วันนี้ (10 ก.พ.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน หลังชาวเมียนมาออกมาประท้วงไทยตัดกระแสไฟฟ้า และการงดส่งน้ำมันเข้าไปขาย ว่า ขณะนี้ประสานงานกันทั้ง 3 ส่วน ทั้งกองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยรวมได้รับรายงานว่า ประสานงานกันได้ดี
ส่วนการประท้วงตอนแรกเห็นว่า จะมา 3,000 คน แต่มาจริง ๆ ไม่มาก เป็นเรื่องของเขาที่จะแสดงความไม่พอใจอย่างไร แต่ไม่สามารถกดดันรัฐบาลไทยได้ เพราะรัฐบาลไทยทำไปเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนไทย เป็นเรื่องที่เขาต้องไปเคลียร์กับรัฐบาลเมียนเอง เพราะเราทำครั้งนี้เพื่อให้เขาขับแก๊งคอลเซนเตอร์ออกจากพื้นที่ของเขา
การจะปิดชายแดนไม่รับสินค้าไทย เขาต้องไปไตร่ตรองเอง เขาเองก็พึ่งสินค้าอุปโภค บริโภค เขาก็ไม่มี อาหารการกินก็ต้องดูแลตัวเอง ดังนั้นเรายังยืนยันมาตรการของไทย และเอาปัญหาของประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้ผลเด็ดขาดที่สุด ทั้งนี้ในเรื่องของชายแดน วันนี้จะมีคำสั่งเรียกคนที่มีข้อกล่าวหาออกจากพื้นที่
นายภูมิธรรมเปิดเผยว่า จะเดินทางไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยกำหนดวันที่ 12 ก.พ.จะเดินทางไปพญาตองซู จ.กาญจนบุรี ก่อน แล้ววันที่ 16 ก.พ. จะเดินทางไปปอยเปต เพื่อดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ โดยการซีลชายแดนครอบคลุมอยู่แล้ว แต่การประกาศตัดน้ำตัดไฟและอินเตอร์เน็ต ยังไม่ครอบคลุมไปที่จุดอื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้วางรายละเอียด ว่าจะไปหารือพูดคุยกับใครบ้าง
สำหรับที่มีการลักลอบขนน้ำมันจากไทยไปขายในเมียนมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทางกิจการชายแดน ทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน และพื้นที่ ซีลชายแดน 51 อำเภอ พร้อมกับตรวจสอบเข้มข้น และจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งคอลเซนเตอร์ด้วย
รวมถึงมาตรการที่ห้ามนำแกลลอนมาเติมน้ำมันที่ จ.เชียงราย จะดำเนินการมาตรการนี้กับพื้นที่อื่นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากประกาศต้องทำทุกที่ตามแนวชายแดน แต่ที่ซีเรียสที่สุดเป็นพื้นที่ที่มีแก๊งคอลเซนเตอร์ และขณะนี้ประกาศ 5 จุดหลัก ซึ่งสามารถขยายได้หากพบจุดใดเพิ่มเติม
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ พญาตองซู ประกาศให้คนจีน ออกจากพื้นที่ เพราะทำให้คนเมียนมาเดือดร้อน จะส่งผลกระทบกับคนไทยในเมียนมาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรา เขามีปัญหากับคนจีนเป็นเรื่องของเขาเนื่องจากเป็นอธิปไตยของประเทศเขา
อ่านข่าว : "เมียนมา" ปราบเครือข่ายเว็บพนัน-อาชญากรรมออนไลน์ในรัฐฉาน