วันนี้ (1 มค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ราคาทองคำวันแรกของปี2568 พบว่า ตลาดทองคำเปิดมาเช้านี้ บวก 250 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 42,650 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 42,550 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 43,150 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 41,780.96 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,624.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.34 บาทต่อดอลลาร์
โดยราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,831บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 11,163 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 21,825 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 43,150บาท ภาพรวมราคาทองคำปี2568 บวก 250บาท ส่วนภาพรวมราคาทองคำปี2567 อยู่ที่ 8,750 บาท สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการทำสถิติไว้ตั้งแต่ปี2554
ทั้งนี้เว็บไซต์ “ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำไว้เมื่อวันที่31 ธ.ค.2567 ว่า ราคาทองคำในปีนี้ได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time high) จากปัจจัยหนุนดอกเบี้ยขาลง โดยปีนี้เฟดได้ปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเฟดเดือนก.ย. และปรับลดดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ในเดือนพ.ย. และเดือนธ.ค. ทำให้ปีนี้เฟดได้มีการปรับลดดอกเบี้ยรวมกว่า 1%
นอกจากนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ สงครามที่ร้อนระอุในตะวันออกลาง สงครามรัสเซียและยูเครน และแรงซื้อทองคำสำรองจากธนาคารกลางทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ราคาทองคำโลกได้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 26.31% ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวขึ้นไปกว่า 25.56% ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ดีของทองคำ
มีการคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบที่แคบ เนื่องจากปริมาณการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนวันหยุดช่วงปีใหม่ อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำหลุดแนวรับ 2,600 ดอลลาร์ จะทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ แนะนักลงทุนทยอยซื้อเก็บเก็งกำรระยะสั้น ทั้งนี้คาดว่าช่วงเดือนม.ค.เป็นช่วงที่ดีของราคาทองไปจนถึงเทศกาลตรุษจีน
อ่านข่าว:
"คลัง" จ่อเสนอ ครม.ปรับเกณฑ์ปลดล็อคคราฟท์เบียร์เสรี