อาการที่เจอเยอะมากตอนนี้ คือ ตาแห้งกำเริบ ภูมิแพ้ขึ้นตา และตากุ้งยิงที่พบผู้ป่วยมากขึ้น
พญ.ศศิ ใหญ่สว่าง คณะทำงานและเลขานุการฝ่ายวิชาการด้านส่งเสริมสุขภาพตาเพื่อสังคม ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย บอกเล่าสถานการณ์ PM2.5 ในปี 2568 ถือว่าหนักมากกว่า 2 ปีก่อนหน้านี้ เมื่อฝุ่นอนุภาคจิ๋วกระจายทั่วไปในบรรยากาศ ทำให้โรคตาแห้งกำเริบ เกิดภาวะแพ้ เยื่อบุตาอักเสบ ภูมิแพ้ขึ้นตา และพบผู้ป่วยเป็นตากุ้งยิงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานกลางแจ้ง ฝุ่นจะไปเกาะดวงตา กระตุ้นอาการแพ้ ทำให้เยื่อบุตาอักเสบและบวมแดง
ขณะที่ตรวจผิวตาคนไข้ก่อนทำเลสิก พบว่าเคสคนไข้ที่นัดมาทั้ง 6 คนต่อวัน ทั้งหมดมีผิวตาถลอก เป็นแผล สันนิษฐานว่าเกิดจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งแต่เดิมจะพบอาการเหล่านี้อยู่ที่ 20-30%
ฝุ่นหนักมาก เมื่อวานนี้เจอคนไข้ผิวตามีการถลอก ทำเลสิกไม่ได้แม้แต่คนเดียว จึงให้รักษาก่อน
พญ.ศศิ อธิบายว่า การขยี้ตาจนผิวตาถลอกเกิดขึ้นได้เมื่อฝุ่นอนุภาคขนาดใหญ่เข้าตา แต่กรณีฝุ่น PM2.5 เราจะไม่รู้สึกว่ามีฝุ่นเข้าตา หรือเคืองตาจนต้องขยี้ แต่ถูกรมตาด้วยอนุภาคที่เล็กมาก ๆ ทำให้ผิวตาเป็นจุดเล็ก ๆ กลายเป็นโรคตาแห้ง ซึ่งการตรวจด้วยเครื่องตรวจตานั้นดูภายนอกจะพบว่าปกติ แต่เมื่อย้อมสีดูอย่างละเอียดว่าผิวตาใสจริงหรือไม่ จะเห็นจุดเล็กจิ๋วติดที่ผิวตา สะท้อนว่าผิวชั้นบนสุดของกระจกตาหลุด
ทั้งนี้ คนที่ดูแลตัวเองดี ผิวตาแข็งแรง หยอดน้ำตาเทียมเป็นประจำ อาจจะไม่มีอาการดังกล่าว แต่คนที่มีอาการตาแห้งอยู่แล้ว หรือคนที่ใส่คอนแทคเลนส์มานาน เมื่อเจอฝุ่น PM 2.5 รมก็จะเป็นแผลจุดเล็ก ๆ ที่กระจกตาชั้นบนสุด
คนไข้อาจไม่มีอาการ ไม่ได้ขยี้ตา แต่ถูกรมด้วยฝุ่น PM2.5 จนเป็นแผลเล็กจิ๋วทั่วทั้งกระจกตา
พญ.ศศิ แนะนำผู้ที่มีอาการดังกล่าว ให้ใช้การหยอดน้ำตาเทียม รอเซลล์ผิวสมาน ก็จะหายเองและสามารถทำเลสิกได้ ส่วนกรณีที่เป็นแผลเยอะ ๆ บริเวณชั้นกระจกตาตรงกลางที่จะยิงเลเซอร์ทำเลสิก ก็ยังไม่ควรทำ เพราะมีโอกาสยิงเลเซอร์คลาดเคลื่อนสูง และหลังทำอาจเกิดแผลใหญ่ ตาแห้งมาก หรืออาการรุนแรง จึงขอให้รักษาผิวตาก่อนทำเลสิกอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
การทำเลสิก คือ การใช้เลเซอร์แก้ไขค่าสายตาให้เป็นไปตามค่าสายตาจริง ซึ่งต้องเน้นความปลอดภัยของโครงสร้างกระจกตา มีเนื้อที่เพียงพอที่จะทำได้ และต้องตรวจโรคของผิวตา โรคตาแห้ง ตาถลอก เพื่อป้องกันการยิงเลเซอร์คลาดเคลื่อน
ดูแล "ดวงตา" ช่วงวิกฤตฝุ่นจิ๋ว
การดูแลดวงตาในช่วงค่าฝุ่นสูง วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บตัวอยู่ในสถานที่ปิด และเปิดเครื่องฟอกอากาศ แต่หากหลีกเลี่ยงการออกนอกอาคารไม่ได้ ให้ใส่แว่นเพื่อลดอาการตาแห้ง หยอดน้ำตาเทียมเมื่อรู้สึกไม่สบายตา แต่หากมีอาการตาแห้งและแสบเคืองตารุนแรง ขอให้รีบพบจักษุแพทย์
ขณะที่กลุ่มเปราะบาง มีความเสี่ยงตาแห้งและเป็นแผลที่ตา เช่น ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 5 ปี, เคยทำเลสิก, ผ่าตัดรอบดวงตา, ทำตาสองชั้น, หลับตาไม่สนิท, ผู้ที่ใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาเยอะ ติดขนยาเยอะ ๆ หรือใช้หน้าจอทั้งวัน กลุ่มคนเหล่านี้มีความเสี่ยงตาแห้ง เมื่อเจอสิ่งกระทบก็จะทำให้กระจกตาเป็นแผลได้ง่าย จึงแนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมเป็นประจำ
อ่านข่าว : หาคำตอบ บินโปรย "น้ำแข็งแห้ง" บรรเทาฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างไร
เช้าวันนี้ ค่าฝุ่น กทม.พื้นที่สีส้ม 38 เขต - ไร้พื้นที่สีแดง