วันนี้ (4 ธ.ค.2567) เวลาประมาณ 13.00 น. พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ถึงสนามบิน บน. 6 ดอนเมือง จากนั้นในเวลาประมาณ 17.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วขึ้นประดิษฐาน ณ มณฑป มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ในระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.2567 ไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ.2568 รวม 73 วัน ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญและเป็นสิริมงคลยิ่ง ซึ่งรัฐบาลได้จัดขึ้นเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568
ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดให้มีริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 โดยขบวนรถจะเคลื่อนผ่านทางยกระดับดอนเมือง ผ่านเส้นทางเยาวราช ถนนหลานหลวง และเข้าสู่ถนนราชดำเนินไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จำนวน 24 ขบวน โดยผู้เข้าร่วมเดินริ้วขบวนประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานของไทย - จีน องค์กรเครือข่าย 5 ศาสนา และกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,700 คน
ภาพ: พระลาน ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วันที่ 4 ธ.ค.2567
ภาพ: พระลาน ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วันที่ 4 ธ.ค.2567
นอกจากนี้ส่วนที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ยังได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซน ประกอบด้วย
- โซนที่ 1 "ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน"
- โซนที่ 2 "พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ"
- โซนที่ 3 "พระเขี้ยวแก้ว"
- โซนที่ 4 "ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว"
- โซนที่ 5 "ความสัมพันธ์ ไทย-จีน"
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จะเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมสักการะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธ.ค.2567 ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 07.00 - 20.00 น.
ภาพ: พระลาน ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วันที่ 4 ธ.ค.2567
ภาพ: พระลาน ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วันที่ 4 ธ.ค.2567
ภาพ: พระลาน ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วันที่ 4 ธ.ค.2567
ภาพ: พระลาน ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วันที่ 4 ธ.ค.2567
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดเตรียม รถเมล์ ขสมก. และเรือ รับ-ส่ง ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะและโปสการ์ด พร้อมบทสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ให้ประชาชน โดยประชาชนไม่ต้องนำมาเอง และจะอัญเชิญกลับ ในวันที่ 15 ก.พ.2568
รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญ "พระเขี้ยวแก้ว" ประดิษฐานที่สนามหลวง
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ปี 2568 ณ ท้องสนามหลวง
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ท้องสนามหลวง วันที่ 4 ธันวาคม 2567
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ท้องสนามหลวง วันที่ 4 ธันวาคม 2567
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ ท้องสนามหลวง วันที่ 4 ธันวาคม 2567
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ ท้องสนามหลวง วันที่ 4 ธันวาคม 2567
ไทม์ไลน์พิธีอัญเชิญ "พระเขี้ยวแก้ว" จากจีนสู่ไทย
วันเดียวกันเวลา 03.00 น. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) นำคณะผู้แทนไทย และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยคณะสงฆ์ไทย เดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง เพื่อดำเนินพิธีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว
พิธีอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนสู่ไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567
พิธีอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนสู่ไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567
เวลา 04.00 น. พระสงฆ์ฝ่ายไทยและฝ่ายจีน ได้ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ออกจากพระวิหารวัดหลิงกวง ไปยังขบวนรถยนต์อัญเชิญเพื่อเดินทางออกจากวัดหลิงกวง ไปยังท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรถคณะผู้แทนไทยรวมในขบวนฯ ถึงยังอาคารพิเศษ ท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
พิธีอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนสู่ไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567
พิธีอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนสู่ไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567
เวลา 06.20 น. นายเฉิน รุ่ยเฟิง รัฐมนตรีประจำสำนักงานกิจการศาสนาแห่งชาติจีน ส่งมอบพระเขี้ยวแก้ว โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับมอบ โดยมีพระสงฆ์ฝ่ายไทยและฝ่ายจีน รวมถึงคณะผู้แทนฝ่ายไทยและฝ่ายจีน ร่วมพิธี
พิธีอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนสู่ไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567
พิธีอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว จากจีนสู่ไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567
เวลา 06.40 น. เจ้าหน้าที่อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ขึ้นสู่เครื่องบินพิเศษอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว และคณะผู้อัญเชิญฝ่ายไทยและจีนเดินทางออกจากท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง ไปยังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กรุงเทพฯ ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 13.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
อ่านข่าว : มหาภัยพิบัติ หายนะโลกปี'67 ป่วนสุดขั้วใกล้ตัว "มนุษยชาติ"
5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ - วันชาติไทย - วันดินโลก
"ทวี" ชี้ข้อร้องเรียน "มาเฟียเรือนจำ" เป็นเรื่องเก่า - ไม่พบ จนท.เกี่ยวข้อง