ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"เบี้ยผู้สูงอายุ 2568" เงินเข้าวันไหนบ้าง เช็กเงื่อนไข-ลงทะเบียน 2569

สังคม
10 ม.ค. 68
12:25
2,228
Logo Thai PBS
"เบี้ยผู้สูงอายุ 2568" เงินเข้าวันไหนบ้าง เช็กเงื่อนไข-ลงทะเบียน 2569
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"เบี้ยผู้สูงอายุ 2568" ตารางจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ปีนี้ เงินเข้าวันไหนบ้าง พร้อมดูเงื่อนไขการลงทะเบียนรับสิทธิรายใหม่ ปี 2569 ขั้นตอน เอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง

เริ่มปี 2568 เดือน มกราคม "เบี้ยผู้สูงอายุ" เงินเข้าบัญชีแล้ววันนี้ "10 มกราคม" ซึ่งผู้สูงอายุที่จะได้รับเงินจะต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไปผ่านการลงทะเบียนก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมกางตารางการจ่ายเงิน "เบี้ยสูงอายุ 2568"  

"เบี้ยผู้สูงอายุ" หรือ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" เป็นสวัสดิการที่ทางภาครัฐจัดสรรให้แก่ "ผู้สูงอายุ" ที่มี "อายุ 60 ปีขึ้นไป" เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน แต่ละปีจะมีการเปิดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่มาลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ และการรับเงินเบี้ยผู้สูงอายุจะต้องละทะเบียนก่อน

ตารางการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

ภาครัฐจะโอนเงินผ่านธนาคารที่ผู้สูงอายุลงทะเบียนไว้ ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน หากวันที่ 10 ของเดือนใดตรงกับ "วันหยุดเสาร์ อาทิตย์" หรือ "วันหยุดนักขัตฤกษ์" ก็จะเลื่อนจ่ายเงินเป็นก่อนวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ดังนั้นอาจจะได้รับเงิน ไม่ตรงกันในแต่ละเดือน โดย เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2568 จะโอนเงินเข้าบัญชี ดังนี้

  • มกราคม : วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568
  • กุมภาพันธ์ : วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
  • มีนาคม : วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568
  • เมษายน : วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568
  • พฤษภาคม : วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568
  • มิถุนายน : วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568
  • กรกฎาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2568
  • สิงหาคม : วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568
  • กันยายน : วันพุธที่ 10 กันยายน 2568

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้เงินเท่าไหร่

  • อายุ 60 - 69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท
  • อายุ 70 - 79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 700 บาท
  • อายุ 80 - 89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาท

เงื่อนไขลงทะเบียน "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" รอบใหม่ เช็กคุณสมบัติ

รายใหม่ ลงทะเบียน "เบี้ยผู้สูงอายุ" สำหรับผู้สูงอายุ อายุครบ 60 ปี ประจำปีงบประมาณ 2569 มาเช็กเงื่อนไข และขึ้นตอน เอกสารที่ต้องใช้ในการขอรับสิทธิ พร้อมปฎิทินการจ่ายเงิน มาอัปเดตกัน

- สัญชาติไทย

- เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ยังไม่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 

- เป็นผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปี โดยเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509 ลงทะเบียนรับเงินประจำปีงบประมาณ 2569

- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่

  • ผู้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษหรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
  • ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจํา หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจํา

ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้เมื่อไหร่

กรณีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เคยลงทะเบียน

  • ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน 2567 และเดือน มกราคม – กันยายน 2568 จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป (ไม่มีจ่ายย้อนหลัง)

กรณีจะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2569 (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509)

  • ลงทะเบียนเพื่อยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน 2567 และเดือน มกราคม – กันยายน 2568

ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น เกิดเดือน "กุมภาพันธ์" จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือน "มีนาคม" เป็นเดือนแรก

"ผู้สูงอายุ" สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้ และหากผู้สูงอายุมีความประสงค์โอนเงินเข้าบัญชีผู้อื่น ต้องมีหนังสือมอบอำนาจตัวจริง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ชุด

ยื่นเอกสารแล้ว จะได้รับเงินเมื่อไหร่

ผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 1- 30 พฤศจิกายน ของทุกปี จะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีถัดไป (ไม่มีการจ่ายย้อนหลัง)

เอกสารที่ต้องเตรียม

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

2. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

3. สำาเนาสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 1 ชุด

ในกรณีผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุย้ายทะเบียนบ้านให้เทศบาล หรือ อบต. ที่เคยจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดิมยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจนกว่าจะสิ้นสุดปีงบประมาณ นั้น คือเดือนกันยายน

และหากมีความประสงค์จะรับเบี้ยยังชีพกับเทศบาล หรือ อบต. แห่งใหม่ ต้อง ไปจดทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยยังชีพที่เทศบาล หรือ อบต.แห่งใหม่ ภายในวันที่ 1 - 30 พฤศจิกายนของทุกปี และเริ่มรับเงินที่ใหม่ในเดือนตุลาคม ของปีถัดไป (เอกสารต้องลงลายมือชื่อ สำเนาถูกต้องทุกฉบับ ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเขียนได้ ให้พิมพ์ลายมือแทน)

การลงทะเบียนล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับสิทธิตามกำหนดเวลา 

อย่างไรก็ตาม หากผู้สูงอายุมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ทางหน่วยงานที่ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไว้ โดยในกรุงเทพมหานครสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเขต ส่วนต่างจังหวัดสอบถามได้ที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในท้องถิ่น หรือติดต่อ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เบอร์ 02-2419000 ต่อ 4131

อ้างอิงข้อมูล กรมกิจการผู้สูงอายุ, องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแฮ้ว

อ่านข่าว : "บัตรประชาชน" ใช้อย่างไรปลอดภัย หากข้อมูลหลุดจะเกิดอะไรขึ้น?

ปีใหม่ 2568 ลอกคราบเหมือนงู! เริ่มต้นชีวิตใหม่ "เปลี่ยนแปลง-เติบโต"

ถ่ายรูปข้อมูลบัตรประชาชน ผิด PDPA หรือไม่? เจ้าของมีสิทธิแค่ไหน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง