กรณีญาติผู้ป่วยฉุกเฉินร้องเรียน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2567 ได้แจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินผ่าน 1669 มีการประเมินอาการว่าเป็นเคสที่ต้องใช้รถพยาบาลขั้นสูงเข้าไปดูแล แต่กลับมีอาสาสมัครแห่งหนึ่งใส่ชุดสีแดง เข้าไปประเมินอาการและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ญาติแจ้งว่าผู้ป่วยมีสิทธิการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมแจ้งความประสงค์ขอให้ส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลใกล้เคียงย่านพระราม 9 เพื่อใช้สิทธิรักษาตามโครงการ UCEP ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่
แต่อาสาสมัครชุดแดงดังกล่าวกลับนำตัวผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลเอกชนย่านทองหล่อ ก่อนที่โรงพยาบาลเอกชนย่านทองหล่อจะแจ้งว่าผู้ป่วยมีอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เกินขีดความสามารถในการรักษา จึงต้องส่งตัวมาที่โรงพยาบาลตามสิทธิและเข้ารับการผ่าตัดทันที
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใช้เวลาส่งตัวผู้ป่วยประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรักษาโรคหัวใจอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะกรณีของโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่ต้องการการรักษาโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นอาสาสมัครชุดแดงได้โทรกลับมาแจ้งว่ารถติด ทำให้ไม่สามารถไปส่ง รพ.ตามสิทธิได้ จึงมีการตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิที่ใช้ชุดแดง
สพฉ.สั่งสอบอาสาชุดแดงรับผู้ป่วยฉุกเฉิน
ล่าสุด สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยระบุว่า นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. สั่งให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งกลุ่มบุคคลที่เข้าไปเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินและขั้นตอนการนำส่งตัวผู้ป่วยฉุกเฉิน เนื่องจาก สพฉ.ไม่สามารถปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติงานชัดเจนว่าไม่อนุญาตให้บุคคล ซึ่งไม่ใช่ผู้ปฏิบัติการและไม่ได้รับการสั่งการจากหน่วยปฏิบัติการอำนวยการ เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน เพื่อป้องกันพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายและความปลอดภัยของทั้งผู้ปฏิบัติการและผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั่วประเทศ
อ่านข่าว
ฝากขัง สันต์ ออเงิน มือยิงรองสารวัตร สน.สายไหม เสียชีวิต
ผบช.น.เสนอปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ "ร.ต.ท.บรรรัง" - รดน้ำศพเย็นนี้