วันนี้ (2 ก.พ.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค แถลงข่าวสรุปผลการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวัน 1 ก.พ.2568 โดยกล่าวคำขอโทษประชาชน ว่าพรรคอาจรณรงค์ทำให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งยังไม่แข่งขันพอ ทำให้วันนี้พรรคได้นายก อบจ.ไม่มากพอ
พร้อมยืนยันการไปใช้สิทธิของประชาชน เพราะยิ่งมีจำนวนมากเท่าไหร่ก็จะจะยิ่งดีต่อการพัฒนาการเมืองท้องถิ่น และ กล่าวขอบคุณชาว จ.ลำพูนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าร้อยละ 72 ซึ่งหากเทียบกับทุกจังหวัดถือว่ามากที่สุด และทำให้พรรคประชาชนได้รับ นายก อบจ.ลำพูน
แต่ยังเสียดายโอกาส ที่อีกหลายจังหวัดพรรคประชาชนหากรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิได้มากกว่านี้อาจสามารถชนะการเลือกตั้งในระดับ อบจ.ได้ เช่น เชียงใหม่ นครนายก สมุทรปราการ สมุทรสงคราม อาจจะแพ้อันดับที่ 1 คะแนนที่ห่างไม่ถึงร้อยละ 10
แต่ทั้งนี้หากดูจากผลการเลือกตั้ง อบจ. ที่พรรคได้รับความไว้วางใจเลือกได้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 132 คน จาก 33 จังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ได้มากถึงจังหวัดละ 15 ที่นั่ง โดยยืนยันว่า สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคจะตรวจสอบการใช้งบประมาณของท้องถิ่นอย่างแข่งขัน และจะผลักดันบรรจุงบประมาณต่างๆ ในการแก้ไขปัญหา
“ในช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค.จะลงพื้นที่เพื่อนำนโยบายตามที่หาเสียงไปสอบถามประชาชนว่าจุดไหนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน การตัดสินใจจะใช้แพลตฟอร์มการกระทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมเปิดเผยการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส”
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยบนเวทีว่า "แดงกินส้ม" ผลการเลือกตั้งตอนนี้สะท้อนตามวลีที่นายทักษิณพูดหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า จริง ๆ ตนเองคิดว่าแล้วแต่การตีความ ว่าการกินส้มหมายถึงยังไง เพราะส้มเองก็เป็นผลไม้มงคล และที่ จ.ลำพูนเอง ก็เป็นสนามหลักที่ตนเองคิดว่าเราจะสามารถพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น และการทำงานการเมืองที่มีคุณภาพ ทำงานอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา นำเสนอนโยบายให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นได้ น่าจะเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการที่เราโยนวลีใส่กันไปมา และใส่สื่อมวลชนผ่านหน้าสื่อ
อ่านข่าว : ปักธงส้มที่แรก "วีระเดช" พรรคประชาชน ว่าที่นายก อบจ.ลำพูน
ขณะที่นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง นายก อบจ.ลำพูน กล่าวขอบคุณประชาชนชาวลำพูนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และขอบคุณที่ช่วยให้เข้ามาทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน หาก กกต. รับรองให้คำมั่นจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ 3 ป.โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกับประชาชน ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) นายณัฐพงษ์ จะลงพื้นที่ จ.ลำพูน ด้วย
อ่านข่าว : ผลเลือกตั้ง 47 นายก อบจ. ค่ายแดง-น้ำเงินชิงเดือด ส้มปักธงลำพูน
ด้านนายศรายุทธิ์ ระบุว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาเชื่อว่า ประชาชนต้องการทราบว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอะไรบ้าง แต่ขณะนี้ยังเช็กข้อมูลยังไม่ครบ ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของพื้นที่ที่นิ่งพบว่ามีความน่าสนใจ คือสัดส่วนผู้มาใช้สิทธิลดลง จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 60-62 เหลือร้อยละ 55 ซึ่งหมายความว่าคะแนนหายไปร้อยละ 7-8 หรือตัวเลขประมาณ 2 ล้านคน ที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้
“บางจังหวัดที่น่าสนใจเพราะมีผู้มาใช้สิทธิลดลงมากอย่างมีนัยสำคัญ จ.จันทบุรีและภูเก็ต ร้อยละ 15 และ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี จันทบุรี ระยอง ลดลงกว่าร้อยละ 10 จากตัวเลขผู้ไม่ได้มาใช้สิทธิแต่ละพื้นที่เชื่อว่าส่งผลคะแนนเลือกตั้งในแต่ละที่จึงเรียกร้องให้ กกต. ทบทวนประกาศวันเลือกตั้งในอนาคตการเลือกตั้งวันเสาร์สอดคล้องกับการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนหรือไม่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นบทพิสูจน์เพียงหนึ่งว่าการเลือกตั้งวันที่ 1 ก.พ.ไม่ตอบโจทย์กับการใช้สิทธิของประชาชน”
เลขาพรรคประชาชนกล่าวว่ายังมีความสงสัย 2 จังหวัดเนื่องจากผู้สมัครและกองสนับสนุนการเลือกตั้งที่ จ.เชียงใหม่และสมุทรปราการ ที่พบว่ามีบัตรเสียจำนวนไม่น้อยเมื่อเทียบกับคะแนนเลือกตั้งแพ้ชนะ ดังนั้นในช่วงบ่ายนี้จะมีการยื่น กกต. เพื่อขอให้มีการตรวจสอบบัตรเสีย ถูกต้องตามที่มีการเปิดเผยหรือไม่
อ่านข่าว :
ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.สะท้อน "ทักษิณ" สิ้นมนต์ขลัง