ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วิวาทะ "อนุทิน-ภูมิธรรม" ปมตัดไฟฝั่งเมียนมา

การเมือง
4 ก.พ. 68
19:39
159
Logo Thai PBS
วิวาทะ "อนุทิน-ภูมิธรรม" ปมตัดไฟฝั่งเมียนมา
กว่าจะได้ "ตัดไฟเมียนมา" นอกจากจะโยนเผือกร้อน ผ่านข้อกฎหมายใส่กันแล้ว ปฏิกริยาของนายภูมิธรรม เวชยชัย กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังสะท้อนให้เห็นถึง ปมการเมือง ระหว่าง 2 พรรค คือ "เพื่อไทยกับภูมิใจไทย" ที่ส่ออาการงัดข้ออยู่ด้วย

แม้ต่างฝ่าย-ต่างก็มีเหตุผลอ้างอิงถึงข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติ แต่ก็เป็นที่สังเกตว่า ทั้ง 2 ฝ่าย กลับพูดความจริงแค่ "ครึ่งเดียว" ท่ามกลางคำถามว่า ทั้งรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กำลังรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองหรือไม่

ย้อนกลับไปช่วงที่รัฐบาล ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก ๆ กรณีขายไฟฟ้าให้เมียนมา แล้วพาดพิง กระทรวงมหาดไทย ไม่ตรวจสอบคู่สัญญาซื้อ-ขาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมาโต้กลับทันควัน "จะไปถามลิงที่ไหน" แล้วก็ย้ำว่า "ที่นี่..คือมหาดไทย ไม่ใช่มหาดเมียนมา" รัฐบาลเมียนมารับรองมาแล้ว แต่เมื่อถูกตั้งคำถามในเชิงเปรียบเทียบว่า ไทยกำลังตกอยู่ในฐานะ ท่อน้ำเลี้ยงขบวนการคอลเซนเตอร์

นายอนุทิน ชี้ว่า การขายไฟให้เมียนมาเป็นไปตามมติ ครม.หากจะถูกมองว่า เป็นภัยต่อความมั่นคง ดังนั้นหน่วยงานความมั่นคง จะต้องเป็นผู้สั่งการให้หยุดจ่ายไฟ และอ้างว่า กฟภ.ไม่มีอำนาจตรวจสอบ และต้องพึ่งพาหน่วยงานที่มีอำนาจ ซึ่งตามสัญญามีเงื่อนไขอยู่ จังหวะนี้ จึงเท่ากับเผือกร้อน..ถูกโยนออกมาแล้ว และนายภูมิธรรม เวชยชัย คือผู้ที่รับไว้ ในฐานะรองนายกฯ ด้านความมั่นคง

ข้อสังเกตคือ สัญญาขายไฟฟ้า ระหว่าง "มหาดไทยกับคู่สัญญา" หนึ่งมีรัฐบาลเมียนมารับรอง, สองลงนามทำสัญญา ตามมติ ครม.เท่ากับว่า "มหาดไทย" มีอำนาจตามกฎหมายจริง (แต่ก็มีเงื่อนไข) จาก 2 ข้อนี้ด้วย เมื่อเกินอำนาจต้องแจ้ง ครม.และประสานกระทรวงการต่างประเทศ

อ่านข่าว : "ภูมิธรรม" เรียก สมช.ถกด่วนเย็นนี้ ปมตัดไฟชายแดน

ปมขายไฟให้เมียนมานี้ "มหาดไทย" รับทราบแล้วว่า เป็นปัญหา ซึ่ง "ปัญหา" ตามสัญญาแบ่งออกเป็น 2 กรณี 1.ไม่จ่าย-ขายต่อ-ใช้ผิดประเภท และ 2.เป็นภัยต่อความมั่นคง โดย "มหาดไทย" ชี้ว่า "เป็นภัยต่อความมั่นคง" จึงเป็นที่มาให้ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ "ปปส., ป.ป.ง., สตช. และ สมช. และหลังอ้างว่า "ยังไม่ได้รับคำตอบ"

คราวนี้ เรื่องร้อนถึงกระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ร่วมถก สมช. พร้อมตั้งคณะกรรมการร่วม ติดตาม-แก้ปัญหา ปมขายไฟให้เมียนมา

ขณะที่นายอนุทิน ออกมาย้ำอีกว่า พร้อมปิดสวิตช์ทันที เมื่อมีมติ ครม.หรือนายกรัฐมตรีสั่งการ แล้วก็ออกตัว "มหาดไทย" จะไม่รับผิดชอบ เพราะเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ-ถูกสั่งให้ขาย ก็ขาย จากนั้น "สมช." และ กองทัพ พร้อม กฟภ.จึงสรุปออกมา 6 ข้อ

สมช.สรุป 6 ข้อ ให้ "กฟภ.-มท." พิจารณาปม "ตัดไฟ" เมียนมา

นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้ว่า รัฐบาลยังไม่สามารถดำเนินการ "ตัดไฟฟ้า" ในเมียนมาได้ แม้จะพบข้อมูลบางส่วนว่า มีการเชื่อมโยงกับ "ขบวนการคอลเซนเตอร์" แต่ไม่ได้เป็นการโยนไปมาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากแต่ต่างคนต่างทำหน้าที่ โดยเฉพาะข้อกฎหมาย และกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน ส่วนใครจะมีอำนาจในการตัดไฟฟ้า อาจต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก 

