วันนี้ (29 ม.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แถลงภายหลังการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ว่า ทุกหน่วยงานต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยใน 3 เดือนนี้ต้องไม่มีการเผาป่า เผาในที่โล่งแจ้ง เผาซากผลผลิตทางการเกษตร
แม้ก่อนหน้านี้จะมีการกำหนดวันเผา แต่ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าจะต้องไม่เผา ซึ่งจะมีการดำเนินคดี มีมาตรการลงโทษและจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือหรือสิทธิการช่วยเหลือใดจากทางราชการ โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับมอบอำนาจเบ็ดเสร็จ สามารถสั่งดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติ ไฟป่าและการเผาในทุกรูปแบบอย่างเต็มที่ และให้ตั้งวอร์รูมแถลงความคืบหน้าการดำเนินงานทุกวัน
ข้อสรุปของที่ประชุมวันนี้ (29 ม.ค.) การดำเนินการทุกอย่างจะต้องห้ามเผา ใครเผาถือว่าผิดกฎหมาย มีบทลงโทษรุนแรง
เบื้องต้นที่ประชุมได้หารือเรื่องการของบกลางเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่าย รณรงค์ให้ชาวบ้านเปลี่ยนจากการเผาเพื่อเตรียมหน้าดิน ไปเป็นรูปแบบอื่นเพื่อให้มลพิษหมดไป เช่น เครื่องบีบอัดเศษพืชผลทางการเกษตร แทร็กเตอร์ ค่าน้ำมัน เพื่อเป็นทางเลือกให้ชาวบ้าน พร้อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูงบประมาณที่แต่ละจังหวัดจัดสรรไว้ว่าจะสามารถช่วยเหลือส่วนใดได้บ้าง
หากยังพบการเผา แสดงว่าผู้ว่าฯ ยังไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา เป็นข้อสั่งการที่มีกฎหมายรองรับ เพราะนายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ หากผู้ว่าฯ คนใดละเว้นก็ต้องมาอยู่ตึกหลังนี่ นายกฯ รีบเซ็นให้อยู่แล้ว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขอให้เข้าใจรัฐบาลในการดูแลภาพรวม เพราะเมื่อดูแลภายในประเทศเรียบร้อยแล้วก็จะมีความพร้อมไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะไม่ให้ความร่วมมือซื้อสินค้า ไม่ให้ความร่วมมือเป็นจุดผ่านสินค้าไปยังประเทศที่สาม ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
อ่านข่าว
"อนุทิน" ผุดไอเดียจ่ายเงินเยียวยาหยุดเผา แก้หมอกควัน-PM2.5
เริ่มบังคับแล้ว! ปรับระเบียบ 15 วันรถควันดำต้องปรับปรุง
รัฐบาลเพื่อไทย โปรยเงินฉุกเฉิน 620 ล้านสู้ฝุ่น ทส.ลั่นไม่เทงบทิ้ง