วันนี้ (16 ม.ค.2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายักษ์ใหญ่การค้าสินค้าเกษตรจีน เพื่อดูดซับผลผลิตมันสำปะหลังในประเทศ ส่งสัญญาณบวกให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังทั้งระบบและดึงราคามันสำปะหลังของเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังให้สูงขึ้น
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ปีที่แล้วมันสำปะหลังราคาดีมากมีการซื้อตั้งแต่ต้นฤดูกาล ปีนี้ราคาไม่ค่อยดีกระทรวงพาณิชย์ได้พยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ได้มีการติดต่อกับสถานทูตจีนมาโดยตลอด ซึ่งได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยช่วยแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบ
รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า การเอ็มโอยูวันนี้ เชื่อว่าจะทำให้ราคามันสำปะหลังของไทยพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเบื้องต้นที่ 2.50 บาท/กก.และคาดหวังว่าราคาจะไปถึง 3 บาท/กก.ในอนาคต และจะร่วมมือกับสถานทูตจีนต่อไปในเรื่องการส่งออกโค ข้าว และทุเรียน เพื่อให้การค้าของไทยราบรื่น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกรไทยอย่างยิ่ง ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งผลักดันขยายตลาดการส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อกระตุ้นความต้องการสินค้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในต่างประเทศ อันจะส่งผลต่อการยกระดับราคาสินค้ามันสำปะหลังให้สูงขึ้น เพิ่มรายได้และช่วยให้ความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยดียิ่งขึ้น
สำหรับการลงนามสัญญาซื้อขายและ MOU ระหว่างบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD และผู้ประกอบไทยในครั้งนี้ที่มีมูลค่า ถึง 3,489 ล้านบาท ปริมาณ 540,000 ตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสดถึง 1.28 ล้านตัน และก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศได้จัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางจัดกิจกรรมปลุกตลาดการค้ามันสำปะหลังในจีน ที่นครเซี่ยงไฮ้ และนครเฉิงตู เมื่อวันที่ 6-8 ม.ค.ที่ผ่านมา
พิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายักษ์ใหญ่การค้าสินค้าเกษตรจีน
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากมีการลงนาม MOU ซื้อขายสินค้ามันปะหลังไปแล้วมูลค่าร่วม 5,314.95 ล้านบาท ปริมาณถึง 440,000 ตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสดกว่า 1.68 ล้านตัน และเมื่อรวมกันทำให้สามารถสร้างความต้องการซื้อมันสำปะหลังไทยได้ถึง 980,000 ตัน มูลค่าร่วม 8,083 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถดูดซับหัวมันสดในประเทศได้กว่า 2.96 ล้านตัน หรือเกือบ 3 ล้านตัน
การลงนามซื้อขายมันสำปะหลังกับจีนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านราคาและตลาดให้แก่เกษตรกรและผู้ส่งออกมันสำปะหลังของไทย ว่าผลผลิตของตนจะมีตลาดรองรับ ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกรและการจัดพิธีลงนามดังกล่าวยังถือเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ ไทย - จีน ในวาระครบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2568 นี้อีกด้วย
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายสำคัญในการสนับสนุนการส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรของไทย เพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรสำคัญของไทยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยกว่า 700,000 ครัวเรือน สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในแต่ละปีมากกว่า 100,000 ล้านบาท
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกมันสำปะหลังไปยังประเทศจีน มีปริมาณมากกว่า 3.8 ล้านตัน มูลค่ากว่า 53,000 ล้านบาท ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น แอลกอฮอล์ อาหารคน อาหารสัตว์ กาว กระดาษและอื่นๆ ซึ่งตลาดจีนที่เป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่สุดของประเทศไทย จึงให้ความสำคัญในการขยายโอกาสการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสัมปะหลังของไทยไปยังจีนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้นายพิชัยกล่าว่า ต้นเดือน ก.พ. นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเยือนจีนเนื่องจากครบรอบความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งจะมีการหารือประเด็นข้าวจีทูจี ปริมาณ 1ล้านตั้งที่ยังค้างส่งมอบอีก 280,000 ตัน ซึ่งจากการจีนรับปากกว่าจะพยายามเร่งส่งมอบให้หมดภายในปี ถือว่าจะเป็นการล้างท่อข้าวจีทูจี ตั้งแต่ปี2557
อ่านข่าว:
จับตา กกพ.แจงเเนวทางลดค่าไฟเหลือหน่วยละ 3.70 บาท
เริ่มวันแรก Easy E-Receipt 2.0 ช้อปสินค้าลดหย่อนภาษี
เนื้อแน่น อวบอ้วน “หอยนางรมท่าโสม” สินค้า GI ใหม่จ.ตราด