททองคำ จนเข้าใกล้เป้าหมายที่ YLG มองไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ และทองไทย 48,000 บาทต่อบาททองคำ ไปจนถึง 50,000 บาทต่อบาททองคำ หากได้อานิสงส์เพิ่มเติมจากเงินบาทอ่อนค่า

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

โดยสาเหตุหลักที่ทองคำปรับตัวขึ้นยังคงมาจาก 4 ปัจจัย ดังนี้ 1. ความกังวลในความไม่แน่นอนด้านนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ล่าสุดได้ลงนามประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมทั้งหมดเข้าสู่สหรัฐ สู่ระดับ 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น จากเดิม10% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. 2568 นอกจากนี้ “ทรัมป์” ยังได้ส่งสัญญาณวางแผนประกาศใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) เพิ่มเติมในสัปดาห์นี้

2. ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงเพิ่มขึ้นหลังกลุ่มฮามาสระงับการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล โดยอ้างว่าอิสราเอลฝ่าฝืนการหยุดยิงในฉนวนกาซา ในขณะที่ “ทรัมป์” กล่าวว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ถูกจับตัว ภายในเที่ยงวันเสาร์นี้ (15 ก.พ. 2568)ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯจะเสนอให้ยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง

ประชาชนแห่ไปซื้อ-ขายทองคำกันอย่างคึกคักที่เยาวราช

3. ความคาดหวังของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง หนุนให้ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้ตามแผนถึงสองครั้ง ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ และ ธนาคารกลางอินเดีย ได้ลดอัตราดอกเบี้ยแบบปผ่อนปรนเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้ ตามการเคลื่อนไหวที่คล้ายกันของ ธนาคารกลางยุโรป, ธนาคารกลางสวีเดน และธนาคารแห่งประเทศจีน

และ 4. การซื้อทองคำของธนาคารกลาง ยังเพิ่มดีมานด์ทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่มีระดับการเข้าซื้อสูงเกิน 1,000 ตัน โดยในเดือนม.ค. 2568 ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

“จีน” เปิดทางบริษัทประกัน ลงทุนทอง ดันราคาพุ่ง

นอกจากนี้ปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำ ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง คือการที่สำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติของจีน (NFRA) จัดตั้งโครงการ (pilot scheme) อนุญาตให้บริษัทประกันภัยในจีนสามารถลงทุนในทองคำแท่งได้มากถึง 1% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างการจัดสรรสินทรัพย์ประกันภัย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG วิเคราะห์ ทิศทางของของราคาทองคำ เข้าใกล้ราคาเป้าหมายที่ให้ไว้เร็วกว่าที่คาด โดยYLG ยังคงเป้าหมายเดิม 3,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ไว้เป็น Base Case แต่หากโมเมนตัมทองคำยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง มองว่าจะมีโอกาสขึ้นทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ หากผ่าน 48,000 บาทต่อบาททองคำ จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 50,000 บาทต่อบาททองคำ

ราคาทองคำถือว่าปรับตัวขึ้นมาแรงและเร็ว จึงแนะนำให้ระมัดระวังแรงเทขายทำกำไร นักลงทุนที่มีทองอยู่ในมือสามารถแบ่งขายทำกำไรออกมาบางส่วนที่โซนแนวต้าน 2,975-3,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ขณะที่นักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อทองคำแนะนำให้หาจังหวะราคาทองคำย่อตัว บริเวณแนวรับแรก 2,895 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หากเอาไม่อยู่มองแนวรับสำคัญไว้ที่ระดับ 2,870 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

“ทองคำ” ทำ All-time High บวก 850 บาท

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาทองคำเปิดตลาดบวกแรง 850 บาท (ครั้งที่ 2) ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 47,450 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 47,350 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 47,950 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 46,495.72 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,942ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.07บาทต่อดอลลาร์ ภาพรวมราคาทองปี 2568 บวก 4,050 บาท เฉพาะเดือน ก.พ. ทองคำปรับขึ้น 3,00 บาท

“ราคาทองคำโลก ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยราคาทองโลกสามารถทะลุระดับ 2,900 ดอลลาร์ จากแรงหนุนจากนักลงทุนที่หน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านนโยบายภาษีระลอกใหม่ของ ทรัมป์ รวมถึงความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงคอยหนุนราคา ประกอบกับตลาดยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยุโรป รวมถึงการเลือกตั้งในเยอรมนี ในวันที่ 23 ก.พ.”

