วันนี้ (2 พ.ย. 67) ภายหลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์หลับอันดับที่ 14 ของศึกพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ ประกาศแต่งตั้ง "รูเบน อโมริม" นั่งแท่นกุนซือ โดยจ่ายค่าฉีกสัญญา 10 ล้านยูโรจาก สปอร์ติง ลิสบอน อย่างไรเสีย ตำแหน่งที่เขาได้รับนั้นเป็น "เฮดโค้ช" หรือ "หัวหน้าผู้ฝึกสอน" ไม่ได้เป็น "ผู้จัดการทีม" แบบเดียวกับที่แฟนบอลปิศาจแดงคุ้นเคย
เนื้องานของเฮดโค้ชและผู้จัดการทีมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผู้จัดการทีมนั้นมีอำนาจในการ "ซื้อขายผู้เล่น" วางแผน "งบประมาณ" การใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น การต่อหรือยกเลิกสัญญา การจ้างทีมงานสตาฟฟ์ หรือการเจรจาพาร์ทเนอร์สโมสร และวางแผน "การเล่นในสนาม" แท็คติก สไตล์การเข้าทำประตู หรือการแก้เกม
ส่วนเฮดโค้ชนั้นมีหน้าที่เพียงออกแบบการฝึกซ้อม วางแท็คติก และแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า "ในสนาม" บางทีอาจมีหน้าที่เพียงออกแบบการฝึกซ้อมเพียงเท่านั้น และให้อำนาจ "หัวหน้าด้านแท็คติก" ออกแบบการเล่นและจัดตัวผู้เล่นแทน ที่สำคัญ อำนาจด้านการเงินและการบริหารจะอยู่ที่ตำแหน่ง "ประธานเทคนิค" หรือ "ผู้อำนวยการสโมสร" แทน
นับเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ของพลพรรคเรดเดวิล เพราะที่ผ่านมาสโมสรแต่งตั้งตำแหน่งผู้จัดการทีมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นบรมกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือแม้กระทั่ง เอริก เทน ฮาก ที่ทำผลงานได้อย่างสุดบู๊ แต่เทรนด์การบริหารสโมสรฟุตบอลสมัยใหม่ มีการแบ่งแยกกันชัดเจนระหว่างเรื่องในสนามและเรื่องนอกสนาม ซึ่งสโมสรอื่น ๆ ในพรีเมียร์ลีกได้หันมาใช้โมเดลดังกล่าวมาพอสมครวรแล้ว
สำหรับกุนซือหนุ่มวัย 39 ปี จะเริ่มงานเฮดโค้ชกับแมนยูฯ ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ โดยเกมแรกเป็นการออกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ ของคีแรน แม็คเคนนา อดีตสตาฟฟ์โค้ชของทีมสมัย โอเล กุนนาร์ โซลชา เป็นแม่ทัพ ที่สนามพอร์ตแมน โร้ด ในวันที่ 24 พ.ย. นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รุด ฟาน นิสเตลรอย ปลุก ปิศาจ (แดง) ต้องใช้ “ปิศาจ”?
สื่อเผย "แมนฯ ยู" ทุ่มเงิน 10 ล้านยูโร ฉีกสัญญาคว้า "รูเบน อโมริม"