วันนี้ (26 พ.ย.2567) พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัวนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหา ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสบคบกันฟอกเงิน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง
นางวิลาวัลย์ พยายามพูดกับสื่อมวลชนว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกรณีที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว พร้อมเขียนข้อความที่มีสาระสำคัญว่า เป็นเงินทำบุญและกู้ยืมจากนายวัรตน์พล หรือ พอล พร้อมยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอน และจะต่อสู้คดี
ขณะที่นายสามารถ กล่าวสั้นๆ กับสื่อมวลชนว่า “อยากพูดแต่พูดไม่ได้” ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวทั้ง 2 คนขึ้นรถเพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ผลการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธไปไหนทำนองเดียวกัน และจะขอยื่นคำให้การเป็นเอกสารแก้ข้อหาภานใน 15 วัน พร้อมอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่หยิบยืมและเป็นเงินทำบุญ แต่พนักงานสอบสวนยืนยันว่ามีหลักฐานที่ระบุได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกระทำความผิดจริง โดยนายสามารถเป็นผู้เรียกรับเงินจากนายวรัตน์พล และเป็นผู้ควบคุมบัญชีธนาคารของนางวิลาวัลย์ จากคลิปเสียง พยานบุคคลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี
อ่านข่าว : "สามารถ" ปฏิเสธข้อหาฟอกเงิน - ทำเอกสารชี้แจงใน 15 วัน
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นออกคำสั่งขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสอง โดยให้เหตุผลว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนพฤติกรรมที่นายสามารถเดินทางไป จ.เชียงราย ในวันที่ถูกออกหมายจับจะเป็นพฤติกรรมการหลบหนีหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นนายสามารถอ้างว่าเดินทางไปทำบุญที่วัดในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย
สำหรับเงินที่หมุนเวียนในบัญชีของนางวิลาวัลย์ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของเงินจำนวนนี้ว่าโยงไปถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ แต่เบื้องต้นที่พบและมีหลักฐานในการดำเนินคดี มีเพียงจำนวนเงิน 2.5 ล้านบาทที่ได้จากนายวรัตน์พล เพียงเท่านั้น ส่วนเงินอีก 500,000 บาทที่ได้จากนายปีเตอร์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน ส่วนการแจ้งข้อหานายวรัตน์พล ในฐานความผิดฐานฟอกเงิน พนักงานสอบสวนจะเข้าไปภายในเรือนจำเร็วๆ นี้
สำหรับพยานที่นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล พามาให้การกับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ได้กำหนดให้เข้าพบถึงวันที่ 3 ธ.ค. พร้อมระบุว่าให้น้ำหนักตามข้อเท็จจริง แต่ส่วนใหญ่ในคำให้การของพยานกลุ่มนี้จะให้การว่านายวรัตน์พลไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะต่อสู้คดี แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรูปคดี
อ่านข่าว