วันนี้ (15 ม.ค.2568) พล.ต.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยความคืบหน้าคดี นายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกยิงเสียชีวิตว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้เร่งสืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง และต่อมาสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ รวมถึงได้ขยายผลจับกุมผู้ให้การช่วยเหลือพาผู้ก่อเหตุหลบหนี
ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่เป็นชาวกัมพูชา มีหน้าที่สั่งการจ้างวาน และผู้ชี้เป้า พบว่าหลังเกิดเหตุได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างประสานงานกับทางฝั่งกัมพูชา เพื่อให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี
ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวน พบความชัดเจนว่า การก่อเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจากความขัดแย้งปัญหาส่วนตัว ระหว่างผู้จ้างวานกับผู้เสียชีวิต ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ
อ่านข่าว ศาลออกหมายจับ "สมหวัง" จ้างวาน "จ่าเอ็ม" สังหารอดีต สส.กัมพูชา
ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายจับนายลี รัตนรัศมี หรือ นายสมหวัง บำรุงกิจ ชาวกัมพูชา ที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนจนเชื่อว่าเป็นผู้จ้างวาน ให้นายเอกลักษณ์ หรือ"เอ็ม กองเรือ" ยิงนายลิม กิมยา จนเสียชีวิต เมื่อ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นายสมหวัง เดินทางเข้าออกไทย กว่า 100 ครั้ง ครั้งล่าสุดเข้าไทยเมื่อวันที่ วันที่ 6 ม.ค.ก่อนจะเดินทางกลับกัมพูชาในวันที่ 8 ม.ค.ซึ่งพบข้อมูลด้วยว่า ช่วงที่อยู่ในไทย 2-3 วัน นายสมหวังพักอยู่ที่บางละมุง จ.ชลบุรี และโอนเงินเข้าบัญชีนายเอกลักษณ์ ก่อน และหลัง ลงมือยิงนายลิม กิมยา
ขณะที่การสอบสวนนายเอกลักษณ์ ให้การเป็นประโยชน์มากขึ้น โดยบอกว่า รู้จักกับนายสมหวังมาราว 2 ปี ช่วงที่ถูกลงโทษทางวินัยทหารและได้รับความช่วยเหลือเรื่องเงินจากนายสมหวังมาโดยตลอด
สำหรับการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวกัมพูชา อีก 2 คน ขณะนี้ประสานงานกองการต่างประเทศ เพื่อร้องขอหมายแดงจากตำรวจสากลและประสานทางการกัมพูชาให้ช่วยติดตามตัวแล้ว
ขณะเดียวกันการสืบสวนสอบสวนทางคดียังขยายผลต่อ โดยอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ผู้จัดหาปืน และผู้ที่จัดหารถให้นายเอกลักษณ์ หลบหนีมาสอบปากคำเพิ่มเติมและกันไว้เป็นพยานแล้ว
อ่านข่าวอื่นๆ
ตร.คุมตัว "เอ็ม กองเรือ" ส่งศาลฝากขัง - ตร.ค้านประกันตัว
บุกรวบตัว "ชาคิต" คนขับรถพา "จ่าเอ็ม" หลบหนีไปชายแดน