ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ล่ามปฏิเสธร่วมกับ ตร.รีดทรัพย์ชาวต่างชาติ 5 ล้านบาท

อาชญากรรม
1 พ.ย. 67
20:21
245
Logo Thai PBS
ล่ามปฏิเสธร่วมกับ ตร.รีดทรัพย์ชาวต่างชาติ 5 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คดีที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินสูงถึง 300 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับผู้เสียหายชาวต่างชาติ ต่อมาต่อรองเหลือ 5 ล้านบาท ซึ่งมีตำรวจตกเป็นผู้ต้องหา 9 นาย ส่วนพลเรือนที่ถูกกลาวหาว่าร่วมขบวนการมอบตัวสู้คดี

วันนี้ (1 พ.ย.2567) น.ส.ทราย ล่ามชาวไทย พร้อมสามีชาวจีน เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ โดยทนายความเปิดเผยว่า น.ส.ทราย เคยร่วมงานกับตำรวจท่องเที่ยวบ่อยครั้ง และไม่มีการเรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวทั้งคู่

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ตำรวจ สอท.นำกำลังเข้าค้นบ้านชาววานูอาตูใน จ.สมุทรปราการ ก่อนรีดทรัพย์ 300 ล้านบาท จากนั้นกลุ่มตำรวจพาผู้เสียหาย 5 คนไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือ สอท.1 ระหว่างนั้นมีการต่อรองเหลือ 5 ล้านบาท ก่อนที่ทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว แต่ตามข้อกล่าวหา ระบุว่า ล่ามชาวไทยได้ติดต่อเพื่อนผู้เสียหายเพื่อรีดเงิน แลกกับข้อมูลชุดจับกุมอีก 700,000 บาท รวมเป็นเงิน 5.7 ล้านบาท

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจ สอท.1 ให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้เสียหายชาววานูอาตู พร้อมภรรยาชาวไทย แจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 17 ต.ค. กล่าวหาตำรวจชุดจับกุม ประกอบด้วย ตำรวจ สอท.1 รวม 3 นาย และตำรวจจากหน่วยอื่นที่ร่วมตรวจค้นอีก รวม 6 นาย และมีพลเรือนร่วมอีก 3 คน

พฤติการณ์ตามข้อกล่าว มีตำรวจ สอท. 1 จำนวน 3 นาย, สารวัตรปราบปราม ภูธรจังหวัดนครราชสีมา 1 นาย, รองสารวัตรปราบปราม ภูธรจังหวัดสมุทรปราการ 1 นาย, สืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี 1 นาย, ตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย และ ปคบ. อีก 1 นาย พร้อมพลเรือนอีก 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มล่าม ร่วมตรวจค้นบ้านพักผู้เสียหายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ชุดที่ไปตรวจค้นอ้างว่า มีคดีจับกุมชาวฟิลิปปินส์ 4 คน โดยซัดทอดมาถึงนายไซ ชาววานูอาตู อ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมหนังสือเดินทาง ซึ่งชาววานูอาตูปฏิเสธ ขณะที่ในบ้านที่เกิดเหตุพบแม่บ้านเป็นชาวต่างชาติ ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตำรวจชุดที่ไปตรวจค้นจึงแจ้งดำเนินคดีเกี่ยวกับการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย

จากนั้นเกิดการเรียกรับเงิน โดยให้ล่ามผู้หญิงชาวไทยเรียกรับเงินจากนายไซ 300 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่นายไซแจ้งว่าไม่มีเงินสกุลไทยมากพอ ทำให้ทั้งหมดถูกคุมตัวไปสอบสวนที่ สอท.1 และเรียกรับเงินในจำนวนที่ลดลงมาที่ 10 ล้านบาทและต่อรองจนเหลือ 5 ล้านบาท โดยนายไซจ่ายให้เป็นเงินสกุลดิจิทัล โอนเข้ากระเป๋าดิจิทัลวอลเล็ตของ น.ส.ทราย ผู้เป็นล่าม

จากการสอบสวน พบการโอนเงินช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค.จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นตำรวจชุดตรวจค้นได้ปล่อยตัวทั้งหมดโดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด วันรุ่งขึ้น (17 ต.ค.) พบการโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.ทราย อีกครั้ง ทั้ง 3 ครั้งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5 ล้านบาท แต่หลังจากโอนเงินครบจำนวนผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ จึงเข้าแจ้งความ

สำหรับการดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง แจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจรวม 9 นาย ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบฯ ส่วนพลเรือน 3 คน ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ร่วมกันเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา พลเรือน 1 คนและตำรวจทุกนายได้รับการประกันตัวชั่วคราว โดยตำรวจถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและย้ายไปช่วยราชการระหว่างต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริง

อ่านข่าว

เด้ง 3 ตร.-ตั้งกก.สอบ ร่วมกับพวก 12 คน รีดชาวจีน 300 ล้าน

ดีเอสไอเร่งหาหลักฐานเอาผิดแชร์ลูกโซ่ 18 ผู้ต้องหาดิไอคอน

“พาณิชย์” ปูพรมตรวจห้าง-ตลาดสด ย้ำ น้ำมันปาล์มขวด ไม่ขาดตลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง