ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลังขอเข้าร้านค้นร้านจอดรถแห่งหนึ่ง ซึ่งลานจอดรถดังกล่าว มีรั้วรอบชอบชิด แต่หากเดินไปหลังบ้าน ที่ติดกับคลองพรหมโหด ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วจะพบว่า มีการก่อหินปูน สร้างทางขึ้นลงไว้อย่างดี ทั้ง ๆ ที่คลองพรหมโหดมีสภาพน้ำเน่า ส่วนตรงข้ามฝั่งคลองมีระยะห่างราว 500 ม.เป็นฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา
จากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า รถที่ใช้บริการเช่าพื้นที่จอดรถ ส่วนใหญ่ป้ายทะเบียนมาจาก จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย และ จ.แม่ฮ่องสอน ระหว่างตรวจค้น เจ้าของร้านจอดรถอ้างกับชุดสืบสวนภาค 2 ว่า เคยได้ค่าหัวให้คนไทยลักลอบข้ามฝั่ง ราคาหัวละ 500 บ.แต่ปัจจุบันไม่ทำแล้ว ตำรวจเตือนหากยังพบว่า กระทำความผิดอีก อาจถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกับขบวนการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ
นอกจากนี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ตรวจสอบลานจอดรถตามชายแดนอรัญประเทศ พบมีลานจอดรถห่างจากด่านคลอดลึก เป็น 10 กม. ส่วนใหญ่รั้วรอบขอบชิด ซึ่งตำรวจเฝ้าระวังเนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการลักลอบให้คนผ่านข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย
ข้อมูลจากชุดสืบสวน พบว่า เจ้าของลานจอดรถ และผู้ที่มาจอดส่วนใหญ่ จะทำงานเป็นแอดมิน และล่ามภาษามือ โดยจะได้ค่าหัวคนละ 5,000 บ. หากสามารถส่งข้ามแดนไปได้
ข้อมูลจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พบค่าหัวคนไทยข้ามแดน ทั้งที่หลอกมาผ่านช่องทางธรรมชาติ หรือเต็มใจเป็นคอลเซ็นเตอร์ จะอยู่ที่ 4,000 - 5,000 บ. แต่เมื่อมีการเข้มงวดชายแดน ราคาต่อตัวจะเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 - 10,000 บ.
ก่อนหน้านี้ ตำรวจสามารถขยายขบวนการคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายลักลอบพาคนข้ามแดน พบว่า 1 วัน จุดลักลอบข้ามชายแดนมีเครือข่ายคอลเซนเตอร์ลอบผ่านแดนเฉลี่ย 40 คน มีค่าหัวคนละ 4,000 บ.หรือ ตีเป็นเงินวันละ 160,000 บาท ทำให้ใน 1 เดือน จะมีรายได้เกือบ 5 ล้านบาท
ข้อมูลจากตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า มีลานจอดสุ่มเสี่ยง ที่จะลักลอบให้คนข้ามไปฝั่งตรงข้ามกว่า 9 จุด เป็นเป้าหมายเฝ้าระวังที่มีแผนจะจับกุมให้ได้ซึ่งหน้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อ่านข่าว : โกลาหล! รพ.เมียวดีไฟดับ-ขาดออกซิเจน แห่เติมน้ำมันล้นปั้ม
"ภูมิธรรม" ปัดข่าวเมียนมาปิดชายแดนโต้กลับไทย