วันที่ 27 ม.ค.2568 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นำโดยนายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานฯ ร่วมกับกำลังทหารจาก ฉก.ลาดหญ้า และทหารพรานที่ 1406 สนธิกำลังจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ขณะลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าห้วยองค์พระ เขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
จากการสืบทราบจากสายข่าวทราบว่าจะมีกลุ่มบุคคลลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในเขตป่าติดชายแดนไทย-เมียนมา เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2568 กระทั่งวันที่ 25 ม.ค.2568 พบร่องรอยการตั้งแคมป์พักและซากสัตว์ป่า จึงได้วางกำลังซุ่มดักจับ และจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายต้าซุย อายุ 48 ปี นายเอกาลูทู อายุ 39 ปี และนายซอคาเล อายุ 27 ปี พร้อมของกลางซากสัตว์ป่าและอาวุธปืน
ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านต้นยาง หมู่ 5 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ให้การรับสารภาพว่า ได้ออกเดินทางจากศูนย์พักพิงฯ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. เพื่อเข้ามาล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ โดยใช้อาวุธปืนแก๊ปที่แต่ละคนพกติดตัวมาคนละกระบอก
จากการตรวจค้นพบของกลางจำนวน 15 รายการ ประกอบด้วย ซากงูเหลือมรมควัน น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม, ซากตะกวดรมควัน น้ำหนัก 1 กิโลกรัม, ซากกระเพาะเม่นหางพวงรมควัน น้ำหนัก 400 กรัม, ปืนแก๊ปประกอบเอง 3 กระบอก พร้อมชุดเครื่องกระสุน อุปกรณ์ล่าสัตว์อื่น ๆ เช่น มีดเหน็บ มีดอีโต้ หนังสติ๊ก ไฟฉาย เปลนอน และกระเป๋าสะพาย
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสามในความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในข้อหาเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ป่า นำอาวุธเข้าเขตอุทยานฯ ดำเนินกิจการหาผลประโยชน์ และยิงปืนในเขตอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ในข้อหาล่าและครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในข้อหาเก็บหาของป่าและกระทำการเสื่อมเสียแก่สภาพป่า และพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าว : ทำความเข้าใจ เทียบความต่างค่า AQI-ฝุ่น PM2.5 https://www.thaipbs.or.th/news/content/348609
บันทึกภาพ "คู่รักเต่าตนุ" สร้างรังรักกลางทะเลอันดามัน https://www.thaipbs.or.th/news/content/348604
28 ม.ค.นี้ "นายกรัฐมนตรี" หารือยกระดับแก้ฝุ่นพิษในครม. https://www.thaipbs.or.th/news/content/348599