ราคาทองคำ ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเยาวราช

ทั้งนี้ “เว็บไซต์ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ราคาทอง หลังจากที่ทะลุระดับ 2,880 ดอลลาร์ขึ้นมา แนวโน้มราคาทองคำกลับมาอยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่ง หากวัดเป้าหมายราคาจากระดับฟีโบนัชชี (Fibonacci) จะมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 2,937 และ 2,965 ตามลำดับ

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงอย่างแข็งแกร่ง แต่เกิดแรงเทขายทำกำไรทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง ทั้งนี้จับตาสัญญาณจากราคาทองคำหากวันนี้ราคาทองคำปิดตลาดที่ราคาต่ำของวัน ให้ระวังการเกิดสัญญาณกลับตัวหากราคาสามารถยืนเหนือ $2,900 ได้ อาจเป็นสัญญาณให้ถือต่อไป และเป้าหมายต่อไปอาจอยู่ที่ $3,000 หรือสูงกว่า

ดัชนี SET พุ่ง 10 จุด คลายกังวลเทรดวอร์

ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยแม้ว่าจะปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้( 11 ก.พ.) ภาคเช้าปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด ซึ่งตลาดตอบรับกระทรวงคลังรื้อฟื้นกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF) ใหม่ เพื่อช่วยชะลอแรงขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนอยู่ 1.8 แสนล้านบาทและคลายกังวลสงครามการค้า หลังตลาดซึมซับประเด็นนี้ดังกล่าวแล้ว

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวพุ่งกว่า 10 จุด เนื่องจากประเด็นความกังวลสงครามการค้าซึมซับไปมากแล้ว สะท้อนจากตลาดกลุ่ม TIP ที่ชะลอการปรับลง นอกจากนี้กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจะรื้อฟื้นกองทุน LTF แม้จะยังไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ประเด็นดังกล่าวช่วยให้ชะลอแรงขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดได้รวมทั้ง Valuation ของหุ้นไทยที่ถูกกว่าภูมิภาค ทำให้ดาวน์ไซด์จำกัด โดยให้กรอบแนวต้านถัดไปที่ 1,290 จุด และแนวรับ 1,270 จุด

ประชาชนไปซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็งกำไรระยะยาว

ทั้งนี้ “ฮั่วเซ่งเฮง” แนะการลงทุนสำหรับนักลงทุนว่า ความกังวลประเด็นการค้าระหว่างประเทศ ยังคงเป็นปัจจัยลบกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นของหลายประเทศ หลังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐเตรียมประกาศมาตรการกีดกันการค้าเพิ่มเติม กดดันให้มีแรงขายในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงกลับออกมา อย่างไรก็ตามด้วยตลาดหุ้นไทยซึ่งปรับตัวลงมามาก ประกอบกับนักลงทุนประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจลดดอกเบี้ยมากกว่าที่เคยประเมิน กรอบการอ่อนตัวของตลาดหุ้นไทยจึงมีค่อนข้างจำกัด

โดยในระหว่างวันดัชนีอ่อนตัวลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์ก่อน และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา การเคลื่อนไหวทางเทคนิคในระยะสั้นจึงยังมีแนวโน้มฟื้นตัว การเก็งกำไรในสัญญาเดือน H แนะนำเปิดสถานะซื้อใกล้แนวรับ 819-820 จุด และมีจุดขายตัดขาดทุนอยู่ที่ 815 จุด โดยมีแนวต้านสำหรับเปิดสถานะขายอยู่ที่ 842-843 จุด และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 845 จุด

ต้นปีนี้ถือเป็นปีทองของ”ทองคำ”อย่างแท้จริง ท่วมกลางปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำพุ่งทำ All-time High ใหม่ อย่างต่อเนื่อง แม้ครึ่งปีนี้ กูรูด้านทองคำจะออกมาวิเคราะห์ว่า จะคงยังไม่เห็นราคาทองคำขายออกบาทละ 50,000 เร็วๆนี้ก็ตาม คงต้องลุ้นว่า จะหักปากกาเซียนหรือไม่ เพราะขณะนี้ “ทองคำ” ไต่ระดับใกล้ 50,000 บาท เต็มทีแล้ว

 อ่านข่าว:

สรุปราคาทองคำ 11 ก.พ. 2568 ปิดตลาดร่วงเหลือ 350 บาท

สรุปราคาทองคำ 10 ก.พ. 2568 ปรับขึ้น 800 บาท บวก 12 ครั้ง

เรื่องต้องรู้ ก่อนลงทุนทองคำ กับความเสี่ยงที่ต้องระวัง

ทองคำแท่ง พุ่งแรง 850 บาท ทำ All-time High ใหม่ “รูปพรรณ” ขายออก 47,950