เลขาฯ สมช.เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) วันนี้ เพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคงไปอ้างอิง โดยให้ กฟภ.ไปเจรจากับคู่สัญญาที่ได้ดำเนินการไว้ ก่อนสรุปข้อมูล 6 ข้อ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ตั้งจุดต่าง ๆ ที่เชื่อได้ว่ามีหลักฐานระดับหนึ่งที่เกี่ยวพันกับอาชญากรข้ามชาติ หรือ ขบวนการคอลเซนเตอร์ ซึ่งมีหลายจุดตั้งแต่แม่สาย-เมียวดี และพญาตองซู

รวมถึงอาจมีความเชื่อมโยงของบุคลล ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสัมปทาน-ขบวนการคอลเซนเตอร์ กับการจำหน่ายไฟฟ้านอกจากนี้ พบว่า ความต้องการขอใช้ไฟเพิ่มขึ้นผิดปกติ และไม่สามารถอธิบายถึงการนำไฟฟ้าไปใช้

ขณะที่รัฐบาล-กฟภ. เคยตัดไฟฟ้า "ชเวก๊กโก-เคเคปาร์ค" แต่ปรากฏว่า ยังประกอบกิจการได้ สัดส่วนการใช้ไฟตามจุดต่าง ๆ ต้องนำมาพิจารณา และสุดท้าย คือจุดที่เคยตัดไฟแล้ว พบหลักฐานมีการหาไฟจากแหล่งอื่นไปทดแทน

อ่านข่าว : ตัดไฟทันที! นายกรัฐมนตรี สั่งปิดทางแก๊งคอลเซนเตอร์เมียนมา

ปมขายไฟให้เมียนมา "มหาดไทย" เคาะว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง (โดยตามสัญญา) แบ่งออกเป็น 2 ปัญหา

ข้อ 1.ไม่จ่าย-ขายต่อ-ใช้ผิดประเภท ซึ่งข้อนี้ ตรงกับ มติ ครม. ปี 2539 เป็นอำนาจของ กฟภ. แต่ถ้าเป็นข้อที่ 2 คือเป็นภัยต่อความมั่นคง ต้องประสานหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบ ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม.ปี 2567 จึงเป็นเหตุให้ "มหาดไทย" ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่าง ๆ คือ "ปปส., ป.ป.ง., สตช. และ สมช. ซึ่งอ้างว่า "ยังไม่ได้รับคำตอบ"

ร้อนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ "มาริษ เสงี่ยมพงษ์" ร่วมถก สมช. ตั้งคณะกรรมการร่วม"ติดตาม-แก้ปัญหา" แต่นายอนุทิน ก็ยังเล่นบทพร้อมปิดสวิชต์ /ขอแค่ "มติ ครม.หรือข้อสั่งการจากนายกฯ แล้วออกตัวคล้ายกดดัน "ว่าจะไม่รับผิดชอบ เพราะเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ-ถูกสั่งให้ขายก็ขาย

จากนั้น "สมช." และ กองทัพ พร้อม กฟภ. ได้ข้อสรุปมา 6 ข้อ กับ 3 มติ สาระสำคัญคือ พื้นที่ตั้งหลายจุด ความเชื่อมโยงของบุคคล เกี่ยวพันกับอาชญากรรมข้ามชาติ และขบวนการคอลเซนเตอร์ ส่งเอกสารแจ้ง กฟภ.ดำเนินการ และกระทรวงการต่างประเทศ ประสานเรื่อง ก่อนเข้าประชุม ครม.นายภูมิธรรม ออกมารับว่า "ไม่สบายใจ" และอ่านข้อกฎหมายทั้งหมดให้นักข่าวฟัง สรุปคือ "ปมขายไฟให้เมียนมา" กระทบความมั่นคง "สมช." ต้องแจ้งนายกฯ สั่งการ ขณะที่นายอนุทิน ชี้ว่า กฟภ.ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน และมีกฎหมายรองรับ  

2 สัปดาห์นี้ อากัปกริยาของ นายอนุทิน และนายภูมิธรรม ที่แจกแจงปมขายไฟให้เมียนมา ผ่านข้อกฎหมาย โดยค่อย ๆ เปิดเงื่อนไขต่าง ๆ ออกมา จนกลายเป็นข้อสังเกตว่า "โยนความรับผิดชอบใส่กัน" แล้วยังมีบางปฏิกริยา ที่สะท้อนให้เห็นถึง "ปมการเมือง ระหว่างรัฐมนตรี 2 พรรค" คือ "เพื่อไทยกับภูมิใจไทย" ที่ส่ออาการงัดข้อกัน ซึ่งอาจกำลังรักษาประโยชน์ฝ่ายตัวเองไว้หรือไม่ อย่างกรณีล่าสุด นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ และย้ำถึง 2 ครั้งว่า "อย่าเห็นแต่จะขาย" แล้วคาดโทษไม่ตัดไฟ จะเรียกมาช่วยราชการ และตามข้อมูล "มหาดไทย" ขายไฟให้เมียนมา ในแต่ละปี มีงบระมาณเข้ากระทรวงตกเป็น "พันล้าน" 

อ่านข่าว : “โรม” ฝากนายกฯ สั่ง “อนุทิน” เร่งตัดไฟสกัดแก๊งคอลเซนเตอร์เมียนมา 

"อนุทิน" บอกพร้อมตัดไฟทันที หากเมียนมาแจ้ง 

เปิด 4 ข้อเสนอ "หลิว จงอี" รัฐบาลไทย ยังโยนวุ่น "ตัดไฟ" เมียนมา  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง