ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แนวรบด้านตะวันตก วิกฤต “สแกมเมอร์-จีนเทา” ล้อมชายแดนไทย

อาชญากรรม
27 ม.ค. 68
17:03
247
Logo Thai PBS
แนวรบด้านตะวันตก วิกฤต “สแกมเมอร์-จีนเทา” ล้อมชายแดนไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

แนวรบด้านตะวันตก ชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก ยังไม่เปลี่ยนแปลง และอาจวิกฤตหนักกว่าเดิม หลังกลุ่ม“จีนเทา” เข้าไปเจาะพื้นที่เมืองเมียวดี เขตอิทธิพลกองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF (Karen Border Guard Force-Karen BGF) หรือกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นเอ (Karen National Army - KNA) ภายใต้การควบคุมของ พ.อ.ชิต ตุ และพลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) กองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army-DKBA)เป็นฐานสแกมเมอร์ และหลอกลวงออนไลน์ 

แม้ประเทศไทย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในฝั่งเมียนมาและกองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าถูกใช้เป็นเส้นทางผ่าน และล่อลวง เพื่อลักลอบนำเข้า “เหยื่อ” สู่เมืองอาชญากรรมเพื่อส่งข้ามพรมแดนไปเมืองสแกมเมอร์ “ชเวโก๊กโก Shwe Kokko ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งข้าม อ.แม่สอด 

และเมืองไท่ฉาง หรือ ท่าช้าง ฝั่งตรงข้าม อ.พบพระ ฐานหลักของกลุ่มสแกอร์ คอลเซ็นตอร์ หลอกลวงออนไลน์

มีข้อมูล ระบุว่านอกจากคนไทยที่สมัครใจไปทำงาน และมีบางส่วนที่ถูกล่อลวงแล้ว ยังมีชาวต่างชาติหลายประเทศ ทั้ง จีน ,ญี่ปุ่น ,เกาหลี,อินเดีย ,เวียดนาม ,เอธิโอเปีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ , ลาว,ปากีสถาน และชาวสหรัฐ อเมริกา ไม่มีใครทราบว่า กลุ่มอาชญากร หรือแก๊งสเกมเมอร์ ใช้วิธีใดในการล่อลวงให้ชาวต่างชาติหล่านี้ ตัดสินใจเดินทางออกจากประเทศบ้านเกิด

แต่จากข้อมูลพบว่า กลุ่มคนร้ายจะใช้ทุกช่องทางโซเชียลเฟซบุ๊ก TIK TOK และ We Chat รวมถึงช่องทางอื่น ๆ กระจายข่าวสารว่า เมืองไทยและบริษัทใหญ่ ๆ หลากหลายวงการมีการจ้างงาน ให้ค่าตอบแทนสูงมาก และยังมีการออกค่าเดินทางให้เข้ามาในประเทศไทย โดยจะมีผู้ไปรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ หรือจ่ายค่ารถแท็กซี่ให้มาส่งจนถึงเขตพื้นที่ชายแดน กว่าจะรู้ตัวว่า “ถูกหลอก” ก็ข้ามฝั่งอยู่ในเมียนมาเสียแล้ว

ที่ผ่านมา ไม่ได้มีเพียง หวัง ซิง (Wang Xing) หรือ ซิง ซิง (Xing Xing) หยาง เจ๋อฉี (Yang Zeqi) นายแบบชาวจีน ที่ได้รับความช่วยเหลือ และมีโอกาสกลับคืนสู่ครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ทางสถานทูตของประเทศนั้น ๆ ประสานตรงกับทางการไทย เพื่อขอตัวคนของตนกลับประเทศ ขณะเดียวกัน ยังมีชาวต่างชาติอีกหลายพันคนที่ยังติดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและคงรอคอยความช่วยเหลือ

“ซีล” ตะเข็บชายแดน“รับมือ” แก๊งล่อลวงข้ามชาติ

ช่องทางธรรมชาติ ตามแนวชายแดน เป็นจุดล่อแหลมสำคัญ แม้เส้นทางตลอดแนวชายแดนจะมีระยะทางยาวติดต่อเมียนมา ถึง 533 กิโลเมตร จะมีกองกำลังทหารและตำรวจในพื้นที่ดูแล การทำได้เพียงการตั้งรับเท่านั้น

แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ระบุว่า ขณะนี้มีพื้นที่ล่อแหลมสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด คือ บริเวณท่าอากาศยานแม่สอด จุดห้วยหินฝน และบริเวณด่านตู้แม่กุ
โดยเฉพาะที่สนามบินแม่สอด จะคัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาอย่างเข้มงวด ทุกคนที่เดินทางเข้ามา จะมีการทำบันทึกประวัติ และถ่ายถาพ เก็บไว้ พร้อมให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนให้ระวังการถูกหลอกลวง

หากใครไม่สามารถชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าไปได้ ไม่มีที่พัก หรือแผนการเดินทางกลับชัดเจน ก็จะมีการประสานไปยังสถานทูต ฯ ของบุคคลนั้น ๆ และงดเว้นไม่ให้เดินทางเข้าในพื้นที่ อ.แม่สอด

ขณะนี้ พื้นที่ 5 อำเภอชายแดน คือ อ.ท่าสองยาง ,แม่ระมาด, แม่สอด, พบพระ, และอุ้มผ่าง ติดริมแม่น้ำเมย มีการซีลจัดหน่วยเฝ้าระวังเข้มข้น และสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่บริเวณ ด่านบ้านพละ อ.แม่ระมาด และด่านบ้านห้วยนกแล อ.พบพระ โดยขอให้ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ทุกแห่งที่มีต่างชาติเข้าพัก แจ้งข้อมูลการเข้าพักของชาวต่างชาติทุกคนด้วย ...ตรงนี้ คือ ข้อมูลสำคัญ ในการติดตาม กรณีมีการผู้แจ้งสูญหาย

หากมีบุคคลสูญหาย ในเวลาไม่นาน ครอบครัวหรือญาติรีบแจ้งเข้ามา จะตามได้เร็ว เพราะไล่กล้องได้ แต่ถ้าหายไปเป็นเดือน หรือนานกว่านั่นจะตามตัวได้ยากมาก เพราะพื้นที่ฝั่งโน้น อยู่ในเมียนมา เราเข้าไปไม่ได้ ต้องใช้วิธีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสาน และรอเวลาอย่างเดียว

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกำลังลาดตระเวน ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง ที่จะเข้าสู่แนวชายแดน เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวต่างชาติลักลอบข้ามแดน หากมีการฝ่าฝืนก็ให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และพ.ร.บ.รถยนต์พ.ศ.2522 มาตรา 22 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถยนต์อื่นโดยสารประจำทางรับจ้าง รับคนโดยสารซึ่งเสียค่าโดยสารเป็นรายตัวฯ ในส่วนของชาวต่างชาติ มีโทษปรับ 2,000 บาท

สำหรับช่องทางธรรมชาติ จุดลงเรือในพื้นที่ตำบลแม่ปะ มี 23 แห่ง และจุดลอดบ้านห้วยกะโหลก สามแยกวังแก้ว แม่ปะวังจะเตียนใต้ ,ห้วยผักหละ-แม่โกนเกน ต. มหาวัน , ด่านแม่สายลวด, และจุดอื่น ๆ 

แหล่งข่าวระบุ การซีลพื้นที่ตามแนวชายแดน ยังรวมถึงแหล่งนัดพบ หรือจุดพักรถที่จะมีการส่งต่อชาวต่างชาติลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย เช่น ปั้มน้ำมัน และบริเวณลานจอดรถตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

ขึ้นริมเมย ส่องกลุ่มธุรกิจจีน “สีเทา” เมืองเมียวดี

หลังสีหนุวิลล์ ในกัมพูชาล่มสลาย เมื่อปี 2562 จาก กลุ่มทุนจีนสีเทา ได้ย้ายฐานธุรกิจสีเทา พนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ มายัง “ชเวโก๊กโก” เมืองเมียวดี และกลายเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของเมียนมา ภายใต้การดูแลของพ.อ.ชิตุ

“ชเวโก๊กโก” ตั้งอยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพ ไทย - เมียนมา แห่งที่ 1 ประมาณ 25 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 720 ตารางกิโลเมตร และมีความยาว 16 กม. จาก อ.แม่สอดถึง อ.แม่ระมาด จ.ตาก

พื้นที่ดังกล่าวเป็นการร่วมทุนของบริษัท ยาไท่ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลด์ดิ้ง กรุ๊ป (Yatai International Holding Group: IHG) มี เสอจื้อเจียง หรือ “เสอ เกรียง ขาย” ชาวจีน สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันชาวจีนซึ่งถูกจับในไทยเมื่อเดือนส.ค.2565

และขณะนี้ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำแห่งหนึ่งในกทม. โดย Yatai Smart Industrial New City หรือ KK Park ร่วมทุนลงทุนกับ ตงเหมย กรุ๊ป (Dongmei Group) ซึ่งมี “หวัน ค็อกคอย” อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K เป็นประธานบริษัท

และเมืองไทฉาง หรือ ท่าช้าง ฝั่งตรงข้ามชานแดนด้าน ต.ช่องแคบ อ.พบพระ ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จไม่นาน เมื่อปี 2566 ข้อมูลระบุว่า มีบริษัทสแกมเมอร์กว่า 30 แห่งตามแนวชายแดน ไทย – เมียนมาและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

และมีเหยื่อที่ถูกหลอกไปค้ามนุษย์ในเมียนมาอย่างน้อย 120,000 คน และคาดหวังให้ทำรายได้ให้กับบริษัทสแกมเมอร์ประมาณ 12,000 บาท / วัน หรือคิดเป็นความเสียหาย 5.3 แสนล้านบาท / ปี ต่อประชากรใน 119 ประเทศทั่วโลก เช่น ฟินแลนด์, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, สเปน และญี่ปุ่น

รายงานของ USIP ในพื้นที่ประเทศติดลุ่มน้ำโขงมีเหยื่อที่ถูกหลอกไปค้ามนุษย์และทำสแกมเมอร์ประมาณ 300,000 ราย โดยในเมียนมา 120,000 ราย กัมพูชา 100,000 ราย ขณะทีลาวมีอีกประมาณ 85,000 ราย ประเมินความเสียหายจากสแกมเมอร์ในทั้ง 3 ประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท/ ปี หรือสูงกว่า 40% ของ GDP ประเทศลาว, กัมพูชา และเมียนมารวมกันเสียอีก

ด้วยเหตุนี้ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงทำให้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ต้องเปิดห้องประชุมกองทัพบก หารือร่วมกับ พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญ ชาการ ตำรวจภูธรภาค 6 และเพื่อหาร่วมหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ชายแดน

ทั้งนี้มีข้อมูลสถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของตำรวจ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน มีการแจ้งความกว่า 700,000 ครั้งมูลค่าความเสียหายกว่า 79,000 ล้านบาท เฉลี่ยความเสียหายกว่าวันละ 77 ล้านบาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน แต่ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติในวงกว้าง

เมาะลำไย “ฐานสแกมเมอร์ใหม่จีนเทา” เมืองพญาตองซู

การตรึงกำลังแนวชายแดนอย่างเข้มข้นของกองทัพภาคที่ 3 และตรวจค้นอย่างเข้มงวดของตำรวจโรงพักแนวชายแดน อย่างต่อเนื่อง สร้างความสั่นสะเทือนต่อขบวนการใต้ดินผิดกฎหมาย ในฝั่งไทย-เมียนมา จึงทำให้ทุนสีเทาจีน เริ่มขยับเส้นทางมายังเมืองเมาะลำไย (Mawlamyine ) เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก หรือ EastWest Economic Corridor

มีรายงานว่า ทางหน่วยงานความมั่นคง ได้เริ่มจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนจีนเทา ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 เป็นต้นมา ซึ่งพบว่ามีการย้ายฐานลงใต้จาเมืองเมาะลำใย มายังเขตเมืองพญาตองซู หรือ พะย่าโต้นซู จ.จะอินเซ็กจี ชายแดนติดกับด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอิทธิพลของพ.อ.เอวัน หรือ เพียวลิน ผบ.ศูนย์บัญชาการทางยุทธวิธีที่ 2 กองกำลัง DKBA ซึ่งถูกใช้เป็รเส้นทางผ่านของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด สินค้าหนีภาษี และยังมีเครือข่ายขบวนการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองอยู่ในฝั่งไทยและเมียนมา

“ด่านน้ำเกิ๊ก เคยมีคนจีนจำนวนมากเดินทางผ่านเข้าไปฝั่งเมียนมา ตรงนี้เป็นด่านสุดท้ายก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์ ชายแดนไทยเมียนมา เขาใช้เส้นทางเลี่ยง ช่วงนี้ทุกหน่วยต้องคุมเข้มและเฝ้าระวังกันหนักมาก” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม มีการประสานจากทางการเมียนมาว่า ในวันที่ 29 ม.ค. 2568 จะมีการส่งบุคคลต่างสัญชาติต่างๆ ที่ถูกหลอกลวงข้ามไปให้กล้บมาประเทศไทย ผ่านช่องสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์แห่งที่ 2 จำนวน 48 คน เป็น ชาวจีน
40 คน, อินโดนีเซีย 5 คน,และปากีสถาน 3 คน

แนวรบด้านตะวันตก ยังไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะแปรสภาพจากการสู้รบระหว่างกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์กับเมียนมา กลายเป็นการเปิดพื้นที่ให้ ทุนจีนสีเทาเข้าไปเจาะใช้เป็นฐานอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก

อ่านข่าว:

“กาสิโน” ภัยอำพราง ดันไทยขึ้นแท่น “ฮับ” ฟอกเงิน-ทุนสีเทา

“โค้งสุดท้าย” เลือกนายก อบจ. “บ้านใหญ่” กินรวบ 27 จังหวัด

ไม่สิ้น ”มนต์ขลัง” ทักษิณ-บ้านใหญ่ 10 จังหวัด นายก อบจ.ชนะชัวร์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง