กรณีชายวัย 40 ปี ปาระเบิดขวดจุดไฟเผาอาคารตึก 3 ชั้น 3 ห้องผู้ป่วยหูคอจมูก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี
- "วางแผนมา" จับมือปาระเบิดขวดเผา รพ. - เสียหายหนัก
- ไฟไหม้ รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จนท.เร่งควบคุมสถานการณ์
วันนี้ (1 ก.พ.2568) ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด วินาทีนายพิบูลย์ อายุ 40 ปี เดินสะพายเป้ในมือถือระเบิดขวด และปืนเดินขึ้นบันได เข้าไปที่บริเวณภายในอาคาร 3 ชั้น 3 แล้วจู่ ๆ ก็ปาสิ่งของบางอย่างเข้ามาในโรงพยาบาลแบบนี้ จากนั้นจุดไฟ ทำให้เกิดไฟไหม้โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ก่อนหลบหนีไป ทำให้เจ้าหน้าที่ คนไข้ พร้อมญาติแตกตื่น ต้องระดมช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากตัวอาคารโดยด่วน
วีรกรรมของชายคนนี้ ไม่ได้เผาแค่โรงพยาบาลเท่านั้น ก่อนหน้านั้นมีผู้ใช่สื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า ขับรถไปเฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ รพ.นาเยีย บาดเจ็บ 1 คน และไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์นักเรียน 3 คน ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
ชายวัย 40 ปีผู้ก่อเหตุปาระเบิดขวกเผาโรงพยาบาล
ผู้ก่อเหตุสารภาพว่า เช่ารถยนต์มาจาก เต็นท์เช่ารถแห่งหนึ่งบริเวณสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี แล้วได้แวะซื้อน้ำมันใส่แกนลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตร 2 ถัง เพื่อบรรจุน้ำมันใส่ถุงพลาสติก นำไปโยนใส่เตียงคนไข้บริเวณชั้น 3 ของโรงพยาบาล แล้วจุดไฟเผา เพื่อระบายความเครียด หลังอ้างว่าทำธุรกิจแล้วถูกโกงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ผู้ก่อเหตุยังเล่าว่า ตั้งใจก่อเหตุ ไม่ได้มีความแค้นกับโรงพยาบาล โดยมาดูลาดเลาไว้ล่วงหน้า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อวางแผน ต่อมาเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.68) เดินทางมาอีกครั้งเพื่อมาก่อเหตุ
ผู้ก่อเหตุสารภาพได้เดินทางเข้าไปนั่งเล่นในโรงพยาบาลโดยพก ปืน และน้ำมัน เข้าไปช่วงประมาณเที่ยงวัน ตั้งใจจะก่อเหตุที่ชั้น 2 และ ชั้น 3 ของโรงพยาบาล
ภาพความเสียหายหลังเพลิงไหม้ชั้น 3 รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม (ข่าวชาวบ้าน - Thai TV Social)
เมื่อตัดสินใจได้ก็ลงไปเตรียมน้ำมันใส่ถุง และพกถึงไปบริเวณก่อเหตุ จุดไฟที่ถุงและโยนเข้าไปทันที ขณะเดียวกัน ได้ยิงประชาชนใกล้เคียง เมื่อเห็นว่าถือถังดับเพลิงมาจะดับไฟ เพราะไม่ต้องการให้มีใครมาดับไฟ
ตร.เผย "เครียด-กดดัน" เหตุจูงใจเผา รพ.
พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานี ระบุว่าทางผู้ก่อเหตุมีความเครียดมาจากที่อื่น การสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะมีอาการทางจิต เพราะสามารถพูดคุยรู้เรื่อง โดยเป็นชาวบ้านใน อ.พิบูลมังสาหาร ต้องการก่อเหตุเพราะเรียกร้องความสนใจจากกลุ่มความเครียด
ผู้ก่อเหตุยืนยันไม่มีคู่กรณีในโรงพยาบาล ไม่เคยมาโรงพยาบาลนี้ แต่ต่องการมาระบายความเครียด จากปมที่อ้างว่าถูกโกงที่ดินมา 6 ปี
พ.ต.อ.สินชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ วางเพลิงเผาทรัพย์ พยายามฆ่า และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยวันนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปศาลเพื่อฝากขัง
ขณะที่ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่รุดมาดูที่เกิดเหตุระบุว่า หลังได้รับแจ้งเหตุได้มีการประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยต่าง ๆ และได้เคลื่อนย้ายคนป่วยลงมาจากชั้นที่เกิดเหตไฟไหม้ ไม่มีใครเสียชีวิต เพราะโรงพยาบาลมีระบบในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและญาติอยู่แล้ว
ภาพความวุ่นวายในระหว่างเกิดเหตุเผาในโรงพยาบาล
ไม่พบประวัติป่วยจิตเวช
ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม กรมสุขภาพจิต ส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ เข้าไปประเมินและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงให้ติดตามในการวางแผนให้ความช่วยเหลือในระยะยาว เพื่อฟื้นฟูจิตใจและลดผลกระทบทางด้านสุขภาพจิตตามความต้องการของพื้นที่ต่อไป
ขอชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่ ในการควบคุมสถานการณ์ของศูนย์บัญชาการเหตุอุบลราชธานี ที่นำทีมโดยท่านผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่จัดการ ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม จนไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับ พบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการป่วยทางจิตเวช แต่มีความเครียดจนนำไปสู่ก่อเหตุความรุนแรง เพื่อระบายความรู้สึกอยากสื่อสาร ว่าความเครียดก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้ ถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะไม่มีประวัติมาก่อนเลยก็ตาม
อ่านข่าวอื่นๆ