วันนี้ ( 13 ม.ค.2568) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ซึ่งธนาคารกลางจีนเข้าซื้อทองคำเดือนธ.ค. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และจากกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากนโยบายทรัมป์ 2.0 แม้การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 5.74 ตันในสัปดาห์ก่อน
วิเคราะห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเข้าใกล้บริเวณแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์ จึงอาจทำให้มีแรงเทขายออกมาบ้าง ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงมาที่ระดับ 2,670 ดอลลาร์ หากยืนเหนือบริเวณที่ 2,670 ดอลลาร์ได้ยังถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
ราคาทองคำได้ แรงหนุนจากปัจจัยที่เข้ากระทบ และสกุลเงินบาทที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมา จากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง แนะนำรอเปิด Short สัญญา GF10G25 ที่ 44,750 บาท (เนื่องจากราคากลับมาซื้อขายบริเวณแนวต้านอีกครั้งแล้ว) โดยมีเป้าทำกำไรที่ 44,300 บาท และตัดขาดทุนหากทะลุระดับ 45,000 บาท
สำหรับราคาทองคำปิดตลาด บวก 150 บาท ผันผวน 6 ครั้ง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 44,200 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 44,100 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 44,700 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 43,312.12 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,688 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.77บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 6,019 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 11,538 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 22,575 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 44,650 บาท ภาพรวมราคาทองเดือน 13ม.ค.2568 บวก 1,800 บาท
อ่านข่าว:
“บ้านเพื่อคนไทย” ยุคเศรษฐกิจขาลง “Genใหม่” เช่า มากกว่า ซื้อ
ห่วงกระสุนหมด! บิ๊กเอกชน เสนอรัฐฟื้น “คนละครึ่ง” กระตุ้นกำลังซื้อ
ธปท.สั่ง "ธนาคาร" คืนเงินผู้เสียหายถูกขโมยบัตรเครดิตไปใช้