เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2568 เพจเฟซบุ๊กกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา รายงานว่าขุดค้นแหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน ครบ 7 วัน เราพบอะไร?
ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีจนถึงวันนี้ ขณะนี้เราขุดค้นถึงระดับความลึก 160 เซนติเมตรจากผิวดิน พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกฝังในลักษณะนอนหงายเหยียดยาวร่วมกับของอุทิศ จำนวน 3 โครง ได้แก่
- โครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 1 ฝังในลักษณะนอนหงายเหยียดยาว หันศีรษะไปทางด้านตะวันออก ฝังร่วมกับแวดินเผา ชามดินเผา และหม้อดินเผาอยู่บริเวณหน้าอก นอกจากนี้ยังพบกลุ่มภาชนะใกล้กับต้นแขนซ้ายด้วย
- โครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 2 ฝังในลักษณะนอนหงายเหยียดยาว หันศีรษะไปทางด้านตะวันตก ฝังร่วมกับหม้อดินเผาอยู่บริเวณปลายเท้า
กะโหลกศีรษะของโครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 1 ใกล้เคียงกันพบแวดินเผาและหม้อดินเผา (กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา)
- โครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 3 ฝังในลักษณะนอนหงายเหยียดยาว หันศีรษะไปทางด้านตะวันออก ฝังร่วมกับแวดินเผาอยู่บริเวณหน้าอก และหม้อดินเผาอยู่บริเวณกระดูกเชิงกราน
จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบสอดคล้องกับหลักฐานที่พบจากการดำเนินงานเมื่อปี พ.ศ.2567 ซึ่งพบว่าพื้นที่โนนพลล้านนี้ เป็นแหล่งฝังศพของชุมชนในวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายสมัยเหล็ก ซึ่งกำหนดอายุอยู่ในช่วง 2,400-1,500 ปีมาแล้ว
การขุดค้นยังคงดำเนินการต่อไป หากมีโอกาสพวกขอเรียนเชิญทุก ๆ ท่าน แวะเวียนมาเยี่ยมชมหลุมขุดค้น ตลอดจนเยี่ยมชมนิทรรศการข้างหลุมขุดค้น "สืบร่องรอยมนุษย์โบราณเมืองเก่านครราชสีมา จากหลักฐานทางโบราณคดี "ในช่วงเวลา 09.30 น.ถึง 16.00 น.ไปจนถึงวันที่ 11 ก.พ.นี้ นักโบราณคดีคอยบริการให้ความรู้อยู่นะครับการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณ กำแพงเมืองใกล้ประตูพลล้าน หรือที่เรียกกันว่า แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน
ภาชนะดินเผาแบบพิมายดำที่พบเป็นของอุทิศร่วมกับโครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 1 (กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา)
สำหรับการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณ กำแพงเมืองใกล้ประตูพลล้าน หรือที่เรียกกันว่า แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน ซึ่งขุดโดยทีม นายวรรณพงษ์ ปาลกะวงษ์ ณ อยุธยา นักโบราณคดีชำนาญการจากสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ให้ข้อมูลจากการขุดค้นที่ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ พบโครงกระดูกทั้งตัวแล้ว 2 อีก 2 โครง พบส่วนกะโหลกโผล่ตรงผนังขอบหลุมตอนล่างสุด ซึ่งลึกจากผิวดินเดิมเพียง 1 เมตรเศษ
โบราณวัตถุที่เป็นหลักฐานสำคัญของการบอกอายุหลุมขุดค้นนี้กับหลุมขุดค้นปีที่แล้วที่อยู่ใกล้ๆ กันว่าอยู่ในสมัยเหล็ก (2,500-1,500 ปีก่อน) คือ เหล็กที่คล้ายมีดขึ้นสนิมตามรูป ภาชนะขัดมันแบบพิมายดำ เครื่องประดับสำริด
มีการพบกระดองส่วนล่างของเต่าด้วย จึงได้เชิญ ดร.วิไลลักษณ์ นาคศรี จาก มหาลัยราชภัฏนครราชสีมา มาลงหลุมตรวจดู เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นเต่าบัว ซึ่งกำลังขอเวลาตรวจเช็กให้ชัดเจนก่อน ด้านการวิเคราห์ทางเรณูวิทยา ทาง ผศ.ดร.วิภานุ รักใหม่ และนักศึกษาในหลักสูตรชีวะ กำลังดำเนินการเก็บข้อมูลอยู่ทุกวัน