วันนี้ (26 ต.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดิไอคอน กรุ๊ป ว่า วันนี้ได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีนี้ ซึ่งมี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นหน่วยงานแรกที่ไปทำคดีนี้ รวมถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยทั้ง 3 หน่วยงานถือเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งได้รับรายงานจากตำรวจว่า ขณะนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่จากการรับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งจากส่วนกลางและต่างจังหวัด โดยผลการสืบสวนเข้าเงื่อนไขที่จะส่งมอบสำนวนคดีให้กับดีเอสไอ
ขอสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ยกคดีให้ดีเอสไอดำเนินการแล้ว ผู้ที่ดำเนินการตั้งแต่ต้นจะทิ้งคดี แต่จะเป็นเรื่องที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการสอบสวนขณะนี้สำนวนใกล้เสร็จหมดแล้ว พร้อมจะยื่นให้กับดีเอสไอ ไม่ใช่การโยนความรับผิดชอบ แต่เป็นการมอบตามกระบวนการทางกฎหมาย
ขณะที่ 3 ส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันทำงานต่อไป แต่จะทำให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง โดยตำรวจจะยื่นคดีให้กับดีเอสไอ ในวันจันทร์ที่ 28 ต.ค.นี้ ขณะที่ ปปง.จะช่วยรักษาทรัพย์
นายภูมิธรรม ยืนยันว่าทั้ง 3 หน่วยงานยังจะร่วมมือกันทำงาน แม้จะเปลี่ยนมือไปที่ดีเอสไอแล้ว เพราะเป็นคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับค่าเสียหาย 300 ล้านบาทขึ้นไป และผู้เสียหาย 100 คน พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าการเปลี่ยนผ่าน เป็นเพียงแค่ความตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามย้ำ 3 หน่วยงานยังจะร่วมมือกันทำงาน แต่หากติดขัดอะไรทางฝ่ายการเมืองก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน
ส่วนในการทำงานของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ชี้แจงกับที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ ว่า สคบ.ถูกกล่าวหาว่า มีบุคคลเกี่ยวข้องกับคดี จึงไม่ให้เข้ามาเป็นคณะทำงานสอบสวน แต่จะสนับสนุนให้การสอบสวนเกิดความยุติธรรม
ส่วนเมื่อมอบคดีให้กับดีเอสไอแล้วจะทำให้คดีเร็วขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องไปตรวจรายละเอียดในวันที่ 28 ต.ค.แต่ยืนยันจะทำคดีให้รวดเร็วที่สุด เชื่อว่า กระบวนการจะไม่มีอะไรสะดุดในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งดีเอสไอยืนยันแล้วว่า เพียงแค่วันเดียวหลังการส่งมอบดีเอสไอจะสามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
ส่วนผลการสอบสวนจะจบเพียงเท่านี้หรือจะมีการสอบสวนบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มบอสเพิ่มเติมหรือไม่ เบื้องต้นได้ดำเนินการแล้ว แต่จะดูข้อกฎหมายอีกครั้ง อย่างไรก็ตามยืนยันถ้ายังมีส่วนใดที่เกี่ยวข้องจะไม่มีการนิ่งนอนใจ โดยจะสามารถปิดคดีได้เพื่อให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ระบุถึงความคืบหน้าเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาคดีดิไอคอนเพิ่มเติมล็อต 2 ว่า ขณะนี้เป็นการดำเนินการตามที่ได้กล่าวไป และในวันที่ 28 ต.ค.นี้ จะส่งสำนวนไปให้ดีเอสไอ ซึ่งดีเอสไอจะเป็นเจ้าภาพต่อไปโดยตำรวจจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยดีเอสไออีกทีหลังจากนี้คงต้องไปหารือกัน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาในล็อตที่ 2 จะมีคนในวงการบันเทิงเข้าไปเกี่ยวข้องเพิ่มด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น
ส่วนกรณีที่เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2567 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดเส้นทางการเงิน 3 บอสดารา เป็นเงินที่ถูกกฎหมายหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า วันที่ 28 ต.ค.จะนัดคุยกันอีกที
อ่านข่าว : "บิ๊กเต่า" เรียก "อดีตสามีกฤษอนงค์" ให้ปากคำปมคลิปเสียงเรียกเงิน
โอนคดี "ทนายตั้ม" ฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน ให้สอบสวนกลาง
"ป่าไม้" ตอบปมแผ่นดินงอกไร่เชิญตะวัน แค่น้ำห้วยสักขึ้นลง