ใกล้เป็นจริงเต็มที สำหรับกาสิโนถูกกฎหมาย ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกหมกเม็ดเอาไว้ใน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เมนเมนต์คอมเพล็กซ์ เมื่อที่ประชุม ครม. วันที่ 13 ม.ค.2568 เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ขั้นตอนต่อไป คือส่งให้สภาผู้แทนฯ พิจารณา และให้สำนักงานกฤษฎีกาตรวจสอบเพิ่มเติมและข้อกฎหมาย
ที่ว่าหมกเม็ดไว้ เนื่องจากในร่าง พ.ร.บ. กำหนดประเภทธุรกิจสถานบันเทิงไว้ 10 ประเภท ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์ สนามกีฬา ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ สถานที่เล่นเกมส์ สระว่ายน้ำและสวนน้ำ สวนสนุก พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และสินค้า OTOP และกิจการอื่น ๆ ที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
หากแค่นี้จะไม่มี “บ่อนการพนันหรือกาสิโนถูกกฎหมาย” แต่หากมองให้ลึกลงไปในข้อ 10 กิจการอื่น ๆ ที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดนั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากกาสิโน
แม้จะพยายามโหมกระพือว่า กาสิโนเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ใช้พื้นที่ไม่ถึง 10 % ในเอ็นเตอร์เมนเมนท์คอมเพล็กซ์ แต่ในทางปฏิบัติ กาสิโนจะเป็นแหล่งทำเงินมากกว่า 80-90 % ของประเภทอื่นรวมกันทั้งหมด
ร่างฯ ผ่านครม. เป็นร่างที่กระทรวงการคลังอ้างว่า ผ่านการทำประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ตั้งแต่ 2-18 สิงหาคม 2567 จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชน
สรุปแล้ว มีผู้เห็นด้วยมากกว่า 80 % ท่ามกลางคำถามจากวงนอกว่า จะมีประชาชนที่รับรู้เรื่องนี้ว่า มีการเปิดประชาพิจารณ์สักกี่มากน้อย และการเปิดผ่านระบบออนไลน์ เป็นที่ทราบกันดีว่า สามารถให้เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้แบบ “จัดเต็ม” ได้
ทันทีที่ร่างฯ ผ่าน ครม. นายวิสุทธิ์ ไชยนรุน ประธานวิปรัฐบาล ขานรับทันทีว่า กฤษฎีกาคงใช้เวลาพิจารณาเดือนเศษ เชื่อว่าจะทันเข้าสู่การพอจารณาของสภาฯ วาระที่ 1 ทันสมัยประชุมนี้ และเห็นว่า กฤษฎีกาที่ให้ความเห็นมา ไม่ไม่ได้คัดค้าน แค่มีข้อเสนอบางเรื่องที่ต้องทำให้ชัดเจน และในพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ก็ไม่มีใครทักท้วง
เท่ากับพร้อมลุยเต็มสปีด มีอะไรค้างคาให้ไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการ แม้เรื่องนี้ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน หรือ พรรคก้าวหน้าในอดีต ได้ตั้งข้อสังเกต ท้วงติง และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการหลายเรื่อง ตั้งแต่เมื่อครั้งพิจารณาร่างการผลศึกษา
กระทั่งล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ที่เกาะติดเรื่องนี้มาตลอด ได้ออกโรงวิพากษ์ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องใหญ่หลายเรื่องในร่างกฎหมายนี้ ถึงขั้นใช้คำว่า มี “ปีศาจ” ซุกซ่อนอยู่ภายใน
นายรังสิมันต์กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าทำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แล้วจะสวยหรูทันที เพราะมีปัญหา และความความท้าทายอยู่อีกมาก ทั้งเรื่องเงินสีเทา กลุ่มทุนสีเทา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
และสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ รัฐบาลจะรับมืออย่างไรกับการฟอกเงิน จากกรณีมีคนนำเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายไปฟอกผ่านกาสิโนที่ตั้งขึ้น เรื่องกฎหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ยิ่งเป็นโปรเจ็คท์ขนาดใหญ่ ย่อมมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีผลประโยชน์ไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ทั้งผ่านกติกา การกำหนดพื้นที่ และเรื่องใบอนุญาต
มีหลายประเด็นที่นายรังสิมันต์ตั้งข้อสงสัย รวมทั้งเรื่องที่รัฐบาลต้องสร้างความกระจ่าง และตอบคำถามให้ได้ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีส่วนได้เสียใด ๆ และการได้ใบอนุญาต มั่นใจอย่างไรว่าเกิดจากการใช้ดุลพินิจ ที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนจริง ไม่ใช่บนผลประโยชน์ของรัฐบาล
ที่สำคัญในโครงสร้าง นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบาย ขณะที่คณะกรรมการบริหาร ประธานและกรรมการจะมาจากนายกฯเป็นผู้แต่งตั้ง จึงเป็นความสุ่มเสี่ยงมาก สำหรับนายกฯ ที่อาจถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ หรือมีผลประโยชน์ได้เสียบางอย่างจากการให้ใบอนุญาต
เป็นเพียงบางคำถามที่รัฐบาลยังไม่มีคำตอบ ยังไม่นับสาระพันปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการมีกาสิโนถูกกฎหมาย ทั้งปัญหาอาชญากรรม มาเฟีย ผู้มีอิทธิพลทั้งคนไทยและต่างชาติ ธุรกิจผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี แต่กลับมีความพยายามตีปี๊บร้องเป่าสนับสนุน อ้างข้อดีและความเหมาะสมสาระพัด
อ้างจะทำรายได้เข้าประเทศทั้งจากใบอนุญาต มูลค่าเป็นหมื่นๆ ล้านบาท สามารถโกยรายได้เข้าประเทศจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร อีกปีละ 1-4 หมื่นล้านบาท และจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวและนักแสวงโชค เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 แสนล้านถึง 4.7 แสนล้านบาท
การสกัดกั้นกาสิโนถูกกฎหมาย รวมถึงความเร่งรีบของบรรดากลุ่มคนที่สบช่องเห็นโอกาสทองต้องรีบคว้า และพาตัวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้ โดยที่ไม่ยอมตกขบวน จึงขั้นอยู่ปัจจัยที่เหลืออยู่ไม่มาก หนึ่งในนั้น คือท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคประชาชาตินั้น ชัดเจนว่าไม่สนับสนุนแน่ เพราะเป็น สส.ในเขตพื้นที่ชาวมุสลิมถือว่าขัดกับหลักศาสนา แต่ยังไม่พอ
ต้องขึ้นกับพรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรคภูมิใจไทย ที่ก่อนหน้านี้ เคยให้กลุ่มยังเติร์ก นำโดยนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค แถลงจุดยืนของพรรค 4 ข้อ ที่ยืนยันว่า ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อ 13 สิงหาคม 2567
ทั้ง 4 ข้อคือ 1.ร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย 2.ยังไม่ชัดเจนเรื่องผลประโนชน์ต่อรัฐและประชาชน มากพอที่จะลงทุนทำเรื่องนี้ 3.ไม่เชื่อว่า กาสิโนจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศได้ และ 4.ยังไม่เห็นมาตรการใดในร่างกฎหมาย จะเอื้อประโยชนต่อการว่าจ้างแรงงานไทย
ขณะที่ในวันพิจารณาร่างฯ นี้ในที่ประชุม ครม. นายนอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ รมว.มหาดไทย ต้องบินด่วนกลับจากภารกิจในต่างจังหวัด เพื่อร่วมประชุมเรื่องนี้
ส่วนจะมั่นคง จริงจัง จุดยืนเรื่องนี้ไม่เปลี่ยนจริงแค่ใจอย่างไร ต้องรอวัดใจพรรคภูมิใจไทย เป็นสำคัญ และท่าทีพรรคภูมิใจไทย น่าจะมีผลไปถึงท่าทีและจุดยืนของวุฒิสภา ในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ผู้เชี่ยวชาญแนะ "สคบ.-กสทช." ตรวจเข้มงวดมือถือ ช่วยคุ้มครองผู้ใช้