การยกพลชุดใหญ่พรรคประชาชน นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยหาช่วย นายจำรูญ สวยดี ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ลานนิคมอุตสาหกรรม 304 เมื่อ 27 ม.ค.68 ท่ามกลางผู้ใช้แรงงานที่ส่งเสียงเชียร์และขานรับคำปราศรัยหนาตาพอประมาณ เป็นสัญญาณชัดว่า เวทีนี้ เข้มข้นดุเดือดกว่าที่คิด
ทั้งไม่ใช่ครั้งแรก ที่แกนนำพรรคสีส้ม ระดมคนลงพื้นที่ช่วยนายจำรูญ นักวิชาการด้านการศึกษา และเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการน้ำ ทั้งแกนนำที่ขึ้นเวที มีการขึ้นภาพและซีจีกราฟฟิค ประกอบบนจอหลังเวทีปราศรัย สะท้อนทำการบ้านเป็นอย่างดี
นโยบายจึงล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ว่าจะเรื่องคุณภาพน้ำ เรื่องอากาศและฝุ่น PM 2.5 เรื่องคุณภาพชีวิตและการเดินทาง รวมทั้งเป็นเมืองปลอดอิทธิพล ที่โดนใจกลุ่มผู้ใช้แรงงานในนิคมและเขตอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมกว่าแสนคน
ในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะบ้านใหญ่ “วิลาวัลย์” ของ “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตนายกฯ และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ที่เคยยึดครองพื้นที่การเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นมายาวนาน มีเครือข่ายที่เป็นฐานเสียงกระจายอยู่ทุกพื้นที่ทุกอำเภอ
ไม่ว่าจะเป็น ส.อบจ. ข้าราชการ คนในเครื่องแบบ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ตอนนี้โดยข้อหา ร่วมกันสังหารนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรืออดีต สจ.โต้ง ที่มีความผูกพันใกล้ชิดในฐานะพ่อลูกบุญธรรมมายาวนาน
นำไปสู่ปฏิบัติการกวาดล้าง “เจ้าพ่อ” ตำรวจทั้งส่วนกลางและภาค 2 ลงไปปฏิบัติภารกิจไล่ตรวจค้นบ้านของคนในเครือข่าย ได้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง โดยนายสุนทรไม่ได้รับประกันตัว และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำมั่นคงสูงที่นครนายกฯ พร้อม ๆ กับอีกด้านหนึ่ง มีการแสดงตนเข้าไปมีบทบาทชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สำหรับการส่งผู้สมัครนายก อบจ.และส.อบจ. ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ภรรยาของอดีต สจ.โต้ง คือ น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน
กระทั่งคนปราจีนฯ ก็ได้เห็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีเกษตรฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการเลือกตั้ง อบจ.ปราจีนฯ และนักการเมืองคนดัง ทั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ลงไปร่วมงานศพ อดีต สจ.โต้ง และประกาศส่ง สจ.จอย ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
ด้วยมั่นใจว่า จะได้รับเสียงสนับสนุนและได้คะแนนสงสารจากคนในจังหวัด แต่กระนั้น กลับไม่ได้เห็นแกนนำหรือผู้ช่วยหาเสียงระดับ “บิ๊กเนม” จากพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ไปช่วย สจ.จอยหาเสียงเหมือนพรรคประชาชน ตรงกันข้าม การลงพื้นที่หาเสียงของ สจ.จอย กลับเป็นไปอย่างโดดเดี่ยว กระทั่งมีกระแสข่าวว่าจะโดนเท
ทั้งนี้น่าจะมาจากหลังมีข่าว และภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฎเผยแพร่ เรื่องการขนกล้องกระดาษ 20 กล่อง และภาพธนบัตรแบงก์ร้อยมัดรวมกันเป็นมัดๆ รวมวงเงิน 20 ล้านบาท ออกไปจากบ้านของนักการเมืองดังคนหนึ่งของปราจีนฯ ที่ใกล้ชิดอดีต สจ.โต้ง ก่อนจะเสียชีวิต และทิ้งเป็นปมปริศนาถึงขณะนี้ว่า เงินแบงก์ร้อยเหล่านี้ถูกไปใช้อะไร และปัจจุบันถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ใด มีปรากฏอยู่ในสำนวนคดี หรือเกี่ยวข้องกับการถูกสังหารหรือไม่
โดย สจ.จอย อ้างว่า ไม่รู้ และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินปริศนาดังกล่าว
และถึงแม้ ร.อ.ธรรมนัส จะออกโรงย้ำเมื่อประมาณเดือนธันวาคมว่า ยังพร้อมช่วย สจ.จอยหาเสียง แต่กระทั่งถึงวันก่อน ที่ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดกรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ของ สจ.จอย ก็ไม่มีวี่แววแกนนำจากพรรคเพื่อไทยไปช่วยหาเสียงให้
นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครนายก อบจ.อีก 1 คน ที่ถูกจับตาว่ามีโอกาสสอดแทรก หรืออย่างน้อยจะเป็นคนตัดคะแนนจาก 2 ตัวเก็งนี้ คือ “กำนันศักดิ์” นายอำไพ กองมณี คนดังแห่งอำเภอศรีมหาโพธิ
“กำนันศักดิ์” เป็นอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในการเลือกตั้งปี 2562 ก่อนย้ายไปลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งปี 2566 และต่อมาได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ เมื่อนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ลูกสาว “โกทร” ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ และลาออกจากการเป็น สส.
ก่อนหน้านี้ “กำนันศักดิ์” ถือเป็นคนในเครือข่ายและใกล้ชิดกับ “โกทร” เช่นกัน จึงถูกวิเคราะห์และจับตาว่า จะเป็น “ตัวแทน” หรือ “นอมินี” ในการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ครั้งนี้หรือไม่ เพราะเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับโกทร และลงสมัครแบบอิสระ
แต่จะมีใครเชื่อหรือไม่ อย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่แน่ ๆ ได้ทำให้สนามนายก อบจ.ปราจีนฯ ยังต้องรอตัดสินถึงวันสุดท้าย รวมทั้งจะมีเรื่อง “กระสุน” เข้าเกี่ยวข้องและเป็นตัวชี้ขาดด้วยหรือไม่ ต้องรอติดตาม
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว :